นักลงทุนมั่นใจเฟดลงดอกเบี้ย และสงครามหนุนทองคำแตะ 2,500 ดอลลาร์

สัปดาห์ที่ผ่านมาราคาทองคำปรับตัวขึ้นแรงทะลุ 2,500 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ (All-Time High) จากปัจจัยที่นักลงทุนมั่นใจว่าเฟดจะมีการปรับลดดอกเบี้ยในการประชุมเดือนก.ย.และแรงซื้อทองคำจากฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยจากสถานการณ์ในตะวันออกกลางและในยูเครน ทั้งนี้ปัจจัยแรงหนุนทองคำจากสัปดาห์ที่ผ่านมา ยังคงเป็นแรงหนุนต่อเนื่องในสัปดาห์นี้ ซึ่งสามารถติดตามปัจจัยที่สำคัญในสัปดาห์นี้ ได้แก่ การประชุมสัมมนานโยบายเศรษฐกิจ Jackson Hole สถานการณ์ในตะวันออกกลางและยูเครน และการประชุมของพรรคเดโมแครต การประชุมสัมมนานโยบายเศรษฐกิจ Jackson Hole การประชุมประจำปีของเฟดในปีนี้จะจัดขึ้นในระหว่างวันที่ 22-24 ส.ค.ในหัวข้อ "Reassessing the Effectiveness and Transmission of Monetary Policy" โดยจะจัดขึ้นที่รีสอร์ทแจ็กสัน เลค ลอดจ์ ซึ่งตั้งอยู่ในวนอุทยานแห่งชาติแกรนด์ เทตัน (Grand Teton National Park) ในเมืองแจ็กสัน โฮล รัฐไวโอมิง โดยนายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด จะกล่าวสุนทรพจน์ในวันศุกร์ที่ 23 ส.ค. เวลา 10.00 น.ตามเวลาสหรัฐซึ่งประธานเฟดอาจแสดงความเห็นเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจของสหรัฐ และมีแนวโน้มที่จะประกาศแผนสำหรับการปรับลดดอกเบี้ยเริ่มตั้งแต่เดือนก.ย.

ทั้งนี้ ณ ตอนนี้นักลงทุนมั่นใจเฟดจะปรับลดดอกเบี้ยในเดือนก.ย. โดยมีโอกาสถึง 75% ที่เฟดอาจจะปรับลดดอกเบี้ย 0.25% และมีโอกาสถึง 25% ที่เฟดจะปรับลดดอกเบี้ยมากถึง 0.50% ในเดือนก.ย.ซึ่งการคาดการณ์ว่าเฟดจะลดดอกเบี้ยในเดือนก.ย.นั้นได้หนุนราคาทองคำให้ปรับตัวขึ้นตลอดช่วงที่ผ่านมา

แม้ว่านักลงทุนจะเริ่มมั่นใจแล้วว่าเฟดจะปรับลดดอกเบี้ยในเดือนก.ย.แน่นอนนั้น แต่สิ่งที่นักลงทุนสนใจ ณ ขณะนี้ว่าเฟดจะมีการปรับลดดอกเบี้ยเท่าใด

ซึ่งขนาดการปรับลดดอกเบี้ยของเฟดอาจส่งผลกระทบต่อราคาทองคำ ซึ่งถ้าการแถลงของประธานเฟดสะท้อนว่ามีแนวโน้มที่เฟดอาจปรับลดดอกเบี้ยม

ากกว่าที่ตลาดคาด จะยิ่งหนุนราคาทองคำให้ปรับตัวขึ้นได้ต่อ อย่างไรก็ตาม เราคาดว่ามีความเป็นไปได้ว่าประธานเฟดจะเน้นย้ำถึงการปรับลดดอกเบี้ยอย่าง

ค่อยเป็นค่อยไป หรืออย่างมีขั้นตอน สถานการณ์ในตะวันออกกลางและยูเครน ในช่วงที่ผ่านมาสงครามในตะวันออกกลาง หรือในยูเครน เริ่มร้อนระอุ แม้ว่าจะมีการเจรจาหยุดยิงในฉนวนกาซาเกิดขึ้น แต่ก็ยังมีความตึงเครียดในตะวันออกกลางอยู่เนื่องจากอิหร่านเผยว่ามีเพียงข้อตกลงหยุดยิงในฉนวนกาซาเท่านั้นที่จะยับยั้งไม่ให้อิหร่านโจมตีอิสราเอล และอิหร่านจะโจมตีโดยตรงในกรณีการเจรจาหยุดยิงล้มเหลว และขณะที่มีการเจรจาเกิดขึ้น ทางอิสราเอลก็ยังเดินหน้าโจมตีฉนวนกาซาต่อไป ทำให้มีความเสี่ยงที่การเจรจาหยุดยิงนั้นอาจส่อแววล้ม 

อย่างไรก็ตาม ล่าสุดกาตาร์ สหรัฐ และอียิปต์เผยว่า การเจรจาหยุดยิงในฉนวนกาซาที่จัดขึ้นที่กรุงโดฮามีบรรยากาศในเชิงบวกและมีความคืบหน้า ซึ่งเจ้าหน้าที่ในคณะทำงานจะยังคงดำเนินการต่อไป โดยจะทำการเจรจาต่อรองเกี่ยวกับรายละเอียดในการบังคับใช้ข้อตกลงขณะเดียวกันสหรัฐก็ได้มีส่งกองเรือบรรทุกเครื่องบินโจมตี ฝูงบินขับไล่และเรือรบ ไปยังตะวันออกกลางเพิ่มเติม เนื่องจากเกรงว่าจะมีการตอบโต้จากอิหร่าน สร้างความตึงเครียดที่เพิ่มมากขึ้นในตะวันออกกลาง ส่วนด้านสงครามรัสเซีย-ยูเครน ก็มีความตึงเครียดเพิ่มมากขึ้น หลังรัสเซียชี้ว่ายูเครนใช้ขีปนาวุธของชาติตะวันตกโจมตีพลเรือน

การประชุมของพรรคเดโมแครต ในวันที่ 19-22 ส.ค.นี้ จะมีการประชุมของพรรคเดโมแครต ซึ่งต้องติดตามว่าว่าคามาลา แฮร์ริส จะได้รับการยอมรับจากคนในพรรคหรือไม่? เพื่อเป็นผู้ท้าชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐในปีนี้ อย่างไรก็ตาม เราคาดว่าคามาลา แฮร์ริสจะได้รับการยอมรับอย่างเป็นทางการ ทั้งนี้นางคามาลา แฮร์ริส ตัวแทนพรรคเดโมแครตลงชิงชัยเก้าอี้ประธานาธิบดีสหรัฐ และนายโดนัลด์ ทรัมป์ คู่แข่งจากพรรครีพับลิกัน ลงพื้นที่หาเสียงสุดสัปดาห์นี้ในรัฐเพนซิลเวเนีย ซึ่งถือเป็นรัฐสมรภูมิสำคัญรัฐหนึ่งของการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในวันที่ 5 พ.ย.นี้ ซึ่งรัฐเพนซิลเวเนียเป็นหนึ่งในสามของเขตรัสต์ เบลต์ (Rust Belt) หรือรัฐอุตสาหกรรมเก่า ร่วมกับรัฐวิสคอนซิน และรัฐมิชิแกน ทั้งนี้รัฐเพนซิลเวเนียมีคณะผู้แทนเลือกตั้งทั้งหมด 19 เสียง เมื่อเทียบกับรัฐมิชิแกนที่ 15 เสียงและรัฐวิสคอนซินที่ 10 เสียง จึงอาจเป็นสมรภูมิที่สำคัญที่สุดในการเลือกตั้งปีนี้ 

Gold Bullish

 ความขัดแย้งด้านภูมิรัฐศาสตร์ที่เพิ่มขึ้น ได้แก่ สงครามยูเครน-รัสเซีย

สงครามอิสราเอล-ฮามาส

 ธนาคารกลางทั่วโลกเข้าซื้อทองคำต่อเนื่อง

 ความต้องการทองจากกระแส De-Dollarization

 ตลาดคาดว่าเฟดจะลดดอกเบี้ยในการประชุมเดือนก.ย.

Gold Bearish

 การหยุดซื้อทองคำของธนาคารกลางจีน

นักลงทุนมั่นใจเฟดลดดอกเบี้ย และสงครามหนุนราคาทองคำแตะ 2,500

ดอลลาร์

แรงซื้อทองคำเข้ามาอย่างแข็งแกร่ง ทำให้ราคาทองคำปรับตัวขึ้นทะลุ 2,500 ดอลลาร์ ทำให้ราคาทองคำมีแนวโน้มปรับตัวขึ้นได้ต่อ ทั้งนี้ให้ระวังแรงเทขายออกมาบ้าง ซึ่งเป็นเรื่องปกติหลังจากที่ราคาทองคำดีดตัวขึ้นแรง โดยราคาทองคำมีแนวรับ 2,460 ดอลลาร์ และ 2,430 ดอลลาร์ และราคาทองคำมีแนวต้าน 2,520 ดอลลาร์ และแนวต้าน 2,540 ดอลลาร์ ส่วนราคาทองแท่งในประเทศมีแนวรับ 40,800 บาท และ 40,600 บาท ขณะที่มีแนวต้านที่ 41,400 บาท และ 41,600 บาท