เอสเอ็มอีจ่อขอพบนายกฯ จี้แก้ปัญหาสินค้าจีน
สมาคมอีคอมเมิร์ซ จับมือเอสเอ็มอีไทย ขอพบ "เศรษฐา" กู้วิกฤตสู้แพลตฟอร์มจีนบุกตีตลาดสินค้าออนไลน์ไทย และทุนจีนที่เข้ามารุกธุรกิจในไทยอย่างหนัก
นางสาวกุลธิรัตน์ ภควัชร์ไกรเลิศ นายกสมาคมผู้ประกอบการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ไทย (อีคอมเมิร์ซ) กล่าวกรณีแพลตฟอร์ม “เทมู” ของจีนว่า ส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการไทยอย่างแน่นอน โดยเฉพาะร้านค้าเอสเอ็มอี เนื่องจากขายสินค้าราคาถูก และส่งคืนสินค้านานกว่าแพลตฟอร์มอื่นๆ ได้ภายใน 90 วัน ขณะที่แพลตฟอร์มอื่นอยู่ที่ประมาณ 14 วัน คาดว่าจะทำให้ได้รับความสนใจจากลูกค้ามากขึ้น
ดังนั้นจึงอยากให้ผู้ประกอบการตระหนักถึงผลกระทบ รวมถึงภาครัฐด้วยเร่งหาวิธีการรับมือ ภายในเดือนกันยายนนี้ซึ่งสมาคมจะร่วมกับทางสมาพันธ์เอสเอ็มอีไทยทำหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี เพื่อกำหนดนโยบายด้านอีคอมเมิร์ซช่วยผู้ประกอบการเอสเอ็มอีไทยสู้กับสินค้าต่างประเทศ โดยเฉพาะจากจีน
ด้านนายแสงชัย ธีรกุลวาณิช ประธานสมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย เปิดเผยว่า สมาพันธ์ได้รับเรื่องปัญหาทุนจีนเข้ามารุกตลาดไทย เดือดร้อนต่อธุรกิจเอสเอ็มอีจำนวนมากและเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง และขอให้สมาพันธ์เป็นตัวกลางในการประสานงานกับนายกรัฐมนตรี และรัฐบาลให้เร่งป้องกันและแก้ไขโดยด่วน
ทั้งนี้ ธุรกิจที่ร้องขอกำลังถูกทุนจีนเข้ามารุกธุรกิจในไทย คือ ธุรกิจนำเที่ยวในลักษณะจีนศูนย์เหรียญ ผู้ผลิตสินค้าอุปโภคบริโภคยี่ห้อคนไทยถูกปลอมสินค้าและละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา ทำให้เข้าใจว่าผลิตโดยบริษัทคนไทย แต่มีการผลิตและนำเข้าจากจีน และจำหน่ายผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ หลังลูกค้าที่ซื้อไปร้องเรียนมากับบริษัทผู้ผลิต (ยาสีฟันยี่ห้อคนไทย) จึงรู้ว่าถูกปลอมสินค้าและไม่ได้ขายผ่านแพลตฟอร์มนั้น
ตอนนี้หลายธุรกิจไม่แค่แพลตฟอร์มออนไลน์ “เทมู” ที่รูปแบบทำธุรกิจเหมาทั้งระบบ กำลังเป็นปัญหาของธุรกิจไทยกำลังถูกฆ่าตัดตอน รัฐจะอ้างว่าเป็นเสรีการค้า เป็นคนละเรื่อง เปิดเสรีการค้าก็ต้องเป็นธรรมกับทุกฝ่าย แม้รัฐออกซอฟต์โลนแสนล้านบาท หรืออนุมัติ 50,000 ล้านให้ บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) ค้ำสินเชื่อเอสเอ็มอี ก็ติดเกณฑ์เดิมๆ คือ นิยามขนาดเอสเอ็มอีแต่ละธนาคารไม่เหมือนกัน และยังเลือกปล่อยกู้ให้ลูกค้าเดิมที่แข็งแรงอยู่แล้ว
ที่มา TNN
ข่าวแนะนำ