คลังยันอีก 1 เดือนรู้วันใช้เงินดิจิทัลแน่
“จุลพันธ์” รมช.คลัง ลุยดัน "ดิจิทัล วอลเล็ต" การันตีอีก 1 เดือนรู้ชัดวันใช้จ่ายเงิน แจง "พาณิชย์" ขยับแถลงลงทะเบียนร้านค้า ไม่เกี่ยวร้านเล็กไม่เข้าร่วม
นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการนโยบายโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่านดิจิทัล วอลเล็ต เปิดเผยว่า ยืนยันว่าอีก 1 เดือนจะเห็นความชัดเจนเกี่ยวกับวันใช้จ่ายเงินในโครงการดิจิทัลวอลเล็ตมากขึ้น
หลังจากที่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ระบุว่า ต้องการให้เริ่มใช้จ่ายเงินในโครงการฯ ได้ภายเดือน พ.ย.นี้ เพื่อกระตุ้นการใช้จ่าย และกระตุ้นเศรษฐกิจประเทศ โดยขณะนี้กระทรวงการคลัง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้พยายามเร่งเดินหน้าโครงการให้ดีที่สุด ซึ่งการจ่ายเงินยังเป็นไปตามกรอบระยะเวลาที่รัฐบาลกำหนดไว้ คือ ในไตรมาส 4/2567
อย่างไรก็ตาม ในวันที่ 9 ส.ค. 2567 จะมีการประชุมคณะอนุกรรมการนโยบายโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่านดิจิทัล วอลเล็ต โดยวาระการประชุมเป็นเรื่องของการเชื่อมต่อระบบธนาคารและผู้ให้บริการชำระเงินรายอื่น (Open Loop) เพื่อใช้ในโครงการดิจิทัล วอลเล็ต หลังจากที่ก่อนหน้านี้ได้มีการส่งรายละเอียดเกี่ยวกับเทคโนโลยีที่จะใช้เชื่อมต่อระบบให้ธนาคาร และผู้ให้บริการชำระเงินได้นำไปศึกษาดูแล้วว่าจะมีความเห็น หรือข้อเสนออย่างไร ซึ่งเป็นเรื่องของรายละเอียดด้านเทคนิค
สำหรับความคืบหน้าการลงทะเบียนยืนยันตัวตน และรับสิทธิ์ในโครงการดิจิทัล วอลเล็ต ผ่านแอปพลิเคชัน “ทางรัฐ” ล่าสุด ณ วันที่ 8 ส.ค. 2567 มียอดผู้ลงทะเบียนขอรับสิทธิสำเร็จแล้ว อยู่ที่ราว 27 ล้านคน แม้ยอดลงทะเบียนจะไม่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วเหมือนวันแรก ๆ แต่ก็ยังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
อย่างไรก็ดี ในส่วนกรณีที่กระทรวงพาณิชย์เลื่อนแถลงรายละเอียดเรื่องการลงทะเบียนร้านค้าที่จะเข้าร่วมโครงการฯ ออกไปอีก 1 เดือนนั้น เพื่อรอให้ประชาชนลงทะเบียนยืนยันตัวตน และรับสิทธิ์ให้เรียบร้อยก่อน เพื่อป้องกันการสับสน ยืนยันว่า ไม่เกี่ยวกับกระแสข่าวร้านค้าเมินเข้าร่วมโครงการฯ เนื่องจากกังวลเรื่องเงินคืน ขาดสภาพคล่อง และการโดนเก็บภาษีย้อนหลัง
ในความเป็นจริงแล้วยังได้รับรายงานว่า ปัจจุบันมีร้านค้าขนาดเล็กแสดงความสนใจเข้าร่วมโครงการฯ มากกว่า 100,000 รายแล้ว สูงกว่าที่ตั้งเป้าหมายที่คาดไว้ที่ 50,000 ราย ส่วนร้านค้าเริ่มลงทะเบียน ยังกำหนดเดิม คือ วันที่ 1 ต.ค. 2567 ไม่เปลี่ยนแปลง
ที่มา TNN
ข่าวแนะนำ