คาดธนาคารกลางจีนหยุดซื้อทองคำเพียงชั่วคราว

หลังจากที่สัปดาห์ก่อนมีกระแสข่าวการหยุดซื้อทองคำจากธนาคารกลางจีน ซึ่งนับว่าเป็นการหยุดซื้อทองคำจากธนาคารกลางจีนติดต่อกันเป็นเดือนที่ 2 และแนวโน้มการชะลอตัวการเข้าซื้อทองคำจากธนาคารกลางทั่วโลก ทำให้เป็นปัจจัยเชิงลบต่อราคาทองคำ ถ้าหากพิจารณาการเข้าซื้อทองคำจากธนาคารกลางจีนนับตั้งแต่ที่มีการเข้าซื้อครั้งแรกในรอบนี้นับตั้งแต่เดือนพ.ย. ปี 2022 ซึ่งมียอดการเข้าซื้อทองคำมากที่สุดในรอบนี้เลยทีเดียว โดยมียอดเข้าซื้อทองคำกว่า 32 ตันในเดือนพ.ย. ปี 2022 หลังจากนั้นธนาคารกลางจีนได้มีการเข้าซื้อทองคำทุกเดือนติดต่อกันกว่า 18 เดือน รวมยอดเข้าซื้อทองคำทั้งหมดในรอบนี้กว่า 316 ตัน อย่างไรก็ตาม แม้ว่าธนาคารกลางจีนจะมีการหยุดซื้อทองคำในเดือนพ.ค. และเดือนมิ.ย. แต่นับว่าธนาคารกลางจีนได้มีการเข้าซื้อทองคำมาแล้วในปีนี้กว่า 29 ตัน และยังถือว่าธนาคารกลางจีนมีการเข้าซื้อมากที่สุดเป็นอันดับที่ 2 ในปีนี้ รองจากตุรกี และอันดับที่ 3 คืออินเดีย

 

หากพิจารณาถึงกราฟข้างบน จะเห็นว่าธนาคารกลางจีนเริ่มมีการชะลอการเข้าซื้อทองคำนับตั้งแต่เดือนก.ย.ปี 2023 ซึ่งสวนทางกับราคาทองคำ ณ ขณะนั้นราคาทองคำมีแนวโน้มพุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่องจนสามารถทำ All-Time High ใหม่อย่างต่อเนื่องในช่วงเดือนเม.ย. และพ.ค. ขณะที่ธนาคารกลางจีนมียอดเข้าซื้อทองคำเพียง 1.9 ตัน ในเดือนเม.ย. และธนาคารกลางจีนไม่มีการเข้าซื้อทองคำในเดือนพ.ค. ต่อเนื่องมาจนถึงเดือนมิ.ย.ที่ธนาคารกลางจีนไม่เข้าซื้อทองคำเลย สาเหตุอีกหนึ่งปัจจัยที่อาจทำให้ธนาคารกลางจีนเข้าซื้อทองคำลดลง มาจากการที่ราคาทองคำพุ่งขึ้นสูงอย่างมาก อย่างไรก็ตาม คาดว่าการหยุดซื้อทองคำจากธนาคารกลางจีนเป็นเพียงชั่วคราว หากราคาทองคำเริ่มชะลอตัวลง อาจมีแนวโน้มทำให้ธนาคารกลางจีนกลับเข้ามาซื้อทองคำอีกครั้ง สาเหตุต่อมา คือการชะลอตัวลงของเศรษฐกิจจีน ซึ่งอาจเป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้ธนาคารกลางจีนมีการชะลอการเข้าซื้อทองคำเช่นกัน

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าธนาคารกลางจีนจะหยุดซื้อทองคำ แต่ก็ไม่ได้มีการขายทองคำออกมา ซึ่งนั่นหมายความว่า ธนาคารกลางจีนยังคงเห็นแนวโน้มของราคาทองคำที่เป็นไปในทิศทางบวก ท่ามกลางความตีงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ที่อาจเกิดขึ้น แนวโน้มดอกเบี้ยขาลงของสหรัฐ และการเลือกตั้งสหรัฐ ที่อาจจะก่อให้เกิด Trade war ที่รุนแรง รวมถึงแนวโน้มค่าเงินหยวนที่อ่อนค่าลง อาจเป็นปัจจัยที่ทำให้ธนาคารกลางจีนจะกลับเข้ามาซื้อทองคำอีกครั้ง

 

Gold Bullish 

   ความขัดแย้งด้านภูมิรัฐศาสตร์ที่เพิ่มขึ้น ได้แก่ สงครามยูเครน-รัสเซีย สงครามอิสราเอล-ฮามาส

   ธนาคารกลางทั่วโลกเข้าซื้อทองคำต่อเนื่อง

   ความต้องการทองจากกระแส De-Dollarization

   ตลาดคาดว่าเฟดจะลดดอกเบี้ยในการประชุมเดือนก.ย.

 

Gold Bearish 

   เงินเฟ้อที่ยังอยู่ระดับสูงกว่าเป้าหมาย

   การหยุดซื้อทองคำของธนาคารกลางจีน

 

คาดว่าราคาทองคำอยู่ในช่วงปรับฐานเพื่อขึ้นต่อ แนะนำเข้าซื้อบริเวณแนวรับ 2,390 ดอลลาร์ และแนวรับ 2,370 ดอลลาร์ เป็นแนวรับที่สามารถเข้าซื้อได้ โดยราคาทองคำมีแนวรับ 2,390 ดอลลาร์ และแนวรับถัดไปคือ 2,370 ดอลลาร์ ขณะที่มีแนวต้าน 2,424 ดอลลาร์ และแนวต้าน 2,450 ดอลลาร์ ส่วนราคาทองแท่งในประเทศมีแนวรับ 40,800 บาท และ 40,600 บาท ขณะที่มีแนวต้านที่ 41,300 บาท และ 41,500 บาท

ธนรัชต์ พสวงศ์ 

ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มฮั่วเซ่งเฮง