จักรพงษ์ มั่นใจแจกเงินดิจิทัล ปั้นจีดีพีโต 3%

นายจักรพงษ์ แสงมณี รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้ให้แถลงถึงการใช้งบกลางของรัฐบาลว่า งบประมาณปี 2567 พึ่งผ่านสภาและพึ่งได้เริ่มใช้เดือนเมษายน ดังนั้นเรามีเวลาใช้จ่ายงบประมาณจริง ๆ 4-5 เดือน โดยมีการใช้จ่ายไปในส่วนที่ช่วยเหลือประชาชนแล้วหลายโครงการ ทั้งหมดในขณะนี้เบิกจ่ายไปแล้วและทำสัญญาแล้วกว่า 70% 

.

รัฐบาลไม่ได้มองแค่งบกลางอย่างเดียว หลาย ๆ โครงการทางรัฐบาลก็ได้ให้แต่ละกระทรวงใช้งบกระทรวงของตนเองก่อน เพื่อที่จะได้มีประสิทธิภาพที่สุด เพราะปีนี้เป็นปีที่งบประมาณล่าช้า การช่วยเหลือประชาชนไม่ได้จำเป็นต้องใช้งบประมาณอย่างเดียว เรายังมีการบริหารจัดการอื่น ๆ อย่าง GDP ของปีนี้ที่โตขึ้นมาได้ 

.

ส่วนใหญ่มากจากภาคการท่องเที่ยว ซึ่งนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ให้ความสำคัญอย่างมาก และเราสามารถบริหารจัดการโดยแทบไม่ได้ใช้งบประมาณเลย แต่ว่าเราสามารถทำให้ GDP จากภาคการท่องเที่ยวเป็นตัวช่วยให้เศรษฐกิจของประเทศดำเนินอยู่ได้ 

.

หรืออย่างในเรื่องของการปราบปรามยาเสพติดเราใช้งบประมาณน้อยมาก แต่สามารถทำได้มากกว่าปีที่แล้ว หรือในเรื่องการปราบปรามคอลเซ็นเตอร์ อาชญากรรมไซเบอร์ หรือเว็บพนันเราก็สามารถจับกุมได้มากขึ้น โดยที่ใช้งบประมาณน้อย แต่ยังเครื่องมืออื่น ๆ อีกนอกจากงบประมาณที่ใช้ช่วยเหลือประชาชน

.

งบประมาณของงบกลางทั้งหมดที่ทำมาแล้ว 70.75% การเบิกจ่ายรวมกับ PO 435,078 ล้านบาท คือรวมงบกลางทั้ง 11 รายการ แต่ถ้าเกิดจะเจาะจงในส่วนที่เป็นงบกลางฉุกเฉินนั้น 99,600 ล้านบาท ก็เป็นอีกตัวหนึ่งที่มีหลาย ๆ รายการดังที่กล่าวไปแล้วว่าใช้ในการช่วยเหลือประชาชน ตั้งเพื่อเรื่องน้ำท่วมน้ำแล้ง 7,600 ล้านบาท ที่อนุมัติไปเมื่อ 2 อาทิตย์ที่แล้ว 

.

งบประมาณในส่วนนี้นั้นได่มีการจัดสรรและประมาณไว้แล้วว่าในอีก 3-4 เดือนที่จะถึงนี้เราจะต้องใช้งบประมาณเท่าไร ได้มีการวางแผนไว้อยู่แล้ว จะมีแค่บางตัวที่เราไม่สามารถกำหนดได้ อย่างเช่น หากมีอุทกภัยเกิดขึ้น จะต้องช่วยในเรื่องใดบ้าง เราก็กันวงเงินเอาไง้ก่อนคร่าว ๆ เฉย ๆ แต่ในส่วนอื่นที่บริหารจัดการไว้แล้วว่าจะใช้อะไรบ้าง

.

ทั้งนี้ได้เตรียมประมาณการไว้ประมาณ 43,000 ล้านบาท หรือ 40% ของงบกลางฉุกเฉิน ที่กล้าใช้แบบนี้เพราะเมื่อตอนที่งบประมาณออกมานั้นเหลือเวลาเวลาการใช้เงินแค่ประมาณ 4-5 เดือน และวางแผนเอาไว้แล้วว่าจะมีงบพอที่จะใช้ในเรื่องของดิจิทัลวอลเล็ตได้ 

.

โดยจะยังมีการกันงบประมาณฉุกเฉินเอาไว้หากเกิดภัยพิบัติอีก 15,000 ล้านบาท โดยได้ดูจากที่เคยมีการใช้แล้วว่าหากมีเกิดขึ้น ไม่น่าเกินหลักพันล้าน ซึ่งตามกฎหมายแล้วงบกลางฉุกเฉินสามารถนำมาใช้เป็นงบดิจิทัลวอลเล็ตได้เนื่องจากสำนักงบประมาณได้คุยกับทางกฤษฎีกาแล้ว และยืนยันว่าสามารถทำได้

.

เรารู้อยู่แล้วว่าหนึ่งในขาที่สำคัญของ GDP คือการลงทุนภาครัฐ การลงทุนภาครัฐที่อยู่ในส่วนของการลงทุนมีประมาณ 700,000 กว่าล้านบาท อันนั้นเราเร่งการเบิกจ่ายอยู่แล้ว ซึ่งคาดว่าปีนี้ได้ 70-75% หรือประมาณ 500,000 ล้านบาท ตามที่ตนได้คุยกับรัฐมนตรีคลัง

. 

ทั้งนี้หากผลักมากไปกว่านั้นได้อีกยิ่งดีกับเศรษฐกิจ ซึ่งตอนนี้ก็พยายามทำอยู่ ซึ่งหากไปดูตั้งแต่เดือนมิถุนายนที่ผ่านมาก็มีการเบิกจ่ายประมาณ 100,000 ล้านบาท ค่อยลงไปเรื่อย ๆ อยู่แล้ว โดยมั่นใจว่า GDP จะได้ถึง 3% ตามเป้าหมาย ด้วยนโยบายทุกนโยบายรวมกันแล้ว