TNN การเลือกตั้งฝรั่งเศส อาจสร้างแรงซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย

TNN

Wealth

การเลือกตั้งฝรั่งเศส อาจสร้างแรงซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย

การเลือกตั้งฝรั่งเศส อาจสร้างแรงซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย

ราคาทองคำอาจปรับตัวลงต่อเนื่องจากแรงเทขายทองคำอย่างแข็งแกร่งต่อเนื่องจากในคืนวันศุกร์ ซึ่งมาจากแรงกดดันจากเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่า

การเลือกตั้งฝรั่งเศส อาจสร้างแรงซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยในสัปดาห์นี้จะมีการเลือกตั้งที่สำคัญอีกหนึ่งการเลือกตั้ง คือการเลือกตั้งฝรั่งเศส ซึ่งจะมีขึ้น 2 รอบในวันที่ 30 มิ.ย. และ 7 ก.ค. นับว่าเป็นอีกหนึ่งการเลือกตั้งที่น่าจับตามอง ภายหลังที่ประธานาธิบดีมาครงได้ประกาศยุบสภาหลังจากพรรคพันธมิตรสายกลางขอประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง ผู้นำฝรั่งเศส พ่ายแพ้ให้กับพรรคเนชั่นแนล แรลลี (National Rally) หรือ RN ซึ่งเป็นพรรคขวาจัด ในการเลือกตั้งรัฐสภายุโรปเมื่อวันที่ 9 มิ.ย. การเลือกตั้งนี้ถือว่าเป็นนัดที่สำคัญ และอาจสร้างต่อความผันผวนของราคาทองคำได้ หากพรรคขวาจัดหรือซ้ายจัดเป็นฝ่ายชนะการเลือกตั้งครั้งนี้ ซึ่งอาจนำไปสู่หนี้สาธารณะเพิ่มขึ้นอย่างมากและอาจสร้างปัจจัยบวกต่อราคาทองคำ

เนื่องจากผลสำรวจล่าสุดของ Ifop for LCI ชี้ว่า พรรค RN ของนางมารีน เลอ เปน ซึ่งมีจุดยืนต่อต้านสหภาพยุโรป (EU) และต่อต้านผู้อพยพจะได้รับคะแนนเสียง 33% ในการเลือกตั้งรอบแรกในวันที่ 30 มิ.ย. ส่วนคะแนนเสียงของกลุ่มพันธมิตรพรรคฝ่ายซ้ายจัดอยู่ที่ 28%

ขณะที่กลุ่มสายกลางของประธานาธิบดีมาครงตามมาเป็นอันดับสามที่ 18%  
ซึ่งถ้าพิจารณาจากผลสำรวจจะเห็นว่าคะแนนความนิยมของประธานาธิบดีมาครงลดลง
สาเหตุส่วนหนึ่งมาจากที่มาครงได้มีการริเริ่มแผนปฏิรูประบบบำเหน็จบำนาญได้แก่ การเพิ่มอายุเกษียณสำหรับพนักงานส่วนใหญ่ในฝรั่งเศส จากเดิม 62 ปี เป็น 64 ปี จนนำไปสู่เหตุการณ์ประท้วงครั้งใหญ่หลายสัปดาห์และการที่พรรคเนชั่นแนล แรลลี (National Rally) หรือ RN ซึ่งเป็นพรรคขวาจัด หรือพรรคลาฟร็องแซ็งซูมีซ (La France Insoumise: LFL) ซึ่งเป็นพรรคซ้ายจัด ที่ชูนโยบายคล้ายกันเป็นแนวประชานิยม สร้างความนิยมด้านคะแนนเสียงเป็นอย่างมากและมีโอกาสอย่างมากที่จะชนะการเลือกตั้งฝรั่งเศสในครั้งนี้ แต่อาจจะนำพาการเพิ่มหนี้สาธารณะมากขึ้น 

โดยสถาบันคลังสมอง Montaigne 
ประมาณการว่า นโยบายต่างๆ ของพรรค RN อาจมีค่าใช้จ่ายสูงถึง 1 แสนล้านยูโร หรือคิดเป็นมากกว่า 3.5% ของ GDP จึงอาจทำให้งบประมาณภาครัฐฝรั่งเศสขาดดุลสูงถึง 9% ของ GDP ซึ่งสร้างความวิตกกังวลต่อนักลงทุนเกี่ยวกับวิกฤตทางการคลังในฝรั่งเศสได้ ณ ตอนนี้ประเทศฝรั่งเศสถือว่ามีหนี้สาธารณะสูงที่สุดในยุโรปถึง 2.3 ล้านล้านยูโร ซึ่งฝรั่งเศสจำเป็นต้องลดการขาดดุลงบประมาณให้ต่ำกว่าเพดาน EU ที่ 3% ภายในปี 2570 มิฉะนั้นอาจถูกปรับเป็นเงินมูลค่า 0.05% ของ GDP ทุก ๆ 6 เดือนหากไม่สามารถปฎิบัติตามกำหนดได้ จึงปฎิเสธไม่ได้เลยว่านโยบายของทั้งพรรคขวาจัดและซ้ายจัด อาจสร้างความเสี่ยงมากขึ้นต่อการละเมิดกฎดังกล่าว ซึ่งมีโอกาสเสี่ยงที่ฝรั่งเศสจะถูกปรับเป็นเงินและเป็นการซ้ำเติมวิกฤตด้านงบประมาณ ที่หนี้สาธารณะพุ่งสูงขึ้นจากทุนเดิมอยู่แล้ว และประเด็นดังกล่าวอาจนำไปสู่แรงซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย
จากความกังวลว่าวิกฤติงบประมาณ วิกฤติทางการเงินจะเกิดขึ้นได้

การเลือกตั้งฝรั่งเศส อาจสร้างแรงซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย


Gold Bullish
 ความขัดแย้งด้านภูมิรัฐศาสตร์ที่เพิ่มขึ้น ได้แก่ สงครามยูเครน-รัสเซีย
สงครามอิสราเอล-ฮามาส
 ธนาคารกลางทั่วโลกเข้าซื้อทองคำต่อเนื่อง
 ความต้องการทองจากกระแส De-Dollarization
 การเลือกตั้งฝรั่งเศส หากพรรคขวาจัดหรือซ้ายจัดชนะการเลือกตั้ง


Gold Bearish
 เงินเฟ้อที่ยังอยู่ระดับสูงกว่าเป้าหมาย
 ตลาดคาดว่าเฟดตรึงดอกเบี้ยสูงนานขึ้น

ส่วนสำหรับแนวโน้มราคาทองคำในสัปดาห์นี้ คาดว่าในช่วงต้นสัปดาห์ราคาทองคำอาจปรับตัวลงต่อเนื่องจากแรงเทขายทองคำอย่างแข็งแกร่งต่อเนื่องจากในคืนวันศุกร์ ซึ่งมาจากแรงกดดันจากเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่า อย่างไรก็ตาม ทองคำอาจมีแรงซื้อเข้ามาหลังจากนั้นในช่วงกลางหรือปลายสัปดาห์นี้ จากความกังวลเกี่ยวกับผลการเลือกตั้งฝรั่งเศสในรอบแรก ทั้งนี้ จับตาแนวรับสำคัญบริเวณ 2,300 ดอลลาร์ หากยืนเหนือแนวรับบริเวณดังกล่าวได้ ให้เข้าซื้อทองคำ 

อย่างไรก็ตาม 
หากหลุดแนวรับดังกล่าว ให้รอจังหวะเข้าซื้อทองคำรอบใหม่ โดยราคาทองคำมีแนวรับ 2,300 ดอลลาร์ และแนวรับถัดไปคือ 2,285 ดอลลาร์ ขณะที่มีแนวต้าน 2,350 ดอลลาร์ และแนวต้าน 2,370 ดอลลาร์ ส่วนราคาทองแท่งในประเทศมีแนวรับ 40,300 บาท และ 40,000 บาท ขณะที่มีแนวต้านที่ 40,800 บาท และ 41,000 บาท

ธนรัตน์ พสวงศ์

ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มฮั่วเซ่งเฮง







ข่าวแนะนำ