จีนออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจขนาดใหญ่ ดันราคาทองคำปรับตัวขึ้น
หากดูจากสัญญาณทางเทคนิคของราคาทองคำยังคงบ่งชี้ทิศทางการปรับตัวขึ้นได้ต่อ แต่ก็ให้ระวังแรงขายมากขึ้นในระยะต่อไป เนื่องจากเริ่มเกิดสัญญาณ bearish divergence
ราคาทองคำยังคงปรับตัวขึ้นต่อเนื่องเข้าใกล้ All-Time High ซึ่งราคาทองคำจะสามารถปรับตัวขึ้นทะลุแล้วทำ All-Time High ใหม่ได้หรือไม่? เรายังคงต้องติดตามอีกหลายประเด็นที่ยังคงเป็นปัจจัยสนับสนุนทองคำ ซึ่งหากดูจากสัญญาณทางเทคนิคของราคาทองคำยังคงบ่งชี้ทิศทางการปรับตัวขึ้นได้ต่อ แต่ก็ให้ระวังแรงขายมากขึ้นในระยะต่อไป เนื่องจากเริ่มเกิดสัญญาณ bearish divergence อย่างไรก็ตาม ถ้าพิจารณาจากสัญญาณราคาทองคำยังคงปรับตัวขึ้นได้สูงต่อในระยะนี้ แต่ให้มีความระมัดระวังมากขึ้น ซึ่งในระยะนี้ยังคงมีปัจจัยที่เป็นบวกต่อราคาทองคำ ไม่ว่าจะเป็นแนวโน้มที่เฟดจะลดดอกเบี้ยในปีนี้ โดยตลาดมีความมั่นใจมากขึ้นว่าเฟดจะลดดอกเบี้ยปีนี้ 2 ครั้ง โดยเฟดจะเริ่มลดดอกเบี้ยในช่วงเดือนก.ย. การคาดการณ์การลดดอกเบี้ยของเฟดยังคงหนุนต่อการปรับตัวขึ้นของราคาทองคำ
และล่าสุดจีนได้มีการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจขนาดใหญ่ เพื่อกระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์ที่ซบเซาของจีน ซึ่งข้อมูลล่าสุดได้เผยให้เห็นว่าราคาบ้านจีนเดือนเม.ย.ปรับตัวลดลงในระดับต่ำสุดในรอบ 10 ปี โดยจีนได้ผ่อนคลายกฎระเบียบด้านการจำนอง โดยธนาคารกลางจีน (PBOC) ได้ยกเลิกอัตราดอกเบี้ยจำนองขั้นต่ำทั่วประเทศ พร้อมปรับลดสัดส่วนเงินดาวน์ลงสู่ระดับ 15% สำหรับผู้ที่ซื้อบ้านหลังแรกและ 25% สำหรับบ้านหลังที่ 2 โดยสัดส่วนเงินดาวน์ก่อนหน้านี้อยู่ที่ 20% และ 30% ตามลำดับ ซึ่งเป็นการประตุ้นแรงซื้ออสังหาริมทรัพย์
ทั้งนี้ วิกฤติอสังหาริมทรัพย์ของจีนทยอยเริ่มเกิดขึ้นในช่วงกลางปี 2564 บริษัทอสังหาริมทรัพย์หลายแห่งที่มียอดขายบ้านรวมกันในสัดส่วน 40% ของยอดขายบ้านทั้งหมดในจีน ได้เผชิญกับการผิดนัดชำระหนี้ โดยส่วนใหญ่เป็นบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ของเอกชน สถานะทางการเงินของบริษัทอสังหาริมทรัพย์จีนถูกสั่นคลอน หลังจากรัฐบาลจีนได้ออกมาตรการควบคุมภาวะร้อนแรงของภาคอสังหาริมทรัพย์ รวมทั้งสกัดการก่อหนี้ของบริษัทขนาดใหญ่ในภาคอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งรัฐบาลจีนได้บังคับใช้กฎเกณฑ์ใหม่ในการควบคุมปริมาณหนี้ของบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ขนาดใหญ่ โดยภาคอสังหาริมทรัพย์ถือเป็นเสาหลักสำคัญในการขยายตัวของเศรษฐกิจจีน และมีสัดส่วนผลผลิตทางเศรษฐกิจสูงเกือบ 30% การกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อช่วยภาคอสังหาริมทรัพย์ในจีนจะช่วยส่งผลต่อเศรษฐกิจจีนให้ฟื้นตัวดีขึ้น ทำให้ตลาดอาจเริ่มกลับมามั่นใจต่อแนวโน้มการเติบโตต่อเศรษฐกิจจีนมากขึ้น
จากข้อมูลทางสถิติพบว่า การขยายตัวของเศรษฐกิจจีนจะส่งผลทิศทางเดียวกันกับความต้องการทองคำ นั่นคือ เศรษฐกิจของจีนมีผลต่อความต้องการทองคำโลกอย่างมาก เนื่องจากจีนเป็นผู้ใช้ทองคำรายใหญ่ที่สุดของโลก ความต้องการทองคำจากจีนโดยส่วนใหญ่ประมาณ 70% มาจากความต้องการในภาคเครื่องประดับ ในช่วงเศรษฐกิจไม่ดี ความต้องการทองคำจะลดลง แต่ในช่วงเศรษฐกิจเติบโตดี ความต้องการทองคำจะเพิ่มขึ้นตามไปด้วย เมื่อย้อนกลับไปช่วงเกิดวิกฤติโควิดในปี 2563 เศรษฐกิจทั่วโลกได้รับผลกระทบจากมาตรการล็อคดาวน์ กิจกรรมทางเศรษฐกิจหยุดชะงัก เศรษฐกิจของจีนเติบโตเพียง 2% ความต้องการทองคำของจีนลดลง 28% เหลือเพียง 613 ตัน ส่วนในปี 2564 ที่เศรษฐกิจจีนขยายตัวสูงถึง 8.1% ความต้องการทองคำของจีนเพิ่มขึ้น 56% เป็น 959 ตันใกล้เคียงกับช่วงก่อนเกิดโควิด ทั้งนี้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจขนาดใหญ่ของจีนในครั้งนี้ ทำให้นักลงทุนมีความมั่นใจต่อเศรษฐกิจจีนมากขึ้น จึงมีแรงซื้อทองคำเข้ามา
ราคาทองคำดีดตัวแรงและปิดตลาดเข้าใกล้ระดับ All-Time High ขณะที่สัญญาณทางเทคนิคของราคาทองคำระยะสั้นใน Timeframe Day ยังมีสัญญาณการปรับตัวขึ้น โดย MACD>Signal line และ Modified Stochastic เส้น %K ยังตัดอยู่เหนือ %D สัปดาห์นี้ติดตามการเปิดเผยรายงานการประชุม FOMC และการแถลงของเจ้าหน้าที่เฟดหลายท่าน
จีนออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจขนาดใหญ่ ดันราคาทองคำปรับตัวขึ้น
Gold Bullish
ความขัดแย้งด้านภูมิรัฐศาสตร์ที่เพิ่มขึ้น ได้แก่ สงครามยูเครน-รัสเซีย สงครามอิสราเอล-ฮามาส
ธนาคารกลางทั่วโลกเข้าซื้อทองคำต่อเนื่อง
ความต้องการทองจากกระแส De-Dollarization
การคาดการณ์เฟดลดดอกเบี้ยในปีนี้
Gold Bearish
เงินเฟ้อที่ยังอยู่ระดับสูงกว่าเป้าหมาย
สัปดาห์นี้ราคาทองคำมีแนวรับอยู่ที่ 2,400 ดอลลาร์ และ 2,380 ดอลลาร์ ขณะที่มีแนวต้าน 2,431 ดอลลาร์ หากผ่านทะลุขึ้นไปได้มีแนวต้านถัดไปที่ 2,450 ดอลลาร์ ส่วนราคาทองแท่งในประเทศมีแนวรับ 41,000 บาท และ 40,700 บาท ขณะที่มีแนวต้านที่ 41,400 บาท และ 41,650 บาท
ธนรัชต์ พสวงศ์
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มฮั่วเซ่งเฮง
#ราคาทองคำ #สหรัฐ #Governmentshutdown #สภาคองเกรส #ประธานาธิบดีโจไบเดน #อัตราดอกเบี้ย #เงินดอลลาร์สหรัฐ #อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐพุ่ง #spot #spdr #ค่าเงินบาท #ธนรัชต์พสวงศ์ #กลุ่มฮั่วเซ่งเฮง #เงินดอลลาร์ #Bondyield #รีบาวด์ทางเทคนิค #การโจมตี #สงครามอิสราเอลฮามาส #กรุงเยรูซาเล็ม #ข้อพิพาท #สงคราม6วัน #FOMC #ธนาคารกลางสหรัฐ
ข่าวแนะนำ