ทองคำขาขึ้น! มีโอกาสลุ้นแตะบาทละ 36,000 ภายในปีนี้
ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยทองคำ ออกมายืนยันอีกเสียง "ราคาทองคำ" ในขณะนี้เป็นขาขึ้น มีโอกาสลุ้นแตะบาทละ 36,000 ภายในปีนี้
ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยทองคำ ออกมายืนยันอีกเสียง "ราคาทองคำ" ในขณะนี้เป็นขาขึ้น มีโอกาสลุ้นแตะบาทละ 36,000 ภายในปีนี้
นายพิบูลย์ฤทธิ์ วิริยะผล ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยทองคำ เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดทองคำปรับตัวเพิ่มขึ้นกว่า 600 บาท ภายใน 2 วันทำการ (ศุกร์ 1 และเสาร์ 2 มีนาคม) โดยเปิดตลาดวันที่ 2 มีนาคม ราคาทองปรับขึ้นทันที 400 บาท และยืนราคาตลอดทั้งวัน ทำให้ปิดตลาดราคาทองคำแท่ง (1 บาททองคำ) รับซื้อ 35,100 บาทต่อบาททองคำ ขายออก 35,200 บาท
สะท้อนว่าราคาทองคำกลับมาเป็นขาขึ้นแล้ว และมีสัญญาณมาตั้งแต่ช่วงราคาแตะ 34,400 บาทแล้ว โดยราคามีโอกาสทำจุดสูงสุดใหม่ หรือออลไทม์ไฮ และมีโอกาสปรับถึง 36,000 บาทภายในปีนี้ แต่จะขยับขึ้นถึง 38,000 บาท ต้องใช้เวลาอีก 1-2 ปี
อานิสงส์จากการรายงานตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐออกมาน้อยกว่าคาดไว้ ประมาณกว่าร้อยละ 2 ถือเป็นระดับที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ต้องการควบคุมให้อยู่ระดับนี้อยู่แล้ว จึงเป็นความหวังให้เฟดถึงเวลาปรับลดดอกเบี้ยลงแล้ว บวกกับเงินบาทอ่อนค่าลงเรื่อยๆ แม้ช่วงวันที่ผ่านมาแข็งค่าขึ้นบ้าง เพราะมีเม็ดเงินลงทุนต่างชาติ (ฟันด์โฟลว์) เข้ามา แต่ยังอ่อนค่าอยู่ ถือเป็นแรงสนับสนุนราคาทองคำสูงต่อเนื่อง
นายพิบูลย์ฤทธิ์ กล่าวว่า ราคาทองคำสปอต (ทองโลก) อยู่ที่ระดับ 2,080 เหรียญสหรัฐต่อออนซ์ คาดจะวิ่งขึ้นไปที่เดิม 2,140 เหรียญสหรัฐต่อบาททองคำ หากปรับขึ้นไปแล้ว จะมีแรงซื้อเข้ามาจากกลุ่มซื้อเทคนิคเข้ามาร่วมด้วย ทำให้ราคาทองคำจะยิ่งถูกดันสูงขึ้นไปอีก และยังไม่เห็นแรงขายออกมากนัก
ในช่วงต่อจากนี้ ยังไม่เห็นสัญญาณลบของราคาทองคำเข้ามาด้วย เนื่องจากมีปัจจัยสนับสนุนอยู่หลายเรื่อง โดยเฉพาะความขัดแย้งภูมิรัฐศาสตร์ สงครามต่างๆ ภาวะเศรษฐกิจที่ยังฟ้นตัวไม่เต็มที่ ทองคำถือเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยที่มีความต้องการสูง เป็นหลุมหลบภัยชั้นดี และหากเฟดประกาศลดดอกเบี้ยลงแล้ว ถือว่าของแสลงของทองคำหมดลง ปัจจัยลบที่มีผลกระทบหนักสุดจะหายไป เป็นผลบวกต่อราคาทองคำในระยะถัดไปด้วย
ภาพจาก TNN Online
ข่าวแนะนำ