ธ.ก.ส. เตรียมยกหนี้ให้แรงงานที่เสียชีวิต มาตรการเยียวยาจะพิจารณาเร็วๆ นี้

ธ.ก.ส.เตรียมออกสินเชื่อเยียวยาแรงงานไทยที่กลับจากอิสราเอล วงเงิน 1,500 ล้านบาท "กรณีเสียชีวิต" ธนาคารจะยกหนี้ให้ รายละเอียดอยู่ระหว่างรอบอร์ด พิจารณาในเร็วๆ นี้

นายฉัตรชัย ศิริไล ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่า สำหรับกรณีช่วยเหลือแรงงานไทยที่กลับจากอิสราเอลนั้น ธ.ก.ส. ได้ออกสินเชื่อตัวใหม่ คือ สินเชื่อเยียวยาแรงงานไทยที่กลับจากอิสราเอล โดยตั้งวงเงินไว้ที่ 1,500 ล้านบาท เบื้องต้นหลักการคล้ายกับสินเชื่อคืนถิ่น สำหรับแรงงานไทยที่กลับจากอิสราเอล ได้แก่ การปลอดชำระหนี้เป็นเวลา 1 ปี

นอกจากนี้ สำหรับเรื่องหนี้คงค้างมีสัญญาผูกพันกับ ธ.ก.ส. ของแรงงานไทยที่กลับจากอิสราเอลนั้น ธนาคารมีมาตรการจะลดดอกเบี้ยให้เหลือร้อยละ 2.5 แต่หากแรงงานผู้นั้นเสียชีวิต ธนาคารก็จะยกหนี้ให้ ซึ่งรายละเอียดส่วนของมาตรการเยียวยาดังกล่าว ยังอยู่ระหว่างรอคณะกรรมการ (บอร์ด) ธ.ก.ส.พิจารณาในเร็วๆ นี้ คาดว่าจะเริ่มได้ช่วงกลางเดือนพฤศจิกายนนี้

ส่วนสินเชื่อคืนถิ่นสำหรับแรงงานไทยที่กลับจากอิสราเอล ตามมติคณะรัฐมนตรีนั้น ตั้งกรอบวงเงินรวม 2,000 ล้านบาท โดยแบ่งเป็น ธนาคารออมสิน 1,000 ล้านบาท และ ธ.ก.ส.อีก 1,000 ล้านบาท ซึ่ง ธ.ก.ส.จะดูแลในส่วนของเกษตรกรเป็นหลัก เพื่อช่วยเติมเงินทุนในการประกอบอาชีพ โดยให้กู้รายละไม่เกิน 150,000 บาท อัตราดอกเบี้ยต่ำแบบลดต้นลดดอกร้อยละ 1 ต่อปี ระยะเวลาชําระคืนเงินกู้ไม่เกิน 20 ปี โดย 12 งวดแรก ไม่ต้องชำระเงินต้น จ่ายแต่ดอกเบี้ย และไม่ต้องมีหลักประกันหรือใช้บุคคลค้ำประกัน

ขณะที่ความคืบหน้าการพักชำระหนี้ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม - วันที่ 1 พ.ย. เวลา 10.00 น. มียอดผู้แสดงความประสงค์และตรวจสอบสิทธิ์เข้าร่วมมาตรการพักชำระหนี้ลูกค้ารายย่อย ผ่าน BAAC mobile แล้วจำนวนทั้งสิ้น 1,097,094 ราย คิดเป็นร้อยละกว่า 51 จากผู้มีสิทธิทั้งหมดกว่า 2 ล้านราย ทั้งนี้ประเมินว่าหากสิ้นสุดโครงการพักหนี้วันที่ 31 มกราคม 2567 น่าจะมีลูกค้าพักหนี้จำนวนร้อยละ 85 ของกลุ่มผู้มีสิทธิทั้งหมด

อย่างไรก็ตามอีกร้อยละ 15 นั้นคาดว่าจะไม่เข้าโครงการพักหนี้ดังกล่าว เพราะมีปัญหาเรื่องของสัญญาเงินกู้ของเกษตรที่บางรายเป็นการกู้ที่มีบุคคลค้ำประกัน แต่ปัจจุบันบุคคลที่ค้ำประกันเสียชีวิตและยังหาผู้ค้ำประกันรายใหม่ไม่ได้

ภาพจาก TNN Online / ธ.ก.ส.