TNN เงินเฟ้อสหรัฐอาจกลับไปพุ่งขึ้นได้อีกครั้ง

TNN

Wealth

เงินเฟ้อสหรัฐอาจกลับไปพุ่งขึ้นได้อีกครั้ง

เงินเฟ้อสหรัฐอาจกลับไปพุ่งขึ้นได้อีกครั้ง

สัปดาห์นี้ราคาทองคำจะเคลื่อนไหว Sideways ในช่วงต้นสัปดาห์ แต่คาดว่าอาจจะผันผวนได้จากการเปิดเผยของข้อมูลเงินเฟ้อ โดยหากข้อมูลเงินเฟ้อสะท้อนว่ามีแนวโน้มเพิ่มขึ้น จะกดดันตลาดทองคำ

สัปดาห์ก่อนราคาทองคำปรับตัวลงจากจุดสูงสุดในรอบ 1 เดือน โดยได้รับแรงกดดันจากเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นมากสุดในรอบกว่า 5 เดือน และ Bond Yield สหรัฐพุ่งสูงขึ้น  หลังจากข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐออกมาดี ไม่ว่าจะเป็นตลาดแรงงานแข็งแกร่ง จากจำนวนผู้ขอสวัสดิการว่างงานสหรัฐต่ำสุดรอบ 7 เดือน ส่วนดัชนีภาคบริการ ISM ของสหรัฐเดือนส.ค.พุ่งขึ้น ทำให้ความกังวลว่าเฟดอาจจะตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับสูงต่อไปเป็นเวลานาน   ทั้งนี้นักลงทุนยังคงติดตามตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐในสัปดาห์นี้ ซึ่งสหรัฐจะมีการเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนส.ค. และดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนส.ค. ก่อนที่เฟดจะจัดการประชุมนโยบายการเงินในวันที่ 19-20 ก.ย. แต่ในการประชุมครั้งนี้นั้น คาดว่าเฟดจะยังคงตรึงอัตราดอกเบี้ยไว้เท่าเดิมที่ระดับ 5.25-5.50% แต่สัญญาณจากเฟดจะยังคงยืนยันที่จะเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยต่อไปหรือไม่? เพื่อฉุดเงินเฟ้อให้ลงสู่ระดับเป้าหมายของเฟด ซึ่งสัญญาณของเฟดในการประชุมครั้งนี้มีผลต่อการคาดการณ์ทิศทางอัตราดอกเบี้ยที่สำคัญในการประชุมเดือนพ.ย. เนื่องจากนักลงทุนยังคงให้น้ำหนักระหว่างการตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับเดิม กับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 5.50-5.75% ในการประชุมเดือนพ.ย. ค่อนข้างให้น้ำหนักที่ใกล้เคียงกันมาก 


ณ ขณะนี้เงินเฟ้อของสหรัฐมีแนวโน้มปรับตัวลดลงต่อเนื่อง แต่การเปิดเผยข้อมูลเงินเฟ้อล่าสุดของสหรัฐ สะท้อนให้เห็นว่า เงินเฟดอาจกลับไปสูงขึ้นได้อีกครั้ง ซึ่งเราจะเห็นกราฟอัตราเงินเฟ้อเริ่มกลับหัวขึ้นนับตั้งแต่เดือนก.ค.ที่ผ่านมา โดยส่วนใหญ่มาจากอัตราค่าเช่าต่างๆ (Shelter Cost) สูงขึ้น จากก่อนหน้านี้มีกระแสข่าวค่าเช่าของสหรัฐปรับตัวลงแล้ว โดยอัตราค่าเช่าเพิ่มขึ้น 0.4% และเพิ่มขึ้น 7.7% จากปีที่แล้ว ทั้งนี้มากกว่า 90% ของการการเพิ่มขึ้นมาจากหมวดหมู่นั้น ซึ่งคิดเป็นประมาณ 1 ใน 3 ของการถ่วงน้ำหนักของ CPI ขณะที่ราคาอาหารกับราคาพลังงานก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน ผลจากการที่รัสเซียฉีกข้อตกลงธัญพืชในทะเลดำก็ส่งผลต่อราคาอาหารปรับตัวสูงขึ้น ประกอบกับราคาน้ำมันยังมีทิศทางปรับตัวขึ้น หลังจากซาอุดีอาระเบียประกาศขยายเวลาปรับลดกำลังผลิตน้ำมันโดยสมัครใจจำนวน 1 ล้านบาร์เรล/วันจนถึงสิ้นปีนี้ ขณะที่รัสเซียขยายเวลาปรับลดการส่งออกน้ำมันสู่ระดับ 300,000 บาร์เรล/วันจนถึงสิ้นปีนี้เช่นกัน อาจส่งผลต่อปริมาณน้ำมันที่ตึงตัว ทั้งนี้การเปิดเผยข้อมูลเงินเฟ้อในครั้งนี้ อาจจะสะท้อนทิศทางอัตราเงินเฟ้อของสหรัฐ หากมีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้น ก็จะส่งผลต่อแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐจะอยู่ในระดับสูงที่ยาวนานมากขึ้น

 

คาดว่าสัปดาห์นี้ราคาทองคำจะเคลื่อนไหว Sideways ในช่วงต้นสัปดาห์ แต่คาดว่าอาจจะผันผวนได้จากการเปิดเผยของข้อมูลเงินเฟ้อ โดยหากข้อมูลเงินเฟ้อสะท้อนว่ามีแนวโน้มเพิ่มขึ้น จะกดดันตลาดทองคำ แต่ถ้าข้อมูลเงินเฟ้อมีแนวโน้มลดลง จะเป็นแรงหนุนราคาทองคำให้ปรับตัวขึ้น ซึ่งสัปดาห์นี้ติดตามการประชุมธนาคารกลางยุโรปและการแถลงของธนาคารกลางยุโรป ส่วนสหรัฐจะเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนส.ค. ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนส.ค. ยอดค้าปลีกเดือนส.ค. (m/m) และดัชนีการผลิตรัฐนิวยอร์กเดือนก.ย. 


เงินเฟ้อสหรัฐอาจกลับไปพุ่งขึ้นได้อีกครั้ง

 

Gold Bullish 

    ภาวะเศรษฐกิจโลกมีความเสี่ยงเข้าสู่ภาวะถดถอย

    ความกังวลเกี่ยวกับวิกฤตภาคธนาคาร

    ความเสี่ยงความขัดแย้งด้านภูมิรัฐศาสตร์

 

Gold Bearish 

    แนวโน้มอัตราดอกเบี้ยสหรัฐอยู่ระดับสูงที่ยาวนานขึ้น

 

สัปดาห์นี้ราคาทองคำมีแนวรับอยู่ที่  1,900 ดอลลาร์ และ 1,890 ดอลลาร์ ขณะที่มีแนวต้าน 1,930 ดอลลาร์ และแนวต้าน 1,950 ดอลลาร์ ส่วนราคาทองแท่งในประเทศมีแนวรับ 32,100 บาท และ 32,000 บาท ขณะที่มีแนวต้านที่ 32,500 บาท และ 32,600 บาท

 

ธนรัชต์ พสวงศ์ 

ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มฮั่วเซ่งเฮง


ติดตามข่าวหุ้นและการลงทุนทางไลน์

• Line @TNNWEALTH : https://bit.ly/3tCKmiD

———————————————————————

ติดตาม TNN Wealth ผ่านช่องทางต่าง ๆ ได้ที่ 

• Youtube : https://bit.ly/TNNWealthYoutube

• TikTok : https://bit.ly/TNNWealthTikTok

 

หรือดูรายการ Live ได้ทาง https://bit.ly/3HmUu4O

 

 

 

 

 

 

ข่าวแนะนำ