เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ย แต่ ECB จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย

สัปดาห์ก่อนราคาทองคำฟื้นตัว จากเงินดอลลาร์อ่อนค่าลง และ Bond yield สหรัฐลดลง เนื่องจากข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐอ่อนแอลง ทั้งดัชนี PMI ภาคบริการเดือนพ.ค. จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานฯ ทำให้คาดเฟดจะไม่ขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนมิ.ย. ทั้งนี้ตลอดหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ราคาทองคำมีความอ่อนไหวต่อการคาดการณ์เกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยของเฟดเป็นอย่างมาก ก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่เฟดหลายรายต่างออกมาสนับสนุนให้เฟดขึ้นดอกเบี้ยต่อไป ด้วยอัตราเงินเฟ้อของสหรัฐยังคงอยู่ในระดับสูงกว่าเป้าหมาย จึงทำให้นักลงทุนคาดว่าเฟดอาจจะยังไม่ยุติวงจรดอกเบี้ยขาขึ้น และมีแนวโน้มที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนมิ.ย.นี้ 

อย่างไรก็ตาม ตัวเลขตลาดแรงงานของสหรัฐได้บ่งชี้ว่าตลาดแรงงานสหรัฐเริ่มคลายความร้อนแรง จึงอาจเป็นปัจจัยชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดในการประชุมเดือนนี้ อย่างไรก็ตาม นักลงทุนเริ่มคาดว่าเฟดอาจจะเบรกการขึ้นดอกเบี้ยเป็นการชั่วคราว แต่มีความเป็นไปได้ว่าเฟดอาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนก.ค. ซึ่งยังต้องติดตามอีกหลายปัจจัย ได้แก่ ตัวเลขเงินเฟ้อ โดยในสัปดาห์นี้เฟดจะมีการเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนพ.ค. และดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนพ.ค.

 

ซึ่งตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐจะมีการเปิดเผยก่อนการประชุมเฟดในวันที่ 13-14 มิ.ย. จะเห็นว่าดัชนี CPI และ PPI ยังคงมีแนวโน้มชะลอตัวลงต่อเนื่อง แต่ดัชนี Core PCE ยังไม่ได้ลดลงมากนัก ซึ่งต้องติดตามตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐต่อไปว่า หากตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐยังไม่ได้ลดลงมากเท่าไหร่นัก ก็อาจเป็นเหตุปัจจัยให้เฟดยังคงส่งสัญญาณการปรับขึ้นดอกเบี้ยได้อีกในการประชุมครั้งต่อไป ทำให้เป็นแรงกดดันราคาทองคำให้ปรับตัวลงอีกครั้งได้ 

ECB จะเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ย สวนทางกับเฟดที่จะเบรกขึ้นดอกเบี้ย

นอกจากการประชุมเฟดในวันที่ 13-14 มิ.ย. แล้ว หลังจากนั้นวันที่ 15 มิ.ย. จะมีการประชุมธนาคารกลางยุโรป ซึ่งคาดว่า ECB จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งนี้ และมีความเป็นไปได้ว่า ECB จะมีปรับขึ้นดอกเบี้ยติดต่อกัน 2 ไตรมาส โดยจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกในการประชุมเดือนก.ค. นอกจากนี้ในการประชุมครั้งนี้นักลงทุนจะให้ความสนใจไปที่การคาดการณ์รายไตรมาส และการส่งสัญญาณจาก ECB ถึงโอกาสความเป็นไปได้ที่เกิดขึ้นในการประชุมอีกครั้งในเดือนก.ย. ซึ่งจะทำให้ส่วนต่างของอัตราดอกเบี้ยของดอลลาร์และยูโรแคบลง และเงินยูโรจะแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์ และอาจจะหนุนราคาทองคำให้ปรับตัวขึ้นได้

ในช่วงต้นสัปดาห์คาดว่าราคาทองคำเคลื่อนไหว Sideways อย่างไรก็ตามในช่วงกลางสัปดาห์คาดว่าราคาทองคำจะผันผวน ซึ่งนักลงทุนจับตาการส่งสัญญาณเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยของเฟด หากเฟดมีการส่งสัญญาณการเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยต่อไปก็จะทำให้ราคาทองคำปรับตัวลง แต่ถ้าเฟดส่งสัญญาณว่าจะยุติการขึ้นดอกเบี้ย ก็จะเป็นแรงหนุนราคาทองคำขณะที่การขึ้นอัตราดอกเบี้ยของ ECB จะเป็นแรงหนุนเพิ่มเติมที่ทำให้ราคาทองคำปรับตัวขึ้น ภายหลังการประชุมของเฟด ส่วนสัปดาห์นี้สหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อ ได้แก่ ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนพ.ค. และดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนพ.ค.  นอกจากนี้ติดตามการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) ที่คาดว่าเฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยไว้เท่าเดิม

Gold Bullish 

    ภาวะเศรษฐกิจโลกมีความเสี่ยงเข้าสู่ภาวะถดถอย

    ความกังวลเกี่ยวกับวิกฤตภาคธนาคาร

    การคาดการณ์ว่าเฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนมิ.ย.

Gold Bearish 

    การส่งสัญญาณของเฟดเกี่ยวกับการขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมครั้งต่อไป

สัปดาห์นี้ราคาทองคำมีแนวรับอยู่ที่  1,940 ดอลลาร์ และ 1,930 ดอลลาร์ ขณะที่มีแนวต้าน 1,970 ดอลลาร์ และแนวต้าน 1,983 ดอลลาร์ ส่วนราคาทองแท่งในประเทศมีแนวรับ 32,100 บาท และ 32,000 บาท ขณะที่มีแนวต้านที่ 32,400 บาท และ 32,550 บาท

ธนรัชต์ พสวงศ์ 

ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มฮั่วเซ่งเฮง

ติดตามข่าวหุ้นและการลงทุนทางไลน์

• Line @TNNWEALTH : https://bit.ly/3tCKmiD

———————————————————————

ติดตาม TNN Wealth ผ่านช่องทางต่าง ๆ ได้ที่ 

• Youtube : https://bit.ly/TNNWealthYoutube

• TikTok : https://bit.ly/TNNWealthTikTok

 

หรือดูรายการ Live ได้ทาง https://bit.ly/3HmUu4O