SMEs ชง "พิธา" 5 เรื่องด่วนที่ต้องแก้ไข ให้เอสเอ็มอีอยู่รอด 13 มิ.ย.นี้
สมาพันธ์เอสเอ็มอี ชง ‘พิธา’ 13 มิ.ย.นี้ 5 เรื่องด่วนที่ต้องเร่งแก้ไขให้เอสเอ็มอีอยู่รอดอย่างยั่งยืน
นายแสงชัย ธีรกุลวาณิช ประธานสมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย เปิดเผยถึงความคืบหน้าการเตรียมข้อมูลข้อเสนอเพื่อหารือกับ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล (ก.ก.) และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พร้อมทีมเศรษฐกิจของพรรค วันที่ 13 มิถุนายน 2566 ที่สำนักงานสมาพันธ์เอสเอ็มอีว่า เวลานี้ยังคงมี 5 เรื่องหลักที่เตรียมหารือ โดยสัปดาห์นี้จะหารือกับสมาพันธ์เอสเอ็มอีแต่ละภูมิภาคเพื่อสรุปข้อมูลเนื้อหาร่วมกันอีกครั้ง สำหรับ 5 ประเด็น ประกอบด้วย
1.ขจัดปัญหาสะสมที่มีผลต่อต้นทุนและขีดความสามารถในการแข่งขัน โดยเฉพาะการปรับขึ้นค่าแรงงานขั้นต่ำเป็นวันละ 450 บาท เรื่องนี้มีผลกระทบ ยังไม่ถึงเวลาที่จะมีการปรับค่าแรงในอัตราสูงๆ ทันที ด้วยสภาพเศรษฐกิจและความพร้อมของเอสเอ็มอีรายย่อยที่ยังไม่ฟื้นตัวเท่าก่อนเกิดโควิด-19
2.เร่งแก้กฎหมายและกฎระเบียบที่ล้าสมัยและยังเป็นอุปสรรค ปัจจุบันมีขั้นตอนและใช้เวลามากต่อการจะยื่นขออนุมัติ อยากให้รื้อระบบที่ต้องใช้เวลาและค่าใช้จ่ายในระบบและนอกระบบ
3.สนับสนุนเอสเอ็มอีเป็นเครื่องมือหนึ่งในการหารายได้เข้าประเทศ ส่งเสริมให้ลงทุนในประเทศและต่างประเทศ
4.ยกระดับสมรรถภาพและขีดความสามารถเอสเอ็มอี และแรงงานภาคเอสเอ็มอี ส่งเสริมการเข้าถึงนวัตกรรม มาตรฐานสากล ออกระเบียบเอื้อการทำธุรกิจรายย่อยโดยตรง หนุนการใช้ดิจิทัลแพลตฟอร์มมาเสริมการทำงาน ลดต้นทุนในอนาคต
5.เร่งช่วยเหลือเอสเอ็มอีเข้าถึงแหล่งทุน อาทิ จัดตั้งกองทุนใหม่ หรือปรับกองทุนเดิมที่มีอยู่ มาเพิ่มสัดส่วนให้เอสเอ็มอีเข้าถึง จากปัจจุบันแหล่งทุนนอกระบบเสียอัตราดอกเบี้ยสูงถึงร้อยละ 20-30 ขณะที่ในระบบเสียร้อยละ 7-12
ทั้งนี้อยากให้รัฐบาลใหม่ดีไซต์มาตรการที่จะพยุงเอสเอ็มอีไม่แค่อยู่รอด แต่ต้องรอดแบบยั่งยืนด้วย
ที่มาภาพ : TNN ONLINE
ที่มาข้อมูล : TNN