TNN มีผลทันที! กนง.มีมติเอกฉันท์ "ขึ้นดอกเบี้ย" 0.25% สกัดเงินเฟ้อ

TNN

Wealth

มีผลทันที! กนง.มีมติเอกฉันท์ "ขึ้นดอกเบี้ย" 0.25% สกัดเงินเฟ้อ

มีผลทันที! กนง.มีมติเอกฉันท์ ขึ้นดอกเบี้ย 0.25% สกัดเงินเฟ้อ

กนง.มีมติเอกฉันท์เคาะขึ้น "ดอกเบี้ย" 0.25% ต่อปี จาก 1.25 % เป็น 1.50 % ต่อปี โดยให้มีผลทันที เพื่อสกัดเงินเฟ้อ

กนง.มีมติเอกฉันท์เคาะขึ้น "ดอกเบี้ย" 0.25% ต่อปี จาก 1.25 % เป็น 1.50 % ต่อปี โดยให้มีผลทันที เพื่อสกัดเงินเฟ้อ


นายปิติ ดิษยทัต เลขานุการ คณะกรรมการนโยบายการเงิน เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.) ว่า ที่ประชุมคณะกรรมการฯ มีมติเป็นเอกฉันท์ให้ขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25 % ต่อปี จาก 1.25 % เป็น 1.50 % ต่อปี โดยให้มีผลทันที

ทั้งนี้ เห็นว่าเศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มฟื้นตัวต่อเนื่อง โดยการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยวและการบริโภคภาคเอกชนจะได้รับแรงส่งต่อเนื่องจากการกลับมาของนักท่องเที่ยวจีน ขณะที่การส่งออกสินค้าชะลอตัวในปีนี้ แต่จะกลับมาขยายตัวดีขึ้นในปี 2567 ตามแนวโน้มเศรษฐกิจโลกที่ปรับดีขึ้น ด้านอัตราเงินเฟ้อทั่วไปมีแนวโน้มลดลง

แต่อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานยังทรงตัวในระดับสูง และมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นจากแรงกดดันเงินเฟ้อด้านอุปสงค์ตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ คณะกรรมการฯ เห็นว่าการทยอยปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายอย่างต่อเนื่องเป็นแนวทางการดำเนินนโยบายที่สอดคล้องกับแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและเงินเฟ้อ จึงเห็นควรให้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25 % ต่อปี ในการประชุมครั้งนี้

สำหรับเศรษฐกิจไทยขยายตัวต่อเนื่องและมีแนวโน้มที่ดีขึ้น โดยภาคการท่องเที่ยวจะฟื้นตัวเร็วขึ้นตามการกลับมาของนักท่องเที่ยวจีน ซึ่งจะช่วยสนับสนุนการจ้างงานและการกระจายรายได้ของลูกจ้างในภาคบริการและผู้ประกอบอาชีพอิสระที่มีจำนวนมาก รวมทั้งเป็นแรงส่งต่อเนื่องไปยังการบริโภคภาคเอกชน

ขณะที่การส่งออกสินค้ามีแนวโน้มชะลอลงในปีนี้ แต่จะฟื้นตัวในปี 2567 ตามการขยายตัวของเศรษฐกิจโลกที่คาดว่าจะผ่านจุดต่ำสุดในปี 2566 ก่อนจะปรับดีขึ้นในปีหน้า ทั้งนี้ คณะกรรมการฯ ประเมินว่าเศรษฐกิจโลกมีความเสี่ยงด้านต่ำลดลง ตามแนวโน้มเศรษฐกิจของประเทศเศรษฐกิจหลักรวมถึงจีนที่ปรับดีขึ้น

อย่างไรก็ดี อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานมีความเสี่ยงที่จะอยู่ในระดับสูงนานกว่าคาดจากการส่งผ่านต้นทุนที่อาจเพิ่มขึ้น เนื่องจากผู้ประกอบการเผชิญภาวะต้นทุนสูงต่อเนื่อง อีกทั้งการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยวจะส่งผลให้แรงกดดันเงินเฟ้อด้านอุปสงค์เพิ่มขึ้น จึงต้องติดตามความเสี่ยงเงินเฟ้ออย่างใกล้ชิด





ภาพจาก AFP

ข่าวแนะนำ