บุกไทย! "NITORI" เตรียมเปิดสาขาปีหน้า

Nitori Holdings บริษัทผู้จัดจำหน่ายเฟอร์นิเจอร์สัญชาติญี่ปุ่น มีฉายาว่า The Ikea Of Japan เตรียมขยายสาขาในประเทศไทย หลังก่อนหน้านี้ เริ่มขยายสาขาในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มาแล้ว คือประเทศมาเลเซียและสิงคโปร์ ในปี 2564 โดยจะใช้ประโยชน์จากจุดแข็งของภูมิภาคด้านซัพพลายเชนและทรัพยากรมนุษย์ เล็งเตรียมขยายสาขาทั้ง ไทย ฟิลิปปินส์ เวียดนาม อินโดนีเซีย และเกาหลีใต้เพิ่ม

NITORI (นิโตริ) ระบุว่า การมีซัพพลายที่แข็งแกร่งในภูมิภาค จะช่วยให้สามารถเปิดร้านสาขาได้อย่างสะดวก และยังมีข้อได้เปรียบทางด้านโลจิสติกส์อีกด้วย 

แต่การขยายสาขาในเอเชีย นอกประเทศญี่ปุ่น จะต้องแข่งขันกับร้านค้าในท้องถิ่นของประเทศ และซัพพลายเออร์เดิมที่อยู่มาก่อน แต่บริษัทได้มองเห็นศักยภาพในความไว้วางใจสูงในหมู่ผู้บริโภค สำหรับคุณภาพของญี่ปุ่นพร้อมกับราคาที่สมเหตุสมผล

NITORI (นิโตริ) ระบุว่า การเปิดสาขาในประเทศไทย จะมีในเดือนมีนาคม ปี 2567 โดยตั้งเป้าหมายเปิด 10 สาขาในกรุงเทพฯ และตั้งเป้าว่า จะเปิดสาขาในไทยได้ถึง 200 สาขา ด้วยวิธีการทยอยเปิดในทุก ๆ ปีต่อเนื่อง เนื่องจากฐานการผลิตสินค้าอยู่ในไทยและอาเซียนอยู่แล้ว เพื่อเป็นการลดต้นทุนด้านโลจิสติกและลดความเสี่ยงในเรื่องความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนอีกด้วย

ทั้งนี้ กลุ่ม NITORI (นิโตริ) ของญี่ปุ่น ได้เข้ามาทำธุรกิจในไทยมานานแล้ว ตั้งแต่ปี 2532 โดยตั้งบริษัท สยามนิโตริ จำกัด ตั้งอยู่ที่นิคมอุตสาหกรรมบางปู จังหวัดสมุทรปราการ  ปัจจุบันประกอบธุรกิจการผลิตพรมจากเม็ดพลาสติก และในปี 2554 ได้ตั้งบริษัท นิโตริ เทรดดิ้ง ประเทศไทย จำกัด ให้บริการตรวจสอบ ให้คำปรึกษาเกี่ยวกับคุณภาพสินค้า จำพวก เฟอร์นิเจอร์ เครื่องตกแต่ง เครื่องใช้ภายในบ้าน และส่งออกไปขายยังต่างประเทศ เช่น ญี่ปุ่น อเมริกา ไต้หวัน และ จีน

ล่าสุด 1 พฤศจิกายน 2565 ได้ตั้งบริษัท นิโตริ รีเทล ประเทศไทย จำกัด มีทุนจดทะเบียน 210 ล้านบาท ประกอบธุรกิจ การขายปลีกสินค้าอื่นๆในร้านค้าทั่วไป รวมทั้งในเว็บไซต์หางานชื่อดังในไทย ก็ได้มีการประกาศรับสมัครงานหลายตำแหน่งของนิโตริ รีเทล ประเทศไทย แล้ว ไปจนถึงช่องยูทูปและจดทะเบียนเว็บไซต์นิโตริสำหรับประเทศไทย แสดงให้เห็นว่า นิโตริ เตรียมการตั้งร้านและธุรกิจค้าปลีกในไทยแล้ว แม้จะยังไม่มีรายละเอียดของสถานที่หรือศูนย์การค้าที่คาดว่านิโตริจะเปิดสาขาแรกในไทยที่ใด รวมทั้งจะมีพันธมิตรทางธุรกิจในการขยายสาขาหรือไม่

ที่มาข้อมูล : TNN ONLINE

ที่มาภาพ : TNN