เปิดกลยุทธ์ "Flash Express - Kerry" ปรับตัวสู้สงครามราคา

นายคมสันต์ ลี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แฟลช เอ็กซ์เพรส จำกัด ผู้ให้บริการขนส่งพัสดุ Flash Express ยอมรับว่า ตลาด E-Commerce ในปี 2565 ชะลอตัว ไม่เป็นอย่างที่คาดการณ์ไว้ ทำให้ลดการโฆษณาและกระตุ้นตลาด เมื่อเทียบกับปี 2563 ที่ตลาดมีอัตราการเติบโตสูงถึง 200% 

ทั้งนี้ Flash Express มีต้นทุนเพิ่มขึ้น 2 เท่า เนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 ทำให้คลังสินค้าถูกปิด และพนักงานบางส่วนติดโควิด-19 จึงต้องจ้างพนักงานใหม่กว่า 7 พันคน และไม่สามารถปรับขึ้นราคาได้ ทำให้ปัจจุบันราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 25 บาท จึงต้องปรับโครงสร้างภายในและลดค่าใช้จ่าย ทั้งด้านเส้นทางเดินรถ และด้านการบริหารงานทั้งในและต่างประเทศ เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์และพฤติกรรมลูกค้า 

โดยฟิลิปปินส์ คือตลาดที่เติบโตสูงสุด ด้วยจำนวนประชากรกว่า 1 ร้อยล้านคน และในปีนี้จะขึ้นเป็นอันดับ 2 ในตลาด E-Commerce อีกด้วย ด้านสปป.ลาว จากผลกระทบวิกฤตเศรษฐกิจและอัตราแลกเปลี่ยนที่มีความผันผวนมาก ทำให้รายได้หายไปเกือบร้อยละ 40 

ทางด้าน Flash ประเทศไทย มีการวางแผนปรับปรุงคลังสินค้าให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น และโฟกัสธุรกิจ F-Commerce โดยจะเปิดให้บริการแบรนด์สินค้าบนแพลตฟอร์ม TikTok ในรูปแบบ MCN คือ เป็นตัวกลางเปิดให้อินฟลูเอนเซอร์หรือคนดังเข้ามาเซ็นสัญญาขายสินค้า และมีบริการครบวงจร รวมทั้งจะเน้นความเสถียรของบริการซึ่งขณะนี้ Flash Express มีความเร็วเป็นที่ 1 ในภูมิภาค เฉลี่ยส่งถึงภายใน 2 วัน 

นอกจากนี้ยังมีแผนการขยายบริการ Flash Money และ Flash Pay ที่ให้บริการกับกลุ่ม B2B เมื่อปีแล้ว โดย Flash Pay มีธุรกรรมปีที่แล้วกว่า 1 พันล้านบาท ส่วน Flash Money ได้ปล่อยสินเชื่อแล้ว 5 ร้อยล้านบาท แลในปีนี้มีแผนจะเริ่มให้บริการกับบุคคลทั่วไป แต่ในส่วนของการเข้าตลาดหลักทรัพย์จะขยายเวลาเป็นปี 2567

ด้านเคอรี่ เอ็กซ์เพรส นาย อเล็กซ์ อึ้ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เคอรี่ เอ็กซ์เพรส (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ในปี 2565 บริษัทเริ่มใช้กลยุทธ์ด้านราคาเชิงรุก เพื่อรักษาความเป็นผู้นำในตลาด

ส่วนในปี 2566 มุ่งให้ความสำคัญในการพัฒนาศักยภาพ และลดต้นทุนการดำเนินงานภายใน โดยนำแนวคิดแบบ LEAN โปรแกรมมาใช้ เพื่อให้เคอร์รี่ สามารถกลับมาทำกำไรได้อีกครั้ง 

นอกจากนี้ ยังมีแผนเร่งลงทุนด้านการจัดหาเครื่องจักร อุปกรณ์ และระบบที่จะเข้ามาพัฒนากระบวนการทำงานให้เป็นอัตโนมัติ โดยเครื่องมือและอุปกรณ์ชุดแรกจะมาถึงกรุงเทพฯ ในไตรมาสแรก และพร้อมใช้งานภายในไตรมาส 2 นี้ ซึ่งได้รับการถ่ายทอดความรู้ด้านเทคโนโลยีและด้านอุตสาหกรรมจากบริษัทในเครือ เช่น SF Holding ในประเทศจีน และ Kerry Logistics Network ในฮ่องกง 

ที่มาข้อมูล : TNN ONLINE

ที่มาภาพ : TNN