กบง.ตรึงราคา LPG ถึง 31 ม.ค.66 แต่ขึ้น NGV 1 บาทมีผล 16 ธ.ค.นี้
กบง.ตรึงราคา LPG ถึง 31 ม.ค.66 หวังลดภาระค่าครองชีพ แต่ขึ้น NGV 1 บาท จาก 16.59 บาทต่อกิโลกรัม เป็น 17.59 บาทต่อกิโลกรัม มีผล 16 ธ.ค.นี้
กบง.ตรึงราคา LPG ถึง 31 ม.ค.66 หวังลดภาระค่าครองชีพ แต่ขึ้น NGV 1 บาท จาก 16.59 บาทต่อกิโลกรัม เป็น 17.59 บาทต่อกิโลกรัม มีผล 16 ธ.ค.นี้
วันนี้( 14 ธ.ค.65) นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พลังงาน เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) ได้มีการพิจารณาแนวทางการทบทวนการกำหนดราคา
LPG เนื่องจากสถานการณ์ราคาก๊าซ LPG ตลาดโลกในปัจจุบันยังคงผันผวน โดย ณ วันที่ 29 พ.ย.65 อยู่ที่ 633.60 เหรียญสหรัฐฯ ต่อตัน เทียบได้กับราคาขายปลีกก๊าซ LPG ที่ประมาณ 480 บาทต่อถัง 15 กิโลกรัม ในขณะที่ราคาขายปลีกในประเทศอยู่ที่ 408 บาทต่อถัง 15 กิโลกรัม ส่งผลต่อสภาพคล่องของกองทุนน้ำมันฯ บัญชีก๊าซ LPG ติดลบ 1,352 ล้านบาทต่อเดือน และฐานะกองทุนบัญชีก๊าซ LPG ติดลบ 43,883 ล้านบาท
เข้าใกล้กรอบวงเงินกองทุนน้ำมันฯ ในส่วนของบัญชีก๊าซ LPG ที่ให้ติดลบได้ไม่เกิน 45,000 ล้านบาท
โดยที่ประชุม มีมติเห็นชอบการทบทวนการกำหนดราคาก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG) โดยให้คงราคาขายส่งหน้าโรงกลั่น LPG ที่ 19.9833 บาทต่อกิโลกรัม (ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) โดยมีกรอบเป้าหมายเพื่อให้ราคาขายปลีก LPG อยู่ที่ประมาณ 408 บาทต่อถัง 15 กิโลกรัม มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1-31 ม.ค.66
การดำเนินการตามแนวทางดังกล่าวจะช่วยลดผลกระทบค่าครองชีพของประชาชนแต่จะทำให้กองทุนน้ำมันฯ มีภาระเพิ่มขึ้น ซึ่งที่ประชุม กบง. ได้มอบหมายให้ฝ่ายเลขานุการฯ ประสานคณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) เพื่อพิจารณาบริหารจัดการเงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงให้สอดคล้องกับแนวทางการทบทวนการกำหนดราคาก๊าซ LPG ต่อไป
ทั้งนี้ที่ประชุม กบง. มีมติเห็นชอบมาตรการบรรเทาผลกระทบด้านน้ำมันเชื้อเพลิงกลุ่มดีเซลหมุนเร็ว เพื่อเป็นการช่วยลดภาระค่าครองชีพของประชาชนรวมถึงช่วยลดภาระกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงลง ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.-31 มี.ค.66 ดังนี้ น้ำมันดีเซลหมุนเร็ว บี7 ไม่ต่ำกว่า 6.6% และไม่สูงกว่า 7% โดยปริมาตรน้ำมันดีเซลหมุนเร็วธรรมดา ไม่ต่ำกว่า 6.6% และไม่สูงกว่า 10% โดยปริมาตร และน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว บี20 ไม่ต่ำกว่า 6.6% และไม่สูงกว่า 20% โดยปริมาตร โดยขอความร่วมมือจากผู้ค้าน้ำมันคงค่าการตลาดน้ำมันเชื้อเพลิงกลุ่มดีเซลหมุนเร็วไม่เกิน 1.40 บาท ต่อลิตร
ซึ่งที่ประชุมได้มอบหมายให้ฝ่ายเลขานุการฯ ประสานสำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง นำเสนอคณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ใช้กลไกกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงในการบริหารจัดการอัตราเงินกองทุนน้ำมันฯ เพื่อให้ค่าการตลาดของน้ำมันเชื้อเพลิงกลุ่มดีเซลหมุนเร็วแต่ละชนิดไม่เกิน 1.40 บาทต่อลิตร และมอบหมายให้กรมธุรกิจพลังงาน (ธพ.) ออกประกาศ ธพ. เรื่อง กำหนดลักษณะและคุณภาพ ของน้ำมันดีเซล (ฉบับที่ ..) พ.ศ. 2566 ให้สอดคล้องกับมาตรการบรรเทาผลกระทบ ต่อไป
นอกจากนี้ที่ประชุม กบง. ยังมีมติเห็นชอบให้กระทรวงพลังงานขอความอนุเคราะห์ บมจ.ปตท. (PTT) กำหนดราคาขายปลีกก๊าซ NGV ดังนี้
-รถยนต์ทั่วไป ให้ปรับขึ้นราคาขายปลีกก๊าซ NGV ณ วันที่ 16 ธ.ค.65 จาก 16.59 บาทต่อกิโลกรัม เป็น 17.59 บาทต่อกิโลกรัม โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 16 ธ.ค.65 เป็นต้นไป
-รถแท็กซี่ในโครงการเอ็นจีวีเพื่อลมหายใจเดียวกัน ของ ปตท. ให้คงราคาขายปลีกก๊าซ NGV ไว้ที่ 13.62 บาทต่อกิโลกรัม โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 16 ธ.ค.65 ถึงวันที่ 15 มี.ค.66
ซึ่งการช่วยเหลือตามแนวทางนี้ คิดเป็นวงเงินช่วยเหลือของ ปตท. ตั้งแต่วันที่ 16 ธ.ค.65 ถึงวันที่ 15 มี.ค.66 ประมาณ 2,682 ล้านบาท (รถยนต์ทั่วไป 2,407 ล้านบาท และรถแท็กซี่ 275 ล้านบาท)
นายสุพัฒนพงษ์ กล่าวว่า ที่ประชุมได้รับทราบความก้าวหน้าของมาตรการบริหารจัดการพลังงานในสถานการณ์วิกฤตราคาพลังงานในช่วงเดือนต.ค.-ธ.ค.65 และผลประเมินผลประโยชน์ทางการเงิน (Financial Benefit) จากการดำเนินมาตรการเพื่อลดการนำเข้า Spot LNG ราคาสูงเพื่อใช้ในการผลิตไฟฟ้า อีกทั้งสถานการณ์ราคาก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) ในตลาดโลกมีความผันผวน รวมถึงการอ่อนตัวของค่าเงินบาท
ที่ประชุมจึงมีมติเห็นชอบแผนบริหารจัดการพลังงานในสถานการณ์วิกฤตราคาพลังงาน ในช่วงเดือนม.ค.-เม.ย.66 เช่น มาตรการขอความร่วมมือประหยัดพลังงานในภาคธุรกิจ/อุตสาหกรรม จัดหาก๊าซในประเทศและเพื่อนบ้านให้ได้มากที่สุด การบริหารจัดการเพื่อให้เกิดการลดการใช้ก๊าซธรรมชาติในภาค ปิโตรเคมี และภาคอุตสาหกรรม เป็นต้น
โดยที่ประชุม กบง. ให้คณะอนุกรรมการบริหารจัดการรองรับสถานการณ์ฉุกเฉินด้านพลังงาน สามารถปรับรายละเอียดมาตรการและประมาณการเป้าหมาย หรืออาจเพิ่มเติมมาตรการให้มีความเหมาะสม สอดคล้องกับสถานการณ์ และเงื่อนไขข้อจำกัดในการดำเนินการ รวมทั้งกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้อง โดยคำนึงผลประโยชน์ของประชาชนเป็นสำคัญ และให้หน่วยงานผู้รับผิดชอบแต่ละมาตรการดำเนินการตามมาตรการให้บรรลุเป้าหมายในการลดการนำเข้า LNG Spot ราคาสูง
ที่ประชุม กบง. ยังได้มีมติเห็นชอบการขยายระยะเวลาการยกเว้นการสำรองน้ำมันเชื้อเพลิงเฉพาะปริมาณที่จำหน่ายเพื่อใช้ในการผลิตกระแสไฟฟ้าและขายกระแสไฟฟ้าทั้งหมดให้แก่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย โดยให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.66 เป็นต้นไป จนกว่าจะมีการยกเลิกมาตรการการใช้น้ำมันดีเซล น้ำมันเตาทดแทนการใช้ก๊าซธรรมชาติในการผลิตไฟฟ้า
ในช่วงสถานการณ์วิกฤตราคาพลังงาน และมอบหมายให้กรมธุรกิจพลังงาน (ธพ.) ดำเนินการออกประกาศ ธพ. ว่าด้วยกำหนดชนิดและอัตรา หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการคำนวณปริมาณสำรองน้ำมันเชื้อเพลิง และแจ้งมติดังกล่าวต่อผู้ค้าน้ำมันมาตรา 7 ให้ยื่นขอความเห็นชอบเปลี่ยนแปลงปริมาณการค้าตามขั้นตอนต่อไป อีกทั้งที่ประชุมได้มอบหมายให้คณะอนุกรรมการบริหารจัดการรองรับสถานการณ์ฉุกเฉินด้านพลังงาน ติดตามแผนบริหารจัดการพลังงานในสถานการณ์วิกฤตราคาพลังงาน ในช่วงเดือนม.ค.66 ถึงเดือนเม.ย.66 และรายงานต่อ กบง. ต่อไป
ขอบคุณภาพจาก OR