ระบาดหนัก! เปิด 3 ข้ออ้าง ทวงหนี้ผิดกฎหมาย ชอบใช้ข่มขู่
รองโฆษกรัฐบาล เผย ทวงหนี้ผิดกฎหมายระบาด พร้อมเปิด 3 ข้ออ้างกฎหมาย เจ้าหน้าที่ชอบใช้ ทั้งขู่ติดคุก ยึดทรัพย์ ทวงทั้งวัน ลูกหนี้สามารถร้องเรียนได้
นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า แม้หน่วยงานภาครัฐและธนาคารพาณิชย์จะได้ออกเตือนประชาชนอย่าหลงเชื่อการหลอกลงทุนและการปล่อยกู้ผ่านออนไลน์ แต่ยังคงมีประชาชนจำนวนมากตกเป็นเหยื่อ และที่พบมากขึ้นคือการที่แก๊งมิจฉาชีพส่งข้อความผ่านแอพพลิเคชั่นไลน์ทวงถามหนี้เงินกู้ พร้อมชักชวนให้ทำการกู้เงินในวงเงินเพิ่มเติม จึงขอแนะนำประชาชน หากถูกแก๊งทวงหนี้ แอบอ้าง ข่มขู่ ตั้งสติให้ดี แล้วทำการบันทึกข้อมูลการสนทนา ภาพถ่าย คลิปวิดีโอ เอกสารหลักฐานที่เกี่ยวข้องไว้ด้วยเพื่อใช้ในการดำเนินคดีภายหลัง
ขณะเดียวกัน ทางธนาคารแห่งประเทศไทย โดยศูนย์คุ้มครองผู้ใช้บริการทางการเงิน ได้รวบรวมข้ออ้างที่คนทวงหนี้ใช้บ่อย ซึ่งมักอ้างกฎหมายมาขู่ให้ลูกหนี้กลัว ดังนั้น สิ่งที่ลูกหนี้ต้องรู้เพื่อไม่ให้เสียเปรียบ เช่น 1.การขู่ว่าเป็นหนี้ไม่จ่ายจะติดคุก ซึ่งความจริงคือ การไม่จ่ายหนี้ไม่ใช่ความผิดตามกฎหมายอาญา แต่เจ้าหนี้สามารถฟ้องร้องให้ลูกหนี้ชำระหนี้ได้ 2.จะมีการยึดทรัพย์ทันทีถ้าไม่จ่าย ซึ่งความจริงคือ เจ้าหนี้ต้องฟ้องร้องต่อศาลจนคดีถึงที่สุดก่อน 3.การโทรทวง เช้า กลางวัน เย็น ไม่สามารถทำได้ กฎหมายให้ทวงหนี้ได้วันละ 1 ครั้งเท่านั้น
ทั้งนี้ กฎหมายกำหนดไว้ว่าการติดตามทวงหนี้ ซึ่งมีลักษณะการพูดจาข่มขู่ ดูหมิ่น การเปิดเผยข้อมูลการเป็นหนี้ของลูกหนี้ การใช้ความรุนแรงทำให้ทรัพย์สินได้รับความเสียหาย อาจจะถูกดำเนินคดีในข้อหา ฝ่าฝืน พ.ร.บ.การทวงถามหนี้ มีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 100,000 บาท
ส่วนผู้ที่ประกอบธุรกิจสินเชื่อโดยไม่ได้รับอนุญาต มีโทษจำคุก 1-5 ปี ปรับตั้งแต่ 100,000-500,000 บาท และ การเรียกเก็บดอกเบี้ยเกินอัตราที่กฎหมายกำหนด มีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 200,000 บาท และหากมีการตรวจสอบพบทรัพย์สินที่ได้จากการกระทำความผิด ก็อาจมีความผิดเกี่ยวกับ พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน หรือกฎหมายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง
ที่มาข้อมูล : TNN ONLINE
ที่มาภาพ : TNN