SGC เตรียมขาย IPO หลัง กลต. นังหนึ่งแบบไฟลิ่ง
SGC เตรียมขาย IPO หลัง กลต. นังหนึ่งแบบไฟลิ่ง
สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้อนุมัติแบบคำขออนุญาตเสนอขายหลักทรัพย์ นับหนึ่งแบบไฟลิ่งของ SGC เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างเตรียมความพร้อมเพื่อเสนอขายหุ้น IPO และเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ในหมวดธุรกิจเงินทุนและหลักทรัพย์โดยจะเสนอขายหุ้นสามัญต่อประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวนไม่เกิน 820 ล้านหุ้น คิดเป็น 25.08% ของจำนวนหุ้นที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมดของบริษัท ภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนในครั้งนี้ ประกอบด้วย การเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวนไม่เกิน 574 ล้านหุ้น (หรือคิดเป็นประมาณ 70% ของจำนวนหุ้นสามัญที่เสนอขายทั้งหมด) มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท ให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมของ บริษัท ซิงเกอร์ประเทศไทย จำกัด (มหาชน) หรือ SINGER ที่มีสิทธิได้รับการจัดสรรตามสัดส่วนการถือหุ้น
โดยให้ Pre-emptive Right ในอัตราส่วน 1.4326 หุ้นสามัญของบริษัทต่อ 1 หุ้นสามัญเพิ่มทุนของ SGC ในราคาเสนอขายเดียวกับราคาเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนของ SGC ให้แก่ประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) ทั้งนี้ SINGER ซึ่งมีสัดส่วนการถือหุ้น SGC ก่อน IPO 100% และภายหลัง IPO จะมีสัดส่วนการถือหุ้น 74.92%
นางสาวบุษบา กุลศิริธรรม กรรมการผู้จัดการ SGC กล่าวว่า บริษัทมุ่งเน้นการขยายธุรกิจด้านสินเชื่อที่มีทะเบียนรถเป็นประกันโดยเฉพาะรถบรรทุก และเป็นพันธมิตรทางธุรกิจที่ดีกับสินค้าและบริการในเครือซิงเกอร์ประเทศไทย โดยวางเป้าหมายการเติบโตของมูลค่าลูกหนี้พอร์ตสินเชื่อทะยานสู่ 50,000 ล้านบาท ภายในปี 2569 จาก ณ สิ้นงวดครึ่งปีแรกของปี 2565 มีมูลค่าลูกหนี้ 13,808.66 ล้านบาท
สำหรับผลิตภัณฑ์ของ SGC ประกอบด้วย (1) สินเชื่อประเภทให้เช่าซื้อรถยนต์แบบโอนกรรมสิทธิ์เล่มทะเบียน และสินเชื่อที่มีทะเบียนรถเป็นประกัน (รถบรรทุก รถยนต์นั่ง ส่วนบุคคล รถยนต์เพื่อการพาณิชย์) ภายใต้แบรนด์ “รถทำเงิน”
(2) สินเชื่อเช่าซื้ออุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าและเครื่องใช้ในครัวเรือน (Home Appliances) เครื่องใช้ไฟฟ้าในเชิงพาณิชย์ (Commercial Appliances) และ เครื่องจักร (Captive Finance) (3) สินเชื่อสวัสดิการพนักงาน (Debt Consolidation) และ (4) สินเชื่อผ่อนทอง (Click2Gold)
สำหรับผลการดำเนินงานของ SGC ในงวด 6 เดือนแรกของปี 2565 มีรายได้รวมอยู่ที่ 1,030.68 ล้านบาท เติบโต 18.36% จากงวดเดียวกันของปีก่อน โดยมีสัดส่วนรายได้หลักมาจากรายได้ดอกเบี้ย ประกอบด้วย รายได้ดอกเบี้ยจากสินเชื่อรถทำเงิน 46.57% และรายได้ดอกเบี้ยจากสินเชื่อเช่าซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าและเครื่องจักร สัดส่วน 50.42% และมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 306.91 ล้านบาท ขณะที่ปี 2564 SGC มีรายได้รวมอยู่ที่ 1,781.82 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 593.03 ล้านบาท