TNN ธุรกิจรายย่อยทุนไม่ถึง 1 ล้านบาทเจ๊งสูงสุด "ก่อสร้างแชมป์"

TNN

Wealth

ธุรกิจรายย่อยทุนไม่ถึง 1 ล้านบาทเจ๊งสูงสุด "ก่อสร้างแชมป์"

ธุรกิจรายย่อยทุนไม่ถึง 1  ล้านบาทเจ๊งสูงสุด ก่อสร้างแชมป์

พาณิชย์เผยธุรกิจเลิกกิจการไตรมาส 3/65 มีจำนวน 5,430 ราย มูลค่ากว่า 2.97 หมื่นล้านบาท เงินทุนไม่ถึง 1 ล้านสูงสุด ก่อสร้างแชมป์ รองลงมาเป็นอสังหาริมทรัพย์- ภัตตาคาร-ร้านอาหาร

 


นายทศพล ทังสุบุตร อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า  เปิดเผยธุรกิจเลิกประกอบกิจการไตรมาส 3/2565ว่า  มีจำนวน  5,430 ราย โดยมีมูลค่า 29,733.53 ล้านบาท ซึ่งสอดคล้องกับแนวโน้มการเลิกกิจการในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา  โดย ประเภทธุรกิจเลิกประกอบกิจการสูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป จำนวน 486 ราย       คิดเป็น 9% รองลงมาคือ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ จำนวน 266 ราย คิดเป็น 5% และธุรกิจภัตตาคาร/ร้านอาหาร  จำนวน 173 ราย คิดเป็น 3% 

   

โดยช่วงทุนที่มีจำนวนรายธุรกิจเลิกประกอบกิจการทั่วประเทศมากที่สุด ได้แก่ ช่วงทุนไม่เกิน 1 ล้านบาท จำนวน 3,864 ราย คิดเป็น 71.16% รองลงมาช่วงทุนมากกว่า 1- 5 ล้านบาท จำนวน 1,281 ราย คิดเป็น 23.59% ลำดับถัดไป คือ ช่วงทุนมากกว่า 5-100 ล้านบาท จำนวน 249 ราย คิดเป็น 4.59% และช่วงทุนมากกว่า 100 ล้านบาท มีจำนวน 36 ราย คิดเป็น 0.66%  


สำหรับในเดือนก.ย.มีเลิกกิจการ 1,946 ราย โดยมีมูลค่าทุนจดทะเบียนจำนวน 10,081.49 ล้านบาท    ประเภทธุรกิจเลิกประกอบกิจการสูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป จำนวน 154 ราย       คิดเป็น 8% รองลงมาคือ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ จำนวน 96 ราย คิดเป็น 5% และธุรกิจภัตตาคาร/ร้านอาหาร จำนวน 59 ราย คิดเป็น 3%


ทั้งนี้หากแบ่งตามช่วงทุนเลิกประกอบกิจการทั่วประเทศ มากที่สุด ได้แก่ ช่วงทุนไม่เกิน 1 ล้านบาท จำนวน 1,371 ราย คิดเป็น 70.45% รองลงมาช่วงทุนมากกว่า 1- 5 ล้านบาท จำนวน 468 ราย คิดเป็น 24.05% ลำดับถัดไป คือ ช่วงทุนมากกว่า 5-100 ล้านบาท จำนวน 90 ราย  คิดเป็น 4.63% และช่วงทุนมากกว่า 100 ล้านบาท มีจำนวน 17 ราย คิดเป็น 0.87%  


ขณะที่จำนวนธุรกิจจัดตั้งใหม่ มีผู้ประกอบธุรกิจยื่นขอจดทะเบียนห้างหุ้นส่วนบริษัทจัดตั้งใหม่ทั่วประเทศไตรมาส 3/2565 จำนวน 20,495 ราย เมื่อเทียบกับไตรมาส 2/2565 จำนวน 17,954 ราย เพิ่มขึ้น จำนวน 2,541 ราย คิดเป็น 14% และเมื่อเทียบกับไตรมาส 3/2564 จำนวน 17,034 ราย เพิ่มขึ้น จำนวน 3,461 ราย คิดเป็น 20% 


มูลค่าทุนธุรกิจจัดตั้งใหม่ในไตรมาสที่ 3/2565 มีจำนวน 73,332.21 ล้านบาท เมื่อเทียบกับไตรมาส 2/2565 จำนวน 206,207.26 ล้านบาท ลดลง จำนวน 132,875.04 ล้านบาท คิดเป็น 64% และเมื่อเทียบกับไตรมาส 3/2564 จำนวน 39,350.24 ล้านบาท เพิ่มขึ้น จำนวน 33,981.97 ล้านบาท คิดเป็น 86%   


ประเภทธุรกิจจัดตั้งใหม่สูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป จำนวน 1,763 ราย คิดเป็น 9% รองลงมา คือ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ จำนวน 1,345 ราย คิดเป็น 6% และธุรกิจภัตตาคาร/ร้านอาหาร จำนวน 900 ราย คิดเป็น 4%            


ธุรกิจจัดตั้งใหม่แบ่งตามช่วงทุนมากที่สุด ได้แก่ ช่วงทุนไม่เกิน 1 ล้านบาท มีจำนวน 13,949 ราย คิดเป็น 68.06% รองลงมา คือช่วงทุนมากกว่า 1-5 ล้านบาท จำนวน 6,212 ราย คิดเป็น 30.31% รองลงมา คือช่วงทุนมากกว่า 5-100 ล้านบาท มีจำนวน 278 ราย คิดเป็น 1.36% และช่วงทุนมากกว่า 100 ล้านบาท จำนวน 56 ราย คิดเป็น 0.27


ส่วนเดือนก.ย.จัดตั้งใหม่ 7,219 ราย โดยมีมูลค่าทุนจดทะเบียนจำนวน 19,827.45 ล้านบาท  สูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป จำนวน 593 ราย คิดเป็น 8% รองลงมา คือ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ จำนวน 513 ราย คิดเป็น 7% และอันดับ 3 คือ ธุรกิจภัตตาคาร/ร้านอาหาร จำนวน 295 ราย คิดเป็น 4%


อย่างไรก็ตามหากแบ่งตามช่วงทุนจัดตั้งใหม่ทั่วประเทศมากที่สุด ได้แก่    ช่วงทุนไม่เกิน 1 ล้านบาท มีจำนวน 4,857 ราย คิดเป็น 67.28% รองลงมาช่วงทุนมากกว่า 1-5 ล้านบาท จำนวน 2,246 ราย คิดเป็น 31.11% ลำดับถัดไป คือ ช่วงทุนมากกว่า 5-100 ล้านบาท มีจำนวน 96 ราย คิดเป็น 1.33% และช่วงทุนมากกว่า 100 ล้านบาท จำนวน 20 ราย คิดเป็น 0.28%  


ทั้งนี้ธุรกิจที่ดำเนินกิจการอยู่ทั่วประเทศ จำนวน 846,954 ราย มูลค่าทุน 20.46 ล้านล้านบาท จำแนกเป็นห้างหุ้นส่วนจำกัด/ห้างหุ้นส่วนสามัญนิติบุคคล จำนวน 201,040 ราย คิดเป็น 23.74% บริษัทจำกัด จำนวน 644,543 ราย คิดเป็น 76.10% และบริษัทมหาชนจำกัด จำนวน 1,371 ราย คิดเป็น 0.16%   แบ่งตามช่วงทุน  ธุรกิจส่วนใหญ่มีช่วงทุนไม่เกิน 1 ล้านบาท จำนวน 500,148 ราย   คิดเป็น 59.05% รวมมูลค่าทุน 0.44 ล้านล้านบาท คิดเป็น 2.15% 


รองลงมา คือ ช่วงทุนมากกว่า 1-5 ล้านบาทจำนวน 254,037 ราย คิดเป็น 29.99% รวมมูลค่าทุน 0.86 ล้านล้านบาท คิดเป็น 4.21% ช่วงถัดไปคือ ช่วงทุนมากกว่า 5-100 ล้านบาท จำนวน 75,699 ราย คิดเป็น 8.94% รวมมูลค่าทุน 2.07 ล้านล้านบาท คิดเป็น 10.14% และช่วงทุนมากกว่า 100 ล้านบาท จำนวน 17,070 ราย คิดเป็น 2.02% รวมมูลค่าทุน 17.09 ล้านล้านบาท คิดเป็น 83.50% 


การลงทุนประกอบธุรกิจในไทยภายใต้กฎหมายต่างด้าวเดือนก.ย. มีการอนุญาตให้คนต่างชาติประกอบธุรกิจทั้งสิ้น   55 ราย แบ่งเป็นใบอนุญาตประกอบธุรกิจ จำนวน 23 ราย และหนังสือรับรองประกอบธุรกิจ จำนวน 32 ราย โดยมีเม็ดเงินลงทุนทั้งสิ้น  16,086 ล้านบาท นักลงทุนต่างชาติที่เข้ามาลงทุนในไทยมากที่สุด ได้แก่ ญี่ปุ่น จำนวน 14 ราย เงินลงทุน 2,074 ล้านบาทรองลงมา ได้แก่ สหรัฐอเมริกา จำนวน 12 ราย เงินลงทุน 27 ล้านบาท และสิงคโปร์ จำนวน 7 ราย เงินลงทุน 760 ล้านบาท 


ด้านตัวเลข 9 เดือน  (ม.ค.-ก.ย.)  คนต่างชาติได้รับอนุญาตให้ประกอบธุรกิจ จำนวน 436 ราย มีเงินลงทุนทั้งสิ้น 99,368 ล้านบาท


ที่มา  พาณิชย์

ภาพประกอบ   พิกซาเบย์

ข่าวแนะนำ