เปิดผลสำรวจ ผู้ลงทุนรายย่อยนิยม “หุ้นยั่งยืน” ซื้อขายสูง 14,245 ล้านบาท/วัน!
ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เผยผลสำรวจบ่งชี้ว่า ผู้ลงทุนรายย่อย ให้ความสนใจในหุ้นกลุ่มยั่งยืนหรือ "ESG" มากขึ้น เป็นไปตามเทรนด์ของนักลงทุนทั่วโลก โดยการขายเฉลี่ยของหุ้นสูงถึง 14,245 ล้านบาท/วัน
งานวิจัยจากฝ่ายกลยุทธ์องค์กร ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ในช่วงครึ่งแรกของปี 2565 มีบริษัทจดทะเบียนไทย 155 บริษัท ที่ได้รับคัดเลือกเข้าเป็นองค์ประกอบในดัชนีความยั่งยืนสากลของ "Dow Jones Sustainability Indices MSCI - ESG" รวมถึงยังได้รับคัดเลือกเป็นหุ้นยั่งยืน THSI (Thailand Sustainability Investment) ของตลาดหลักทรัพย์ฯ โดยจำนวนบริษัทดังกล่าว แบ่งเป็นบริษัทในกลุ่ม SET100 และ Non-SET100 ในสัดส่วนที่ใกล้เคียงกัน
ซึ่งจากการศึกษาพบว่าหุ้นยั่งยืนดังกล่าว ได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้นในปัจจุบัน สอดคล้องตามทิศทางของตลาดการลงทุนโลก ที่นักลงทุนต่างใส่ใจในเรื่องของ ESG (Environmental-Social-Governance) มากขึ้น
โดยหากไปดูข้อมูลการซื้อขายของตลาดหุ้นไทย ณ สิ้นเดือนถิถุนายนที่ผ่านมา พบว่าตลาดหุ้นไทย มีนักลงทุนที่มีบัญชีซื้อขายหุ้นรวม 5.54 ล้านบัญชี หรือ 2.27 ล้านคน โดยนักลงทุนบุคคลทำธุรกรรมซื้อขายหุ้นในช่วง 6 เดือนแรกรวม 890,000 คน มีมูลค่าซื้อขายเฉลี่ยวันละ 35,487 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 41 ของมูลค่าซื้อขายหุ้นทั้งตลาด ซึ่งในรายละเอียดพบว่าร้อยละ 79 ของนักลงทุนบุคคลดังกล่าว ซื้อขายหุ้นยั่งยืนอย่างน้อย 1 บริษัท และมีมูลค่าซื้อขายหุ้นยั่งยืนเฉลี่ยสูงถึงวันละ 14,245 ล้านบาท
คำถามที่น่าสนใจต่อไปคือ นักลงทุนบุคคลกลุ่มใดบ้าง ที่สนใจหุ้นยั่งยืน ซึ่งได้คำตอบว่าในแง่ของ "generation" หุ้นยั่งยืนเป็นที่นิยมของบุคคลในทุก generation โดยมากกว่าร้อยละ 70 ของคนในแต่ละ gen ต่างซื้อขายหุ้นยั่งยืนในพอร์ต และยิ่งสูงอายุขึ้น ยิ่งมีแนวโน้มที่จะสนใจและกระจายมูลค่าซื้อขายให้หุ้นยั่งยืนมากขึ้นด้วย
แต่หากแยกประเภทของกลุ่มผู้ลงทุน ตามระดับความเสี่ยง พบว่ามีความสนใจหุ้นยั่งยืนที่ค่อนข้างแตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัด โดยบุคคลกลุ่มที่เน้นพื้นฐาน หรือ "Fundamental Group" ซึ่งนิยมหุ้นพื้นฐานขนาดใหญ่หรือหุ้นที่ให้ปันผลสูง พบว่ามากกว่าร้อยละ 85 ในกลุ่มนี้ซื้อขายหุ้นยั่งยืน และกระจายมูลค่าซื้อขายให้สูงถึงร้อยละ 60-80 เลยทีเดียว ขณะที่บุคคลในกลุ่ม "Risk Group" หรือความเสี่ยงสูง กระจายมูลค่าซื้อขายให้หุ้นยั่งยืนเพียงร้อยละ 15-25 เท่านั้น
ข้อมูลจาก : TNN ONLINE
ภาพจาก : TNN