ต้องดู! หุ้นปันผลจากทั่วโลก ตั้งรับ "เงินเฟ้อสูง - ดอกเบี้ยพุ่ง"
แม้บรรยากาศการลงทุนขณะนี้ หลีกหนีความผันผวนได้ยาก แต่ ก็ยังคงมีโอกาสสร้างผลตอบแทนได้เช่นกัน โดยทางเลือกจากทิสโก้ก็คือ "หุ้นปันผลสูง" จากทั่วโลก ที่เชื่อว่าจะต้านทานความผันผวนของเงินเฟ้อได้
นายสาห์รัช ชัฏสุวรรณ ผู้อำนวยการสายการตลาดและที่ปรึกษาการลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ทิสโก้ ระบุว่า สถานการณ์การลงทุนทั้งในตลาดหุ้นไทยและตลาดหุ้นโลกในระยะถัดไป ยังมีความเสี่ยงจากหลากปัจจัย ทั้งเงินเฟ้อที่ยังคงอยู่ในระดับสูง ขณะที่สัญญาณจากธนาคารกลางสหรัฐเอง ยังคงเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายอย่างต่อเนื่อง
ซึ่งภายใต้ปัจจัยแวดล้อมเหล่านี้ ทิสโก้มองว่า “หุ้นปันผล” น่าจะเป็นอีกหนึ่งทางเลือกการลงทุนที่จะช่วยสร้างผลตอบแทนส่วนเพิ่มให้กับการลงทุน รวมถึงช่วยลดความผันผวนของพอร์ตการลงทุนโดยรวมได้ เพราะข้อมูลในอดีต ชี้ว่าราคาหุ้นกลุ่มนี้มักจะปรับเพิ่มขึ้นได้ดี ในช่วงที่เฟด เดินหน้าปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยนโยบาย
และเพื่อเป็นการเพิ่มโอกาสและทางเลือกให้กับผู้ลงทุน ที่ยังต้องการผลตอบแทน บลจ.ทิสโก้ จึงเปิดเสนอขาย "กองทุนเปิด ทิสโก้ โกลบอล ไฮ ดิวิเดนด์" ที่มีนโยบายเน้นลงทุนในตราสารทุนของบริษัทที่มีอัตราการจ่ายเงินปันผลสูงและสม่ำเสมอ หรือบริษัทที่มีแนวโน้มการเติบโตของการจ่ายเงินปันผลสูงขึ้นอย่างยั่งยืน ได้แก่
1. กองทุน JPMorgan Investment Funds - Global Dividend Fund ซึ่งมีนโยบายลงทุนในตราสารทุนของบริษัททั่วโลก ที่สามารถสร้างรายได้ในระดับสูง โดยเลือกลงทุนในบริษัทที่มีการจ่ายเงินปันผลสูงและสม่ำเสมอ รวมถึงมีแนวโน้มของการเติบโตของการจ่ายเงินปันผลอย่างยั่งยืน
2. กองทุน DWS Invest Top Dividend Fund ซึ่งมีนโยบายลงทุนในตราสารทุนของบริษัททั่วโลก ที่คาดว่าจะให้ผลตอบแทนจากเงินปันผลสูงกว่าค่าเฉลี่ยของตลาด ผ่านเกณฑ์การพิจารณาคัดเลือกหุ้นในมิติต่างๆ เช่น ผลตอบแทนจากเงินปันผลที่สูงกว่าค่าเฉลี่ย การเติบโตและความยั่งยืนของผลตอบแทนในอดีต เป็นต้น
สำหรับตัวอย่างบริษัทที่กองทุนจะเข้าไปลงทุน เช่น
- Johnson & Johnson ผู้นำในธุรกิจสุขภาพและทางการแพทย์ขนาดใหญ่ระดับโลก ซึ่งบลูมเบิร์กคาดว่าในปี 2565 จะจ่ายปันผลในอัตรา 4.37 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อหุ้น และคาดว่าใน 3 ปีข้างหน้าจะจ่ายปันผลเพิ่มขึ้นอีกร้อยละ 5.34 ต่อปี
- Texas Instruments บริษัทผู้ผลิตชิ้นส่วน Semiconductor ในสินค้ามากมายหลายอุตสาหกรรมครอบคลุมทั้งอุปกรณ์ในโรงงาน ยานยนต์ เครื่องใช้ไฟฟ้า อุปกรณ์สื่อสาร ซึ่งบลูมเบิร์กคาดว่าในปี 2565 จะจ่ายปันผลในอัตรา 4.68 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อหุ้นและคาดว่าใน 3 ปีข้างหน้าจะจ่ายปันผลเพิ่มขึ้นอีกร้อยละ 7.78 ต่อปี
ทั้งนี้นักลงทุนที่สนใจ "กองทุนเปิด ทิสโก้ โกลบอล ไฮ ดิวิเดนด์" จะเปิดเสนอขายครั้งแรก (IPO) 17 – 26 ตุลาคม 2565
ที่มาข้อมูล : TNN ONLINE
ที่มาภาพ : TNN