TNN ราคาทองคำดิ่งหนักแค่ไหน! หลังตัวเลขแรงงานสหรัฐฯ ดีเกินคาด

TNN

Wealth

ราคาทองคำดิ่งหนักแค่ไหน! หลังตัวเลขแรงงานสหรัฐฯ ดีเกินคาด

ราคาทองคำดิ่งหนักแค่ไหน! หลังตัวเลขแรงงานสหรัฐฯ ดีเกินคาด

"วรุต"มองทิศทางทองคำสัปดาห์หน้าเสี่ยงปรับตัวลง หลังตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐฯดีกว่าที่ตลาดคาดการณ์ เกาะติดดัชนีราคาผู้บริโภคเดือน ก.ย. ของสหรัฐฯ -รายงานประชุมเฟด -ความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์ ระวัง !หลุดแนวรับ 1,670 ดอลลาร์ต่อออนซ์

นายวรุต รุ่งขํา ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส จํากัด เปิดเผยถึงทิศทางราคาทองคำในสัปดาห์หน้ากับ TNNONLINE ว่า  มีแนวโน้มปรับตัวลง หลังจาก ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้น 263,000 ตำแหน่งในเดือนก.ย. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 260,000 ตำแหน่งหนุนธนาคารกลางสหรัฐหรือเฟดปรับขึ้นดอกเบี้ยสกัดเงินเฟ้อแต่เชื่อว่าชะลอตัวลงไม่มากเนื่องจากยังมีปัจจัยภายนอกอื่นที่ยังเป็นปัจจัยหนุนทองคำ


ทั้งในเรื่องภาวะเศรษฐกิจโลกถดถอย หลังกองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือไอเอ็มเอฟออกมาเตือนสหรัฐฯหากขึ้นดอกเบี้ยต่อเนื่อง ขณะเดียวกันหลายประเทศทุนสำรองเงินตราต่างประเทศลดลงโดยธนาคารกลางหลายแห่งเปิดหีบเงินสำรองฯ  เพื่อนำมาใช้ป้องกันการอ่อนค่าของสกุลเงินของตัวเอง


ราคาทองคำดิ่งหนักแค่ไหน! หลังตัวเลขแรงงานสหรัฐฯ ดีเกินคาด

ซึ่งบลูมเบิร์ก ระบุว่า ปีนี้ ทุนสำรองเงินตราต่างประเทศของอินเดียร่วงลง 9.6 หมื่นล้านดอลลาร์ อยู่ที่ 5.38 แสนล้านดอลลาร์ ส่วนทางการญี่ปุ่นใช้เงินประมาณ 20,000 ล้านดอลลาร์ในเดือนก.ย. เพื่อชะลอการอ่อนค่าของเงินเยน ในการแทรกแซงตลาดเงินตราต่างประเทศครั้งแรก นับตั้งแต่ปี 2541 ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 19% ของการลดลงของเงินสำรองฯ ในปีนี้ ทำให้มีความเสี่ยงด้านเศรษฐกิจเพิ่มขณะเดียวกันธนาคารกลางหลายแห่งเพิ่มทุนสำรองเป็นทองคำ เพื่อดึงความเชื่อมั่นสถานะการคลังให้มีเสถียรภาพ

 

นอกจากนี้ติดตามวิกฤติที่ Credit Suisse สถาบันการเงินยักษ์ใหญ่สัญชาติสวิตเซอร์แลนด์กำลังเผชิญอยู่หลังราคาหุ้นของ Credit Suisse ปรับตัวลดลงสู่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ โดยลดลงกว่า 55% จากต้นปีที่ผ่านมา และร่วงลงมาแล้วกว่า 91% จากจุดสูงสุดเมื่อปี 2007 ซึ่งตลาดจับตาว่างบไตรมาส3/65 จะแย่หรือไม่  โดยนักลงทุนที่แห่ซื้อประกันหนี้ (CDS) พุ่งกว่า 300% ทำให้ต้นทุนการประกันหนี้ที่เสี่ยงจากการล้มละลายของธนาคารสูงขึ้นเป็นอย่างมากและอาจจะล้มละลายเหมือนเลแมน บาร์เธอร์ทำให้เกิดวิกฤติการเงินปี 2008 อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้


รวมถึงความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครน ขยายความตึงเครียดในวงกว้างหรือไม่ ตลอดจนปัญหาในคาบสมุทรเกาหลีเนือ ซึ่งเป็นปัจจัยหนุนทองคำ


สำหรับปัจจัยที่ติดตามสัปดาห์นี้ เช่น ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือน ก.ย. ของสหรัฐฯ คาดชะลอตัวลงสู่ระดับ 8.1% เทียบปีต่อปีรายงานประชุมเฟด  ยอดค้าปลีกของสหรัฐฯ การเคาะจีดีพีโลกของไอเอ็มเอฟในปีหน้าด้านกลยุทธ์การลงทุนสัปดาห์หน้าประเมินกรอบ


แนวรับแรก 1,703 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ทองแท่งอยู่ที่ 30,250 บาท

แนวรับต่อไป  1,688  ดอลลาร์ต่อออนซ์ ทองแท่งอยู่ที่ 29,950 บาท

แนวรับสุดท้าย 1,670 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ทองแท่งอยู่ที่ 29,750 บาท


แนวต้านแรกที่ 1,735 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ทองแท่งอยู่ที่ 30,800 บาท

แนวต้านต่อไปที่ 1,754 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ทองแท่งอยู่ที่ 31,150 บาท

แนวต้านสุดท้าย 1,772 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ทองแท่งอยู่ที่ 31,450 บาท


ทั้งนี้หากราคาทองคำหลุด 1,670  ดอลลาร์ต่อออนซ์อาจทำให้มุมมองทองคำในเชิงบวกลดลง และถ้าไม่ผ่านแนวต้าน 1,735 ดอลลาร์ต่อออนซ์ให้ขายทองคำออกมาบางส่วน  แต่ถ้ายืนแนวต้านดังกล่าวได้ ก็มีโอกาสไปต่อ


ที่มา นายวรุต รุ่งขํา  

ภาพประกอบ วายแอลจี  


ข่าวแนะนำ