TNN ธุรกิจรายย่อยทุนต่ำกว่า 1 ล้านบาทเจ๊งสูงสุด ก่อสร้างครองแชมป์

TNN

Wealth

ธุรกิจรายย่อยทุนต่ำกว่า 1 ล้านบาทเจ๊งสูงสุด ก่อสร้างครองแชมป์

ธุรกิจรายย่อยทุนต่ำกว่า 1 ล้านบาทเจ๊งสูงสุด  ก่อสร้างครองแชมป์

พาณิชย์เผยธุรกิจเดือนก.ค.เลิกกิจการ 1,543 ราย มูลค่าทุนจดทะเบียน 7,000 กว่าล้านบาท ก่อสร้างอาคารทั่วไปแชมป์สูงสุด รองลงมาเป็นอสังหาริมทรัพย์-ร้านอาหาร

นายทศพล ทังสุบุตร อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยว่า  ธุรกิจเลิกประกอบกิจการเดือนกรกฎาคม มีจำนวน 1,543 ราย โดยมีมูลค่าทุนจดทะเบียนเลิกประกอบกิจการจำนวน 7,148.05 ล้านบาท    ประเภทธุรกิจเลิกประกอบกิจการสูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป จำนวน 151 ราย  คิดเป็น 10% รองลงมาคือ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ จำนวน 78 ราย คิดเป็น 5% และธุรกิจภัตตาคาร/ร้านอาหาร จำนวน   54 ราย คิดเป็น 3% 


ทั้งนี้หากแบ่งตามช่วงทุน  โดยช่วงทุนที่มีจำนวนรายธุรกิจเลิกประกอบกิจการทั่วประเทศ มากที่สุด ได้แก่ ช่วงทุนไม่เกิน 1 ล้านบาท จำนวน 1,124 ราย คิดเป็น 72.85% รองลงมาช่วงทุนมากกว่า 1- 5 ล้านบาท จำนวน 342 ราย คิดเป็น 22.16% ลำดับถัดไป คือ ช่วงทุนมากกว่า 5-100 ล้านบาท จำนวน 65 ราย   คิดเป็น 4.21% และช่วงทุนมากกว่า 100 ล้านบาท มีจำนวน 12 ราย คิดเป็น 0.78% ตามลำดับ

ธุรกิจรายย่อยทุนต่ำกว่า 1 ล้านบาทเจ๊งสูงสุด  ก่อสร้างครองแชมป์


 ในเดือนกรกฎาคมจำนวนธุรกิจจัดตั้งใหม่ทั่วประเทศจำนวน 5,858 ราย โดยมีมูลค่าทุนจดทะเบียนจำนวน 29,111.36 ล้านบาท    โดยประเภทธุรกิจจัดตั้งใหม่สูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป จำนวน 518 ราย คิดเป็น 9% รองลงมา คือ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ จำนวน 343 ราย คิดเป็น 6% และอันดับ 3 คือ ธุรกิจภัตตาคาร/ร้านอาหาร จำนวน 268 ราย คิดเป็น 4% ตามลำดับ


ขณะที่ธุรกิจจัดตั้งใหม่แบ่งตามช่วงทุน  โดยช่วงทุนที่มีจำนวนรายธุรกิจจัดตั้งใหม่ทั่วประเทศมากที่สุด ได้แก่    ช่วงทุนไม่เกิน 1 ล้านบาท มีจำนวน 4,060 ราย คิดเป็น 69.31% รองลงมาช่วงทุนมากกว่า 1-5 ล้านบาท จำนวน 1,700 ราย คิดเป็น 29.02% ลำดับถัดไป คือ ช่วงทุนมากกว่า 5-100 ล้านบาท มีจำนวน 77 ราย คิดเป็น 1.31% และช่วงทุนมากกว่า 100 ล้านบาท จำนวน 21 ราย คิดเป็น 0.36%  


ส่วนธุรกิจที่ดำเนินกิจการอยู่ทั่วประเทศ  (ณ วันที่ 31 ก.ค. 65)  จำนวน 846,797 ราย  มูลค่าทุน 20.32 ล้านล้านบาท จำแนกเป็นห้างหุ้นส่วนจำกัด/ห้างหุ้นส่วนสามัญนิติบุคคล จำนวน 203,402 ราย   คิดเป็น 24.02% บริษัทจำกัด จำนวน 642,036 ราย คิดเป็น 75.82% และบริษัทมหาชนจำกัด จำนวน 1,359 ราย  คิดเป็น 0.16% ตามลำดับ


ธุรกิจรายย่อยทุนต่ำกว่า 1 ล้านบาทเจ๊งสูงสุด  ก่อสร้างครองแชมป์

ทั้งนี้หากแบ่งตามช่วงทุน  ธุรกิจส่วนใหญ่มีช่วงทุนไม่เกิน 1 ล้านบาท จำนวน 501,851 ราย     คิดเป็น 59.26% รวมมูลค่าทุน 0.44 ล้านล้านบาท คิดเป็น 2.17% รองลงมา คือ ช่วงทุนมากกว่า 1-5 ล้านบาท จำนวน 252,524 ราย คิดเป็น 29.82% รวมมูลค่าทุน 0.85 ล้านล้านบาท คิดเป็น 4.20% ช่วงถัดไปคือ ช่วงทุนมากกว่า 5-100 ล้านบาท จำนวน 75,424 ราย คิดเป็น 8.91% รวมมูลค่าทุน 2.07 ล้านล้านบาทคิดเป็น 10.17% และช่วงทุนมากกว่า 100 ล้านบาท จำนวน 16,998 ราย คิดเป็น 2.01% รวมมูลค่าทุน 16.96 ล้านล้านบาท คิดเป็น 83.46% ตามลำดับ  


ขณะที่การลงทุนประกอบธุรกิจในไทยภายใต้กฎหมายต่างด้าวเดือนกรกฎาคม 2565 ได้อนุญาตให้คนต่างชาติประกอบธุรกิจทั้งสิ้น มีจำนวน 39 ราย แบ่งเป็นใบอนุญาตประกอบธุรกิจ จำนวน 16 ราย และหนังสือรับรองประกอบธุรกิจ จำนวน 23 ราย โดยมีเม็ดเงินลงทุนทั้งสิ้น 3,675 ล้านบาท เป็นผลให้ในปี 2565 มีการอนุญาตให้คนต่างชาติประกอบธุรกิจทั้งสิ้น จำนวน 323 ราย เพิ่มขึ้น 16% เงินลงทุน 73,624 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 65% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน (มกราคม - กรกฎาคม 2564)


สำหรับนักลงทุนต่างชาติที่เข้ามาลงทุนในไทยมากที่สุด 3 สัญชาติแรก ได้แก่ ญี่ปุ่น จำนวน 11 ราย เงินลงทุน 2,734 ล้านบาทรองลงมา ได้แก่ สิงคโปร์ จำนวน 7 ราย เงินลงทุน 91 ล้านบาท และสหรัฐอเมริกา จำนวน 5 ราย เงินลงทุน 330 ล้านบาท  


ที่มา กรมพัฒนาธุรกิจการค้า

ภาพประกอบ  พิกซาเบย์

ข่าวแนะนำ