TNN ธ.ก.ส. เปิดตัวแอป Tree Bank สร้างฐานข้อมูลธนาคารต้นไม้

TNN

Wealth

ธ.ก.ส. เปิดตัวแอป Tree Bank สร้างฐานข้อมูลธนาคารต้นไม้

ธ.ก.ส. เปิดตัวแอป Tree Bank สร้างฐานข้อมูลธนาคารต้นไม้

ธ.ก.ส. เปิดตัวแอปพลิเคชัน Tree Bank นำข้อมูลมาประมวลผลจำนวนต้นไม้ที่ปลูกในไทย คำนวณมูลค่าและปริมาณกักเก็บคาร์บอนผ่านโทรศัพท์มือถือ ตั้งเป้าเพิ่มพื้นที่ป่า 26 ล้านไร่ใน 10 ปี

ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) หรือนายนายธนารัตน์ งามวลัยรัตน์ เปิดเผยว่า ธ.ก.ส. จะขับเคลื่อนโครงการยกระดับธนาคารต้นไม้สู่ชุมชนไม้มีค่า ซึ่งเป็นการต่อยอดการนำผลิตผลจากต้นไม้มาสร้างรายได้ให้ชุมชน เช่น การเพาะกล้าไม้ การนำไม้มาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ ตัวอย่างเช่น น้ำส้มควันไม้ สมุนไพร และเฟอร์นิเจอร์ การท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ การนำร่องสนับสนุนกิจกรรมลดก๊าซเรือนกระจก (LESS) และกิจกรรมชดเชยคาร์บอน (Carbon Offset) การใช้ไม้ยืนต้นเป็นหลักประกันหนี้เงินกู้ เป็นต้น ซึ่งปัจจุบันมีชุมชนที่ยกระดับไปสู่ชุมชนไม้มีค่าแล้ว 381 ชุมชน และสร้างรายได้จากกิจกรรมดังกล่าวแล้วกว่า 38 ล้านบาทต่อปี


ธ.ก.ส. เปิดตัวแอป Tree Bank สร้างฐานข้อมูลธนาคารต้นไม้

ซึ่ง ธ.ก.ส. ได้มีการพัฒนาแอปพลิเคชันธนาคารต้นไม้ (Tree Bank) เพื่อตอบโจทย์วิถีชีวิตในยุคดิจิทัล โดยถือเป็นการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมเข้ามาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูล และอำนวยความสะดวกให้กับสมาชิก ในการเก็บข้อมูลต้นไม้บนโทรศัพท์มือถือแทนการจดบันทึกลงในกระดาษและจะทำให้ทราบว่า ต้นไม้ในโครงการธนาคารต้นไม้ มีพิกัดตั้งอยู่ที่ไหน มีต้นไม้ประเภทใด แต่ละต้นมีมูลค่าเท่าไร 

ซึ่งข้อมูลดังกล่าว สามารถตรวจสอบและการันตีความถูกต้องของจำนวนได้ และยังสามารถนำมาต่อยอดให้เกิดประโยชน์ เช่น การนำต้นไม้มาใช้เป็นหลักประกันสินเชื่อ การสนับสนุนกิจกรรมลดก๊าซเรือนกระจก (LESS) การรายงานปริมาณการกักเก็บคาร์บอนของต้นไม้ กิจกรรมชดเชยคาร์บอน (Carbon Offset) รวมถึงบันทึกการขอสินเชื่อในโครงการรักษ์ป่าไม้ ไทยยั่งยืนและโครงการสินเชื่อสีเขียว (Green Credit) 

ทั้งนี้สมาชิกและชุมชนธนาคารต้นไม้ สามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน “ธนาคารต้นไม้ (Tree Bank)” ได้ที่ Appstore และ PlayStore พร้อมติดต่อลงทะเบียนใช้งานที่ ธ.ก.ส. เท่านั้น โดยสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ธ.ก.ส. ทุกสาขาทั่วประเทศ

นอกจากนี้นายธนารัตน์ ยังกล่าวว่า ธ.ก.ส. มีการวางเป้าหมายเพิ่มชุมชนไม้มีค่า 20,000 ชุมชน เพิ่มพื้นที่ป่า 26 ล้านไร่และมีประชาชนเข้าร่วมโครงการ 2.6 ล้านครัวเรือน พร้อมมุ่งหวังให้เกิดมูลค่าทางเศรษฐกิจกว่า 1,040 ล้านบาท ภายใน 10 ปีอีกด้วย

ข้อมูลจาก TNN ONLINE 

ภาพจาก : TNN

ข่าวแนะนำ