เปิดสาเหตุ "หนี้ครัวเรือนไทย" เฉลี่ยครอบครัวละ 5 แสนบาท สูงสุดในรอบ 16 ปี

นายธนวรรธน์ พลวิชัย ประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดผลสำรวจสถานภาพหนี้ครัวเรือนไทย ปี 2565 จากประชาชน 1,350 ตัวอย่าง พบว่า มีจำนวนหนี้สินเฉลี่ยต่อครัวเรือน อยู่ที่ 501,711 บาท มีภาระที่ต้องผ่อนชำระต่อเดือนเฉลี่ยอยู่ที่ 12,800 บาท โดยขยายตัวร้อยละ 3.7 เมื่อเทียบกับปี 2563 

ส่วนสาเหตุของการเป็นหนี้ มาจากค่าครองชีพที่ปรับตัวสูงขึ้น รายได้ไม่เพียงพอกับรายจ่าย ตลอดจนการผ่อนสินค้ามากเกินไป เนื่องจากมีการซื้อสินทรัพย์ถาวรเพิ่มขึ้น เช่น บ้าน รถยนต์ เครื่องใช้ไฟฟ้า รวมทั้งการขาดรายได้จากการออกจากงาน 

ซึ่งภาวะหนี้สินครัวเรือน ส่วนใหญ่เป็นหนี้ส่วนบุคคล (หนี้อุปโภคบริโภค) รองลงมา เป็นหนี้บัตรเครดิต หนี้ยานพาหนะ และหนี้บ้าน

อย่างไรก็ตาม หนี้ครัวเรือนไทย ณ สิ้นปี 2565 คาดว่าจะมีสัดส่วนอยู่ที่ ร้อยละ 89.3 ต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ คิดเป็นมูลค่าหนี้ครัวเรือน 14.97 ล้านล้านบาท ถือว่าสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในรอบ 16 ปี นับตั้งแต่เคยทำการสำรวจมาตั้งแต่ปี 2550 โดยเป็นหนี้ในระบบกว่าร้อยละ 78.9 ซึ่งมีหลักประกันหนุนหลัง เช่น รถยนต์ โฉนดที่ดิน วางค้ำประกัน และหนี้นอกระบบ ร้อยละ 21.1 โดยมองว่าในระยะข้างหน้า อาจมีการก่อหนี้เพิ่มไม่มากนัก เพราะยังคงมีทรัพย์สินถืออยู่ และหากเศรษฐกิจฟื้นตัวขึ้นจะทำให้จำนวนหนี้ลดลงได้ จากความสามารถในการชำระหนี้ที่เพิ่มขึ้น

ทั้งนี้ ภาครัฐไม่จำเป็นต้องเพิ่มมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในระยะยาว แต่ควรสนับสนุนเรื่องการลงทุนทั้งของภาครัฐและเอกชน เพื่อกระจายความเจริญและรายได้ไปสู่ท้องถิ่น เพื่อทำให้เกิดการฟื้นตัวระยะยาว ผ่านการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน เช่น การลงทุนใน EEC ที่จะช่วยกระตุ้นให้ประชาชนมีรายได้เพิ่ม นำไปสู่การจับจ่ายใช้สอยได้มากขึ้น พร้อมคาดว่าสถานการณ์หนี้ครัวเรือนในปี 2566 จะดีขึ้น จากเศรษฐกิจที่เริ่มฟื้นตัว ซึ่งจะทำให้ปัญหาหนี้ครัวเรือนเริ่มคลี่คลายลงได้

ภาพ TNNONLINE