EIC คาดวิกฤตค่าเงินในลาว กระทบเศรษฐกิจไทยในวงจำกัด
ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ EIC คาดวิกฤตค่าเงินในสปป.ลาว อาจกระทบเศรษฐกิจไทยผ่าน 4 ช่องทาง และผลกระทบมีจำกัด แต่จะเป็นความเสี่ยงที่ควรเฝ้าระวังต่อไป
ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ Economic Intelligence Center หรือ EIC ธนาคารไทยพาณิชย์ ได้เปิดเผยถึงการวิเคราะห์สถานการณ์ในสปป.ลาว ว่ากำลังเผชิญวิกฤตเงินกีบอ่อนค่ารุนแรง โดยวันที่ 8 สิงหาคม ที่ผ่านมา ค่าเงินกีบอ่อนค่าทะลุระดับ 15,000 กีบต่อดอลลาร์สหรัฐ คิดเป็นการอ่อนค่าลงถึงร้อยละ 57 และเมื่อเทียบกับเงินบาท อ่อนค่าลงร้อยละ 44 นับตั้งแต่เดือนกันยายน 2564 เป็นต้นมา
การอ่อนค่าของเงินกีบเป็นไปตามภาวะการเงินโลกที่ตึงตัวขึ้น ร่วมด้วยกับการเร่งตัวของราคาน้ำมันและสินค้าต่าง ๆ จากสงครามรัสเซีย-ยูเครน และปัญหาอุปทานคอขวดโลกที่สปป.ลาวจำเป็นต้องพึ่งพา
การนำเข้าในสัดส่วนสูง จึงส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อของสปป.ลาวเร่งตัวขึ้น
และอีกหนึ่งปัจจัยที่ส่งผลให้เงินกีบอ่อนค่าและเป็นความเสี่ยงต่อการชำระหนี้ระหว่างประเทศ คือการที่ สปป.ลาวมีระดับเงินทุนสำรองระหว่างประเทศที่ต่ำท่ามกลางการขาดดุลบัญชีเดินสะพัดต่อเนื่อง
แต่ถึงอย่างนั้นทาง EIC มองว่าสถานการณ์ในสปป.ลาวยังไม่รุนแรงเท่ากับศรีลังกา เพราะปัจจุบันยังสามารถระดมทุนผ่านช่องทางต่าง ๆ และเจรจาปรับโครงสร้างหนี้ได้
สำหรับผลกระทบที่อาจจะมีต่อไทย คาดว่าอาจจะส่งผ่าน 4 ช่องทาง ได้แก่ ภาคการส่งออก การท่องเที่ยว การลงทุนโดยตรงจากไทย และภาคการเงิน
ประเด็นที่น่าสนใจคือ ด้านการลงทุนโดยตรงจากไทยสู่สปป.ลาวในโครงการเขื่อนไฟฟ้าพลังงานน้ำนั้น ต้องเฝ้าระวังความเสี่ยงการชำระค่าไฟจากสปป.ลาวที่อาจถูกเลื่อนออกไป ซึ่งอาจกระทบต่อความเชื่อมั่นในอนาคต
แต่อย่างไรก็ดี ในภาพรวมคาดว่าจะได้รับผลกระทบในวงจำกัด เนื่องจากมีผู้ซื้อไฟฟ้าหลักคือไทย และมีการเซ็นสัญญาซื้อขายไฟฟ้า (Power Purchase Agreement หรือ PPA) เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ข้อมูลจาก : TNN ONLINE
ภาพจาก : TNN