"ค่าไฟแพง" เปิดวิธีประหยัดไฟ เรื่องง่ายๆที่ทำได้ด้วยตัวเอง!
การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค - การไฟฟ้านครหลวง เปิดวิธี "ประหยัดไฟ" เรื่องง่าย ๆ ที่ใครก็ทำได้ที่บ้านด้วยตัวเอง สบายใจ หายห่วง
ค่าไฟแพง หลังจากก่อนหน้านี้ สำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) กล่าวว่า แนวโน้มการปรับค่าไฟฟ้าผันแปร (ค่า Ft) งวดสุดท้ายของปีนี้ (ก.ย.-ธ.ค.65) มีโอกาสปรับสูงขึ้นกว่าประมาณการเดิมที่คาดว่าจะปรับขึ้นราว 40 สต./หน่วย เนื่องจากได้รับผลกระทบจากค่าเงินบาท และ สัดส่วนการผลิตไฟฟ้าด้วยก๊าซเพิ่มสูงขึ้น
ทั้งนี้ ได้นำวิธีประหยัดไฟในบ้าน จาก การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค และ การไฟฟ้านครหลวง มาให้ประชาชนได้อ่านกัน ว่าสามารถช่วยประหยัดไฟได้อย่างไรบ้าง
การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค แนะนำดังนี้
ไฟฟ้าแสงสว่าง
-ควรปิดไฟทุกครั้งเมื่อไม่มีคนอยู่ในห้อง
-เลือกใช้หลอดไฟที่มีกำลังวัตต์เหมาะสมกับการใช้งาน
-สำหรับบริเวณที่ต้องการความสว่างมาก ภายในอาคารควรเลือกใช้หลอดฟลูออเรสเซนต์ ส่วนภายนอกอาคารควรเลือกใช้หลอดไอโซเดียม และหลอดไอปรอท
-ควรใช้ฝาครอบดวงโคมแบบใสหากไม่มีปัญหาเรื่องแสงจ้า และหมั่นทำความสะอาดอยู่เสมอ
-พิจารณาใช้โคมไฟตั้งโต๊ะสำหรับงานที่ต้องการแสงสว่างจุดเดียว
-ควรถอดปลั๊กอุปกรณ์ให้แสงสว่างเมื่อไม่ใช้เป็นเวลานาน
-ควรเลือกใช้โคมไฟแบบสะท้อนแสงแทนแบบเดิมที่ใช้พลาสติกปิด
-ควรใช้หลอดฟลูออเรสเซนต์หรือหลอดคอมแพคฟลูออเรสเซนต์ แทนหลอดไส้ ซึ่งมีคำแนะนำในการใช้ดังนี้
-หลอดฟลูออเรสเซนต์แบบผอม ขนาด 18 วัตต์ และ 36 วัตต์ มีความสว่างเท่ากับ หลอด 20 วัตต์ และ 40 วัตต์แต่ประหยัดไฟกว่า และสามารถใช้แทนกันได้ โดยไม่ต้องเปลี่ยนบัลลาสต์และสตาร์ทเตอร์
-หลอดคอมแพคฟลูออเรสเซนต์มี 2 ชนิด คือ ชนิดมีบัลลาสต์ภายในสามารภใช้แทนหลอดกลมแบบเกลียวได้ ส่วนหลอดที่มีบัลลาสต์ภายนอก จะมีขาเสียบเพื่อต่อกับตัวบัลลาสต์ที่อยู่ภายนอก
-หลอด LED ใช้พลังงานไฟฟ้าต่ำ และให้แสงสว่างเท่าหลอดไฟแบบฟลูออเรสเซนต์ และหลอดใส้
เตารีด
-เตารีดเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าประเภทให้ความร้อน ซึ่งในการรีดแต่ละครั้งจะกินไฟมากดังนั้นจึงควรรู้จัดวิธีใช้อย่างประหยัดและปลอดภัย
-ก่อนอื่นควรตรวจสอบดูว่าเตารีดอยู่ในสภาพพร้อมที่จะใช้งานหรือไม่ เช่น สาย ตัวเครื่อง เป็นต้น
-ตั้งปุ่มปรับความร้อนให้เหมาะสมกับชนิดของผ้า
-อย่าพรมน้ำจนเปียกแฉะ
-ดึงเต้าเสียบออกก่อนจะรีดเสร็จประมาณ 2-3 นาที แล้วรีดต่อไปจนเสร็จ
-ควรพรมน้ำพอสมควร
-ถอดปลั๊กออกเมื่อไม่ได้ใช้
-ควรรีดผ้าคราวละมากๆ ติดต่อกันจนเสร็จ
-ควรเริ่มรีดผ้าบาง ๆ ก่อน ขณะเตารีดยังไม่ร้อน
-ควรดึงปลั๊กออกก่อนรีดเสร็จเพราะยังร้อนอีกนาน
-ควรซักและตากผ้าโดยไม่ต้องบิด จะทำให้รีดง่ายขึ้น
พัดลม
-เปิดความเร็วลมพอควร
-เปิดเฉพาะเวลาใช้งาน
-ควรเปิดหน้าต่างใช้ลมธรรมชาติแทนถ้าทำได้
เครื่องเป่าผม
-เช็ดผมก่อนใช้เครื่อง
-ควรขยี้และสางผมไปด้วยขณะเป่า
เครื่องดูดฝุ่น
-ควรเอาฝุ่นในถุงทิ้งทุกครั้งที่ใช้แล้วจะได้มีแรงดูดดี ไม่เปลืองไฟ
ตู้เย็น ตู้แช่
-ตั้งอุณหภูมิพอสมควร
-นำของที่ไม่ร้อนใส่ตู้เย็น
-ปิดประตูตู้เย็นทันทีเมื่อนำของใส่หรือออก
-ปิดประตูตู้เย็นให้สนิท
-หากยางขอบประตูรั่วให้รีบแก้ไข
-เลือกตู้เย็นหรือตู้แช่ชนิดมีประสิทธิภาพสูง
-ควรใช้ตู้เย็นขนาดเหมาะกับครอบครัว
-ควรตั้งตู้เย็นให้ห่างจากแหล่งความร้อน ให้หลังตู้ห่างจากฝาเกิน 15 ซ.ม. เพื่อระบายความร้อนได้สะดวก ไม่เปลื่องไฟฟ้า
-ควรหมั่นทำความสะอาดแผงระบายความร้อน
-ควรเก็บเฉพาะอาหารเท่าที่จำเป็น
-ตู้เย็นแบบประตูเดียวกินไฟน้อยกว่าแบบ 2 ประตู
-หมั่นละลายน้ำแข็งเมื่อเห็นว่าน้ำแข็งเกาะหนามาก
หม้อหุงข้าวไฟฟ้า
-หากใช้อย่างถูกต้องสามารถประหยัดพลังงานไฟฟ้าได้มาก ซึ่งมีข้อแนะนำดังนี้
-ควรหุงข้าวให้พอดีกับจำนวนผู้รับประทาน
-ควรถอดเต้าเสียบออกเมื่อข้าวสุกแล้ว
-อย่าทำให้ก้นหม้อตัวในเกิดรอยบุบ จะทำให้ข้าวสุกช้า
-หมั่นตรวจบริเวณแท่นความร้อนในหม้อ อย่าให้เม็ดข้าวเกาะติด จะทำให้ข่าวสุกช้าและเปลืองไฟ
-ใช้ขนาดที่เหมาะสมกับจำนวนสมาชิกในครอบครัว
-ควรดึงปลั๊กออกเมื่อข้าวสุกพอแล้ว
-ใส่น้ำให้มีปริมาณพอควร
-ควรปิดฝาให้สนิทขณะหุงข้าว
เครื่องสูบน้ำ
เครื่องสูบน้ำเป็นอุปกรณ์ไฟฟ้าที่อำนวยความสะดวกอย่างยิ่งซึ่งใช้มอเตอร์ไฟฟ้าในการสูบน้ำไปยังถังเก็บหรือ เพื่อนำไปใช้ประโยชน์ ซึ่งมีวิธีการใช้อย่างประหยัดดังนี้
-ควรติดตั้งอุปกรณ์อัตโนมัติควบคุมระดับน้ำในถังและหมั่นปรับตั้งให้ถูกต้องเสมอ
-ติดตั้งท่อน้ำให้มีขนาดเหมาะสมกับขนาดปั้ม
-ควรตรวจแก้ไขจุดรั่วในระบบน้ำ
-ควรติดตั้งถังเก็บน้ำในตำแหน่งที่ไม่สูงเกินไป
-ควรติดตั้งอุปกรณ์อัตโนมัติควบคุมระดับน้ำในถังเก็บ และดูแลรักษาให้ทำงานได้อยู่เสมอ
-หากตัวถังเก็บน้ำไม่มีอุปกรณ์อัตโนมัติควบคุมระดับน้ำ ควรดูแลอย่าให้น้ำล้นถัง
-เครื่องสูบน้ำแบบใช้สายพานต้องตรวจสอบไม่ให้หย่อนหรือตึงเกินไป
เครื่องซักผ้า
-ควรใส่ผ้าแต่พอเหมาะ ไม่น้อยเกินไป และไม่มากจนเกินกำลังเครื่อง
-ควรใช้น้ำเย็นซักผ้า ส่วนน้ำร้อนให้ใช้เฉพาะกรณีรอยเปื้อนไขมันมาก
-ควรใส่ผ้าที่จะซักตามคำแนะนำของแต่ละเครื่อง
-หากมีผ้าต้องซัก 1-2 ชิ้น ควรซักด้วยมือ
-หากมีแสงแดดไม่ควรใช้เครื่องอบแห้ง ควรจะนำเสื้อผ้าที่ซักเสร็จมาตากแดด
มอเตอร์ไฟฟ้า
-ควรตรวจสอบแก้ไข และอัดจารบีตามวาระ
-ปรับปรุงสายพานมอเตอร์ เช่น ปรับความตึงสายพาน เปลี่ยนสายพานใหม่
-พิจารณาเปลี่ยนระบบควบคุมความเร็วของมอเตอร์เป็นระบบอีเล็กทรอนิกส์
เตาอบ เตาไฟฟ้า
-เครื่องใช้ไฟฟ้าประเภทนี้ ใช้ความร้อนมาทำให้อาหารสุก หากให้ความร้อนสูญเสียไปโดยการใช้ไม่ถูกวิธี ทำให้อาหารสุกช้าลง กินกระแสไฟเพิ่มขึ้นจึงมีข้อแนะ
-นำการใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าประเภทนี้อย่างประหยัดคือ
-ควรเตรียมเครื่องปรุงในการประกอบอาหารให้พร้อมก่อนใช้เตา
-ควรใช้ภาชนะก้นแบนและเป็นโลหะจะทำให้รับความร้อน จากเตาได้ดี
-ในการหุ่งต้มอาหารควรใส่น้ำให้พอดีกับจำนวนอาหาร
-ในระหว่างอบอาหารอย่าเปิดตู้อบบ่อย ๆ
-ถอดเต้าเสียบทันทีเมื่อปรุงอาหารเสร็จเรียบร้อย
-ควรหรี่ไฟและปิดฝาหม้อในกรณีที่ต้องเคี่ยว
-ควรใช้พาหนะก้นแบนขนาดพื้นที่ก้นเหมาะกับพื้นที่หน้าเตาและใช้พาหนะที่มีเนื้อโลหะรับความร้อนได้ดี หากเป็นไปได้ให้ใช้กับเตาไฟฟ้าซึ่งมีขายทั่วไปอยู่แล้ว
-ควรปิดฝาภาชนะให้สนิทขณะตั้งเตา
เครื่องทำน้ำอุ่น
-ปรับปุ่มความร้อนให้เหมาะสมกับร่างกาย
-ปิดวาล์วทันทีเมื่อไม่ใช้งาน
-หากมีรอยรั่วควรรีบทำการแก้ไขทันที
-ต่อสายลงดินในจุดที่จัดไว้ให้ของเครื่องทำน้ำอุ่น
-ปิดสวิชต์ไฟฟ้าของเครื่องทำน้ำอุ่นเมื่อไม่ใช้
-ปฏิบัติตามคำแนะนำที่แนบมากับเครื่อง
-ใช้เครื่องขนาดพอสมควร
-ปรับความร้อนไม่ให้ร้อนเกินความจำเป็น
-ปิดก๊อกทุกครั้งเมื่อไม่ใช้งาน
-ในฤดูร้อนไม่จำเป็นต้องใช้น้ำร้อน หรือน้ำอุ่น
-ควรใช้น้ำอุ่นที่ได้ความร้อนจากแสงอาทิตย์
เครื่องปรับอากาศ
-การใช้เครื่องปรับอากาศให้มีความเย็นที่สบายต่อร่างกาย จะประหยัดค่าไฟฟ้าอย่างได้ผล ซึ่งควรปฏิบัติดังนี้
-ปิดเครื่องทุกครั้งเมื่อไม่ใช้งาน
-ปิดประตูหน้าต่างและผ้าม่านกันความร้อนจากภายนอก
-ตั้งอุณหภูมิไม่ควรต่ำกว่า 26 องศาเซลเซียส
-ควรใช้เครื่องขนาดเหมาะสมกับขนาดห้อง
-ควรเลือกเครื่องปรับอากาศที่มีประสิทธิภาพสูง
-ควรติดตั้งเครื่องระดับสูงพอเหมาะ และให้อากาศร้อนระบายออกด้านหลังเครื่องได้สะดวก
-ควรบุผนังห้อง และหลังคาด้วยฉนวนกันความร้อน
-ควรบำรุงรักษาเครื่องให้มีสภาพดีตลอดเวลา
-ควรหมั่นทำความสะอาดแผ่นกรองอากาศ และแผงระบายความร้อน
-ในฤดูหนาวขณะที่อากาศไม่ร้อนมากเกินไป ไม่ควรเปิดเครื่องปรับอากาศ
-ปิดประตู หน้าต่างให้มิดชิดไม่ให้ความเย็นรั่วไหล
-พิจารณาติดตั้งบังแสงหรือกันแดด เพื่อลดภาระการทำงานของเครื่อง
-ควรใช้ผ้าม่านกั้นประตูหน้าต่าง เพื่อป้องกันความร้อนจากภายนอก
-ปฏิบัติตามคำแนะนำที่แนบมากับเครื่องปรับอากาศ
การไฟฟ้านครหลวง แนะนำดังนี้
-ถอดปลั๊กทุกครั้งหลังใช้งาน
-ใช้หลอดไฟแบบ LED
-.เปิดแอร์ในอุณหภูมิที่พอเหมาะ 26 °C แต่หากต้องการความรู้สึกเย็นสบายเท่ากับ 24°C ให้เปิดพัดลมช่วย โดยไม่ต้องลดอุณหภูมิของแอร์
-รีดผ้าครั้งละมาก ๆ ไม่ควรรีดบ่อย ๆ
-ปิดโทรทัศน์ และถอดปลั๊กทุกครั้งหลังใช้งาน และไม่ควรปิดด้วยรีโมท
-จัดระเบียบตู้เย็นให้เหมาะสม และไม่เปิดตู้เย็นบ่อย ๆ ไม่เปิดทิ้งไว้นาน ๆ
-ทิ้งฝุ่นในถุงเครื่องดูดฝุ่นทุกครั้ง เพื่อให้มีแรงดูดดี
-หมั่นล้างแผ่นกรองอากาศแอร์ให้สะอาดอยู่เสมอ
-ซักผ้า ควรให้ปริมาณพอดีกับความจุของถัง เลือกระดับน้ำพอดีกับปริมาณผ้า ใช้อุณหภูมิปกติ
-จัดระเบียบให้ตู้เย็น ไม่ให้ของแน่นเกินไป ไม่เปิดตู้เย็นบ่อย ๆ ไม่เปิดทิ้งไว้นาน ๆ
"ตู้เย็น" ใช้อย่างไรให้ประหยัดไฟ? อากาศร้อนทำให้ตู้เย็นทำงานหนักมากขึ้นเพื่อรักษาความเย็นของอาหารยังคงความสดใหม่ เอ๊ะ !!เราจะช่วยตู้เย็นได้อย่างไร
ให้ทำงานได้ดีมีประสิทธิภาพ ไปดูกันเลย
-ติดตั้งในที่อากาศถ่ายเทสะดวก ไม่ควรอยู่ใกล้แหล่งความร้อน
-หมั่นตรวจสอบขอบยางตู้เย็นเป็นประจำ ไม่ให้ชำรุดรั่วซึม
-ละลายน้ำแข็งสม่ำเสมอ
-จัดระเบียบอาหารและสิ่งของในตู้เย็น ไม่กักตุนจนแน่นเกินไป
-ปรับตั้งอุณหภูมิให้เหมาะสมกับปริมาณของที่แช่ในตู้เย็น
-อย่าเปิด-ปิด บ่อย หรือเปิดทิ้งไว้นานเกินความจำเป็น
ที่มา การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค / การไฟฟ้านครหลวง
ภาพจาก การไฟฟ้านครหลวง/TNN Online