เงินบาทอ่อน จับตาผลประชุม กนง.-เงินเฟ้อ-ทิศทางเงินทุนต่างชาติสัปดาห์หน้า
ศูนย์วิจัยกสิกรไทย เผยเงินบาทอ่อนค่า สอดคล้องกับแรงขายสินทรัพย์เสี่ยงและสกุลเงินอื่นๆ ในภูมิภาค สัปดาห์นี้จับตาผลประชุม กนง.-เงินเฟ้อไทย-ทิศทางเงินทุนต่างชาติ
วันนี้( 4 มิ.ย.65) ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประเมินทิศทางค่าเงินบาทสัปดาห์ถัดไป (6-10 มิ.ย.) ว่า ธนาคารกสิกรไทยมองกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทที่ระดับ 34.00-34.70 บาทต่อดอลลาร์ ขณะที่ศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ ผลการประชุม กนง. อัตราเงินเฟ้อของไทย เดือน พ.ค. ทิศทางเงินทุนต่างชาติ ตลอดจนผลการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางยุโรปและธนาคารกลางออสเตรเลีย
ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐ ที่สำคัญ ได้แก่ อัตราเงินเฟ้อ (CPI) เดือน พ.ค. ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือน มิ.ย. (เบื้องต้น) และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ นอกจากนี้ตลาดยังรอติดตามสถานการณ์ยูเครน-รัสเซีย ตัวเลขการส่งออกและอัตราเงินเฟ้อเดือน พ.ค.ของจีน และดัชนี PMI ภาคบริการเดือน พ.ค.ของจีน และอังกฤษด้วยเช่น
โดยสถานกาณณ์ตลาดเงิน ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา พบว่า เงินบาททยอยปรับตัวอ่อนค่าลง สอดคล้องกับแรงขายสินทรัพย์เสี่ยงและสกุลเงินอื่นๆ ในภูมิภาค แต่สวนทางเงินดอลลาร์ และบอนด์ยีลด์สหรัฐ ที่ปรับตัวขึ้น โดยมีแรงหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐ อาทิ ดัชนี ISM ภาคการผลิตเดือน พ.ค. ที่ออกมาดีกว่าที่คาด ขณะที่ถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่ระดับสูงของเฟดในระหว่างสัปดาห์ยังคงสะท้อนท่าทีหนุนการขึ้นดอกเบี้ยต่อเนื่อง จากที่น่าจะปรับขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมเดือน มิ.ย.และ ก.ค.นี้ เพื่อสกัดแรงกดดันเงินเฟ้อของสหรัฐด้วยเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม กรอบการอ่อนค่าของเงินบาทเริ่มจำกัดลงช่วงปลายสัปดาห์ก่อนเข้าสู่ช่วงวันหยุดยาวของตลาดการเงินในประเทศ ประกอบกับนักลงทุนรอติดตามท่าทีต่อเงินเฟ้อและการดำเนินนโยบายการเงินของ กนง.แม้จะคาดว่า กนง.น่าจะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 0.50% ในการประชุมในวันที่ 8 มิ.ย.นี้ก็ตาม
สำหรับพฤหัสบดีที่ 2 มิ.ย.65 เงินบาทอ่อนค่าทดสอบแนว 34.40 บาทต่อดอลลาร์ ก่อนจะกลับมาปิดตลาดที่ระดับ 34.32 บาทต่อดอลลาร์ เทียบกับระดับ 34.15 บาทต่อดอลลาร์ ในวันศุกร์ก่อนหน้า (27 พ.ค.) ขณะที่ระหว่างวันที่ 30 พ.ค.-2 มิ.ย. นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิหุ้นไทย 6,078.8 ล้านบาท ขณะที่มีสถานะเป็น NET OUTFLOW ออกจากตลาดพันธบัตร 3,938.04 ล้านบาท (ซื้อสุทธิพันธบัตรเพียง 562.06 ล้านบาท และมีตราสารหนี้หมดอายุ 4,500.10 ล้านบาท)
ข้อมูลจาก : ศูนย์วิจัยกสิกรไทย
ภาพจาก : AFP , TNN Online