นักธุรกิจหวังผู้ว่ากทม.คนใหม่ พลิกโฉมกรุงเทพฯ สู่มหานครระดับโลก
เปิดนานาทรรศนะนักธุรกิจต่อผู้ว่ากทม.คนใหม่ หลังได้รับชัยชนะในการเลือกตั้ง ว่าจะต้องเดินหน้านโยบายการบริหารงาน-ขจัดปัญหา-ดูแลชาวกรุงอย่างไรในยุคนิวนอร์มอล
ระเบิดศึกเลือกตั้งสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร-ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เริ่มแล้ววันนี้ที่คนกรุงเทพฯจะต้องไปใช้สิทธิ์ใช้เสียงใน การหย่อนบัตรเลือกตั้งเพื่อให้ไดุ้บุคคลที่ไว้วางใจ เข้ามาบริหารกทม. ภายใต้ระบอบประชาธิปไตย 1 สิทธิต่อ 1 คะแนนเสียงในการกำหนดอนาคตกรุงเทพฯในอีก 4 ปีข้างหน้า
สำหรับนโยบายการบริหารงานเป็นสิ่งสำคัญที่จะนำพากรุงเทพเมืองฟ้าอมรให้บรรลุเป้าหมายตามที่ผู้สมัครได้ประกาศหาเสียงไว้ โดย TNN ONLINEได้มีโอกาสสัมภาษณ์นักธุรกิจต่อมุมมองนโยบาย
การทำงานของผู้ว่ากทม.คนใหม่ที่จะเข้ามาบริหารกรุงเทพฯว่าอยากเห็นกรุงเทพฯมีการเปลี่ยนแปลงและก้าวย่างต่อไปอย่างไรตามไปดูกันเลย
เริ่มจากนายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (สอท.)มองว่า กรุงเทพฯว่างเว้นการเลือกตั้งมาหลายปี มาวันนี้เชื่อว่าประชาชนตื่นตัวและคาดหวังเพราะช่วงที่ผ่านมามีการเปลี่ยนแปลงเรื่องสำคัญหลายอย่างในโลก ไม่ว่าจะเป็นเทคโนโลยี ภูมิรัฐศาสตร์โดยวันนี้โลกเปลี่ยนเร็วก็อยากเห็นกทม. big change หรือเปลี่ยนอะไรที่มีนัยสำคัญ
โดยคนกรุงเทพฯตามทะเบียนราษฏรมี 5 ล้านกว่าคน แต่คนเข้าออกจริงเกิน 10 ล้านคนทั้งนี้ที่ผ่านมาเราจะเน้นทางด้านภาคท่องเที่ยว ซึ่งยอมรับว่ากรุงเทพฯติดท็อปเป็นมหานครที่คนมาเที่ยวอันดับต้นไม่แพ้ลอนดอน หรือปารีส เพราะไทยมีเสน่ห์หลายอย่างโดยเฉพาะขนบธรรมเนียมประเพณีและวัฒนธรรม
แต่สิ่งที่นักท่องเที่ยวคอมเมนท์บางอย่างจะต้องไปปรับปรุงเพื่อให้ภาพลักษณ์กรุงเทพฯให้ดีขึ้นเช่นรัสเซลล์ โครว์ ดาราฮอลลีวูด เดินทางมาถึงกรุงเทพฯถ่ายสายไฟกลางกรุงฯ และมองว่าเป็นเรื่องอะเมซิ่งทั่วโลก แต่คนกรุงเทพฯไม่ได้ปลื้มกับตรงจุดนี้ หรือ สตรีทฟู้ดส์ ที่มีการเทของเสีย และล้างจานเทน้ำในท่อน้ำ หรือไบค์เลนสำหรับคนขี่จักรยานต์เพื่อการรักษ์โลกและลดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์
และมลพิษในเมืองหลวงแต่ไทยกลับอะเมซิ่งกว่ามีรถมอเตอร์ไซด์วิ่งบนฟุตบาทและเขาถ่ายรูปลงโซเชียลหรือการแยกขยะใช้ถังแยกจริงแต่เวลาไปเอาขยะมาทิ้งกลับรวมขยะรวมกัน
ซึ่งไม่อยากให้เห็นภาพแบบนั้น โดยต้องการเห็นบ้านเมืองสะอาดมีความเป็นระเบียบเหมือนต่างประเทศ มีระบบระบายน้ำที่ดีไม่ใช่ฝนตกแล้วน้ำท่วม รวมถึงคูคลองจากน้ำเสียให้เป็นน้ำใสไม่มีกลิ่นได้หรือไม่ และติดตั้งกล้องซีซีทีวีครอบคลุม เพื่อความปลอดภัยของประชาชนไม่ใช่เป็นเพียงกล้องmock up เท่านั้น
นอกจากนี้ในยุคที่ถูกดิสรัปชั่นก้าวสู่ยุคดิจิทัลสิ่งที่เป็นความต้องการคนยุคใหม่เรื่องอินเทอร์เน็ตให้ครอบคลุมกับการให้บริการประชาชนและนักท่องเที่ยว ดังนั้นจะทำอย่างไรให้เป็นมหานครระดับโลกที่มีนักท่องเที่ยวเข้ามาไทยจำนวนมากนำเสนอจุดเด่นที่ดีมากกว่านำจุดที่ไม่ดีมาสร้้างเซอร์ไพร์ส
สำหรับนโยบายแคนดิเดตหลายคนน่าสนใจนโยบายที่ออกมาดี แต่หวังว่าเข้ามาแล้วอยากให้ทำเต็มที่ตามที่ได้หาเสียงไว้และที่สำคัญอยากเห็นความโปร่งใสของการใช้งบประมาณมีประสิทธิภาพ ตรงจุดไม่รั่วไหลหรือคอรัปชั่น เพราะถ้าใช้งบมีประสิทธิภาพทำโครงการที่ควรจะเป็นจะทำให้ได้กรุงเทพฯในจินตนาการที่คาดหวังไว้
"การแก้ไขปัญหาต่างๆ ให้คำนึงถึงคนอยู่ที่นี่กินที่นี่ต้องการชีวิตที่ดีกว่านี้ เพื่อให้กรุงเทพฯกลายเป็นมหานครที่พร้อมสำหรับคนกรุงเทพฯ 70-80% ก่อนและค่อยคำนึงถึงต่างประเทศ 20-30% แต่วันนี้ไม่รู้ว่าเราหลงทางหรือป่าว อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าผู้ว่ากทม.คนใหม่จะเป็นใคร แต่รับปากไว้ขอให้ทำตามที่ได้หาเสียงไว้ เพราะปัญหากทม.ผู้ลงสมัครรู้ปัญหาหมด"
ฝั่งนักธุรกิจรุ่นใหม่อย่าง นายไตรเตชะ ตั้งมติธรรม กรรมการผู้จัดการ บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน)มองว่า กรุงเทพฯเป็นศูนย์กลางธุรกิจรวมทำให้มีธุรกิจใหม่เกิดขึ้นเร็วกว่าหลายจังหวัดซึ่งผู้ว่ากทม.ควรรู้เท่าทันด้านเทคโนโลยีปรับตัวกับการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็ว เพราะปัญหาที่มีวันนี้2-3ปีข้างหน้าอาจไม่ใช่ปัญหานี้ถ้าผู้ว่าเป็นคนที่มีหัวคิดนำสมัย กล้าคิดกล้าทำ กล้าเปลี่ยนแปลงก็จะผลักดันให้กรุงเทพฯสามารถเติบโตได้เร็วขึ้น และเป็นเมกะซิตี้อย่างแท้จริงเพราะเป็นพื้นที่ที่มีศักยภาพครบถ้วนที่จะเป็นผู้นำเมกะซิตี้ของโลก
เสียงสะท้อนเหล่านี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งที่อยากเห็นกรุงเทพฯเป็นเมืองน่าอยู่ มีความเป็นระเบียบเรียบร้อย มีความปลอดภัยสำหรับนักท่องเที่ยว และมีศักยภาพในการเติบโต เพื่อก้าวสู่ กลายเป็นมหานครอันดับต้น ๆ ของโลก ซึ่งหวังว่าผู้ว่า กทม.คนใหม่ที่จะเข้ามาทำหน้าที่ จะรับฟังความที่เป็นประโยชน์เหล่านี้ และพิสูจน์ฝีมือ สร้างผลงานให้สมกับความไว้วางใจที่ได้รับจากชาวกรุงเทพมหานคร....
ที่มา
ภาพประกอบ สอท.,บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) ,TNN ONLINE