TNN ธปท.ยันฐานะการเงินแบงก์แกร่ง-เงินสำรอง-สภาพคล่องสูงพร้อมปล่อยกู้ฉลุย

TNN

Wealth

ธปท.ยันฐานะการเงินแบงก์แกร่ง-เงินสำรอง-สภาพคล่องสูงพร้อมปล่อยกู้ฉลุย

ธปท.ยันฐานะการเงินแบงก์แกร่ง-เงินสำรอง-สภาพคล่องสูงพร้อมปล่อยกู้ฉลุย

ธปท.เผยระบบธนาคารพาณิชย์ไทยแข็งแกร่งเงินกองทุน- เงินสำรอง -สภาพคล่องสูงรองรับการฟื้นตัวเศรษฐกิจได้อย่างฉลุย ขณะที่สินเชื่อระบบแบงก์พาณิชย์ Q1/65 โต 6.9% ส่วนหนี้เสียขยับขึ้นเล็กน้อยแตะ 2.93 %

น.ส.สุวรรณี เจษฎาศักดิ์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายนโยบายและกำกับสถาบันการเงิน 2 ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ระบบธนาคารพาณิชย์มีความเข้มแข็ง โดยมีเงินกองทุน เงินสำรองและสภาพคล่องอยู่ในระดับสูง มีความสามารถในการขยายสินเชื่อเพื่อสนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจได้อย่างต่อเนื่อง โดยคุณภาพสินเชื่อในภาพรวมค่อนข้างทรงตัวจากไตรมาสก่อน โดยหลักจากการปรับโครงสร้างหนี้และมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้ ขณะที่ผลประกอบการปรับ ดีขึ้นจากปีก่อน ซึ่งเป็นผลจากการเติบโตของสินเชื่อที่ทำให้รายได้ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น  ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้


ระบบธนาคารพาณิชย์มีเงินกองทุนทั้งสิ้น 3,016.4 พันล้านบาท คิดเป็นอัตราส่วนเงินกองทุน ต่อสินทรัพย์เสี่ยง (BIS ratio)  19.8  % เงินสำรองอยู่ในระดับสูงที่ 909.4 พันล้านบาท โดยอัตราส่วน เงินสำรองที่มีต่อสินเชื่อด้อยคุณภาพ (NPL coverage ratio) อยู่ที่  165.6 % และอัตราส่วนสินทรัพย์สภาพคล่องเพื่อรองรับกระแสเงินสดที่อาจไหลออกในภาวะวิกฤต (Liquidity Coverage Ratio: LCR) อยู่ที่  192.5 % 


ภาพรวมการเติบโตของสินเชื่อระบบธนาคารพาณิชย์ในไตรมาส 1 ปี 2565 ขยายตัวที่  6.9%  เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนที่ขยายตัว  6.5 % โดยมีรายละเอียดดังนี้


สินเชื่อธุรกิจขยายตัว 8.8%  เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนที่ขยายตัว 7.9 % จากสินเชื่อธุรกิจขนาดใหญ่ ที่ขยายตัวต่อเนื่องตามความต้องการเงินทุนของภาคเอกชน โดยขยายตัวได้ในเกือบทุก ภาคธุรกิจ ด้านสินเชื่อธุรกิจ SMEs ขยายตัวจากมาตรการสินเชื่อฟื้นฟูเป็นสำคัญสินเชื่ออุปโภคบริโภคขยายตัวในอัตราที่ชะลอลงจากไตรมาสก่อนที่ 3.3 % สอดคล้องกับความเชื่อมั่นของครัวเรือนที่ปรับลดลงจากการระบาดของ COVID-19 สายพันธุ์ Omicron 


โดยสินเชื่อที่อยู่อาศัยขยายตัวชะลอลงตามอุปสงค์ต่อที่อยู่อาศัยที่มีแนวโน้มปรับลดลง ด้านสินเชื่อรถยนต์ทรงตัว แม้ว่ายอดขายรถยนต์ในประเทศเริ่มกลับมาขยายตัวได้ ขณะที่สินเชื่อบัตรเครดิตขยายตัวสอดคล้องกับปริมาณการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตที่ปรับเพิ่มขึ้น และสินเชื่อส่วนบุคคลขยายตัวต่อเนื่องตามความต้องการสภาพคล่องของภาคครัวเรือน

คุณภาพสินเชื่อของระบบธนาคารพาณิชย์ไตรมาส 1 ปี 2565 ในภาพรวมทรงตัวเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน เป็นผลจากการปรับโครงสร้างหนี้และมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้เป็นสำคัญ


 โดยยอดคงค้างสินเชื่อด้อยคุณภาพ (Non Performing Loan: NPL หรือ stage 3) เพิ่มขึ้นเล็กน้อยมาอยู่ที่ 531.9 พันล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน NPL ต่อสินเชื่อรวมที่  2.93 %  ขณะที่สัดส่วนสินเชื่อที่มีการเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญของความเสี่ยงด้านเครดิตต่อสินเชื่อรวม (Significant Increase in Credit Risk: SICR หรือ stage 2) อยู่ที่  6.09  % ลดลงจากไตรมาสก่อนที่   6.39% 


ระบบธนาคารพาณิชย์มีกำไรสุทธิในไตรมาส 1 ปี 2565 จำนวน 49.4 พันล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาสเดียวกันปีก่อน  11.8  % โดยหลักจากการขยายตัวของสินเชื่อที่ทำให้รายได้ดอกเบี้ยสุทธิเพิ่มขึ้น 


ขณะที่รายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยปรับลดลงจากรายได้ค่าธรรมเนียมเป็นสำคัญ ทั้งนี้ หากเทียบกับไตรมาสก่อน กำไรสุทธิปรับเพิ่มขึ้นจากการควบคุมค่าใช้จ่ายดำเนินงานและค่าใช้จ่ายสำรองที่ลดลง ส่งผลให้อัตราผลตอบแทนต่อสินทรัพย์เฉลี่ย (Return on Assets: ROA) เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่  0.87% จากไตรมาสก่อน ที่  0.67 % ขณะที่อัตราส่วนรายได้ดอกเบี้ยสุทธิต่อสินทรัพย์ที่ก่อให้เกิดรายได้ดอกเบี้ยเฉลี่ย (Net Interest Margin: NIM) ทรงตัวอยู่ที่  2.45 % 


 


ที่มา  ธนาคารแห่งประเทศไทย

ภาพประกอบ ธนาคารแห่งประเทศไทย

ข่าวแนะนำ