เตือนผู้ถือหุ้น ! 11 เม.ย.วันสุดท้ายซื้อหุ้น SCB แลกเป็นหุ้น SCBX
ธนาคารไทยพาณิชย์ประกาศแจ้งนักลงทุน 11 เม.ย.นี้ วันสุดท้ายซื้อหุ้น SCB เพื่อนำมาแลกหุ้น SCBX พร้อมเตือนผู้ถือหุ้นที่ไม่ตอบรับคำเสนอซื้อภายในกำหนดจะได้รับผลกระทบ 5 ด้าน
ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCB แจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.)ว่า ตามที่บริษัท เอสซีบีเอกซ์ จำกัด (มหาชน) SCBX จะทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ทั้งหมดของธนาคาร โดยออกและเสนอขายหลักทรัพย์ที่ออกใหม่ของ SCBX แก่ผู้ถือหุ้นของธนาคาร เพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนกับหลักทรัพย์ของธนาคาร
ในอัตราการแลกหลักทรัพย์เท่ากับ 1 หุ้นสามัญของธนาคาร ต่อ 1 หุ้นสามัญของ SCBX และ 1 หุ้นบุริมสิทธิของธนาคาร ต่อ1 หุ้นสามัญของ SCBX โดยกำหนดระยะเวลาการทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ ตั้งแต่วันที่ 2 มี.ค.-18 เม.ย.65 รวมทั้งสิ้น 30 วันทำการาร โดยเป็นระยะเวลารับซื้อสุดท้าย
SCBX ได้ดำเนินการทำคำเสนอซื้อหุ้นของธนาคาร ตั้งแต่วันที่ 2 มี.ค.- 5 เม.ย.65 รวมเป็นระยะเวลา 25 วันทำการแล้ว ธนาคารขอแจ้งเตือนผู้ถือหุ้นและผู้ที่ประสงค์จะซื้อหุ้นของธนาคารเพื่อแลกหุ้นในขั้นตอนการตอบรับคำเสนอซื้อ ดังนี้
1. วันสุดท้ายของการยื่นแบบตอบรับการทำคำเสนอซื้อพร้อมเอกสารประกอบให้กับตัวแทนในการรับซื้อหลักทรัพย์ คือ วันจันทร์ที่ 18 เม.ย.65 ก่อนเวลา 16.00 น. โดยตัวแทนในการรับซื้อหลักทรัพย์ประกอบด้วย บริษัทหลักทรัพย์ เกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) บริษัทหลักทรัพย์ ไทยพาณิชย์ จำกัดบริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) และบริษัทหลักทรัพย์ เอเชีย พลัส จำกัด
2. เนื่องจากการซื้อขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ มีขั้นตอนการชำระราคาและส่งมอบหุ้นในวันทำการที่ 2 ถัดจากวันซื้อขาย หรือ T+2 ดังนั้นวันทำการสุดท้ายที่นักลงทุนสามารถซื้อหุ้นของธนาคารเพื่อนำมาตอบรับคำเสนอซื้อได้ คือ วันจันทร์ที่ 11 เม.ย.65
ดังนั้นภายหลังวันที่ 11 เม.ย.65 นักลงทุนสามารถเข้าซื้อหลักทรัพย์ของธนาคาร ได้ตามปกติ แต่จะไม่สามารถนำหลักทรัพย์นั้นมาตอบรับคำเสนอซื้อได้ ดังนั้นผู้ถือหุ้นของธนาคารที่ไม่ตอบรับคำเสนอซื้อจะได้รับผลกระทบดังนี้
1) หุ้นของธนาคาร ขาดสภาพคล่อง หุ้นของธนาคาร จะพ้นสภาพการเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียน และจะไม่มีการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ หรือตลาดรองอื่น ๆ
2) ขาดโอกาสในการได้รับผลตอบแทนจากการลงทุนจากการดำเนินงานของธุรกิจที่โอนย้ายไปยัง SCBX และธุรกิจใหม่ในอนาคต
3) ไม่ได้รับสิทธิประโยชน์ด้านภาษีหลังจากหุ้นของธนาคารพ้นสภาพการเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียน ผู้ถือหุ้นที่เป็นบุคคลธรรมดาจะไม่ได้รับการยกเว้นภาษีเงินได้สาหรับกำไรจากการซื้อขายหุ้น (Capital gain tax) นอกจากนี้ผู้ถือหุ้นของธนาคาร ทั้งที่เป็นบุคคลธรรมดาและนิติบุคคลจะต้องเสียอากรแสตมป์ ในการโอนหุ้นสามัญของธนาคาร ในกรณีที่บริษัท ศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ (ประเทศไทย) จำกัด ไม่ได้ทำหน้าที่เป็นนายทะเบียนหลักทรัพย์
4) นโยบายการจ่ายเงินปันผลอาจเปลี่ยนแปลงไปในอนาคต นโยบายการจ่ายเงินปันผลของธนาคาร ภายหลังการปรับโครงสร้างการถือหุ้นอาจมีการเปลี่ยนแปลงไป เนื่องจากธนาคารจะอยู่ภายใต้ SCBX ดังนนั้นโยบายการจ่ายเงินปันผลของธนาคาร จะต้องขึ้นอยู่กับแผนธุรกิจในอนาคตและความเหมาะสมโดยรวมเพื่อพิจารณาฐานะทางการเงินของ SCBX
5) ได้รับข้อมูลข่าวสารของธนาคารน้อยลงเนื่องจากหุ้นของธนาคารจะถูกเพิกถอนจากตลาดหลักทรัพย์ฯ ผู้ถือหุ้นของธนาคารจะมีข้อจำกัดในการได้รับข่าวสารจากธนาคาร
ในกรณีของผู้ถือหุ้นซึ่งถือหุ้นของธนาคารในรูปแบบใบหุ้น (Scrip) ผู้ถือหุ้นสามารถส่งแบบตอบรับคำเสนอซื้อพร้อมเอกสารประกอบได้ที่ตัวแทนในการรับซื้อหลักทรัพย์ทุกราย ยกเว้นบริษัทหลักทรัพย์ เอเชีย พลัส จำกัด (สำหรับผู้แสดงเจตนาทั้งประเภทบุคคลและนิติบุคคล) และที่สาขาของธนาคารไทยพาณิชย์ทั่วประเทศ (เฉพาะผู้แสดงเจตนาประเภทบุคคล)
สำหรับกรณีของผู้ถือหุ้นซึ่งถือหุ้นของธนาคารในรูปแบบไร้ใบหุ้น (Scripless) ผู้ถือหุ้นสามารถส่งแบบตอบรับคาเสนอซื้อพร้อมเอกสารประกอบได้ที่บริษัทหลักทรัพย์ที่ผู้ถือหุ้นมีบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์อยู่ โดยบริษัทหลักทรัพย์นั้นจะเป็นผู้ให้บริการรวบรวมและนำส่งแบบตอบรับคำเสนอซื้อดังกล่าวให้แก่ตัวแทนในการรับซื้อหลักทรัพย์ต่อไป
ที่มา ตลาดหลักทรัพย์ฯ
ภาพประกอบ ไทยพาณิชย์