ส่อง 6 หุ้นเด่น รับประโยชน์เดินหน้าเปิดประเทศ

บล.เอเซียพลัส ระบุว่า  กระทรวงท่องเที่ยวฯ เตรียมชง "ศบค." พิจารณายกเลิกไทยแลนด์พาส ภายใน เม.ย. นี้ และให้มีผล 1 มิ.ย. พร้อมเสนอยกเลิกตรวจ RT-PCR นักท่องเที่ยวต่างชาติวันแรกที่เดินทางเข้าไทยเปลี่ยนตรวจ ATK โดยเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ เริ่ม 1 พ.ค. บนเงื่อนไขช่วงสงกรานต์ยอดผู้ติดเชื้อไม่เกิน 50,000-60,000 คนต่อวัน (รวม ATK) และยอดผู้เสียชีวิตไม่เกิน 100 คนต่อวัน

ฝ่ายวิจัยมีมุมมองบวกต่อประเด็นดังกล่าว ทั้ง Thailand pass ซึ่งใช้เวลาในการลงทะเบียนและสร้างความสับสนให้นักท่องเที่ยว รวมถึงการยกเลิกตรวจ RT – PCR เมื่อเดินทางมาไทย ช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายของนักท่องเที่ยว จูงใจให้นักท่องเที่ยวต่างชาติมาไทยมากขึ้น สอดรับกับสภาวะที่กำลังซื้อเผชิญกับ Inflation 

ASPS ประเมินเป็นบวกต่อรพ.ที่มีสัดส่วนรายได้จากชาวต่างชาติในภาวะปกติสูง เนื่องจากการผ่อนคลายระบบ “Test and Go” และยกเลิกระบบ “Thailand Pass” จะทำให้ผู้ป่วยต่างชาติกลับมาได้เร็วขึ้น โดยยังให้เน้นลงทุน BDMS (FV@B29) ,BH  (FV@B190)   จากความคาดหวังการฟื้นตัวได้ชัดจากผู้ป่วยต่างชาติและความต่อเนื่องของกำไรปี 65-66

สำหรับในมุมการท่องเที่ยว เริ่มเห็นการโครงการต่างๆ จากภาครัฐและเอกชนทยอยหนุนต่อเนื่อง ทั้งโครงการ Workation Paradise Throughout Thailand เป็นการต่อยอดการท่องเที่ยวในรูปแบบท่องเที่ยวพร้อมการทำงาน รวมถึงบริษัทแอร์เอเชียออกแพ็คเกจ Air Asia Super + เดินทาง 10 ประเทศในภูมิภาคอาเซียน แบบบุฟเฟต์ ในระยะเวลา 1 ปี ได้แก่ ประเทศไทย, มาเลเซีย, สิงคโปร์, กัมพูชา,อินโดนีเซีย, ลาว, พม่า, ฟิลิปปินส์, เวียดนาม, บรูไน หนุนให้ตัวเลขนักท่องเที่ยวและธุรกิจโรงแรมคึกคักขึ้น 

ทั้งนี้หากพิจารณาตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติมาไทย ก.พ. 65 อยู่ที่ 1.53 แสนคน บวก 14% MoM คิดเป็น 4.2% ของนักท่องเที่ยวต่างชาติมาไทยช่วง ก.พ. 62 เพิ่มจาก ม.ค. 65 ที่คิดเป็น 3.6% ของ ม.ค. 62 แม้เริ่มเห็นสัญญาณชะลอตัวของนักท่องเที่ยวรัสเซีย (สัดส่วน 12% ของนักท่องเที่ยวต่างชาติมาไทย) อยู่ที่ 1.8 หมื่นคน (-25% MoM) บางส่วนเป็นผลจากฤดูกาล (ก.พ. 61, ก.พ. 62 ลบ 14% - 17% MoM ตามลำดับ) 

รวมทั้งสถานการณ์ระหว่างรัสเซีย – ยูเครน แต่ถูกชดเชยด้วยการฟื้นตัวของนักท่องเที่ยวกลุ่มอื่น อาทิ ฝรั่งเศส, สหราชอาณาจักร, เยอรมัน เติบโต 66%, 21% และ 13% MoM ตามลำดับ สะท้อนการกระจายตัวของฐานนักท่องเที่ยวต่างชาติมาไทยค่อนข้างดี 

ภาพรวมนักท่องเที่ยวต่างชาติมาไทย 2M65 เท่ากับ 2.9 แสนคน แม้คิดเป็นสัดส่วน 6% ของสมมติฐานฝ่ายวิจัยที่ 5 ล้านคน (ปี 2564 ที่ 4.3 แสนคน) แต่ประเมินพัฒนาการดีขึ้นช่วง 2H65 จากแผนผ่อนคลายการเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติตามข้างต้น รวมถึงคาดหมายการออกเดินทางของนักท่องเที่ยวจีนมากขึ้นช่วง 4Q65 (ก.พ. 65 อยู่ที่ 4.9 พันคน สูงขึ้น 57% MoM คิดเป็น 0.5% ของ ก.พ. 62) เชื่อว่าจีนเริ่มให้ความสำคัญกับเศรษฐกิจมากขึ้น ตามความเห็นฝ่ายวิจัย พิจารณาจากวานนี้การ Lock down เซี่ยงไฮ้ของจีน ระยะเวลาในการ Lock แบ่งออกเป็นทีละ 2 พื้นที่ สิ้นสุด 5 เม.ย. 65

ทั้งนี้ โรงแรมที่ได้ประโยชน์มากสุดในกลุ่มฯ นำโดย ERW ที่มีโครงสร้างรายได้จากโรงแรมไทย (อิงปี 2562) ราว 90% ตามด้วย CENTEL ราว 34% (มัลดีฟส์ 7% และร้านอาหาร 59%) ส่วน MINT แม้รายได้มาจาก NH Hotel ราว 50% ของรายได้รวมปี 2562 (ร้านอาหารคิดเป็นสัดส่วน 18% ของรายได้ปี 2562) แต่ข่าวข้างต้นคาดช่วยผลักดันการฟื้นตัวของ MINT ฟื้นตัวเร็วขึ้น เพิ่มเติมจากการฟื้นตัวของ NH Hotel ที่มีพัฒนาการเชิงบวกตั้งแต่ 2H64

คงน้ำหนักกลุ่มท่องเที่ยว เท่าตลาด สำหรับกลุ่มฯ เลือก CENTEL(FV@B44) จากงบดุลแกร่งและพอร์ตโรงแรมกระจายตัวทั้งในประเทศและต่างประเทศ รวมถึงธุรกิจร้านอาหาร ตามด้วย MINT(FV@B36) เพราะการฟื้นตัวใน EU และคาดหมายการ Turn around เป็นกำไรเร็วสุดในกลุ่มฯ ส่วน ERW([email protected]) ราคาหุ้นยัง Laggard CENTEL และ MINT นอกจากนี้ธุรกิจร้านอาหารอย่าง M  (FV@B63) รับอานิสงค์จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ตามทิศทางนักท่องเที่ยวต่างชาติ ต่อเนื่องถึงสาขาในจังหวัดท่องเที่ยว และหากจีนเริ่มกลับมา บวกต่อร้านอาหารแหลมเจริญฯ (สัดส่วน 5% ของรายได้ M ปี 2562)

ที่มาเอเซียพลัส 

ภาพประกอบ เอเซียพลัส