เปิดโผ 8 หุ้น Value Play รับมือตลาดผันผวน

นางสาววิลาสินี บุญมาสูงทรง ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย  บล. โกลเบล็ก  หรือ GBS  เปิดเผยว่า  ทิศทางตลาดหุ้นไทยแกว่งตัวผันผวน จากแรงกดดันสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างยูเครน-รัสเซีย ซึ่งส่งผลกระทบต่อภาพรวมเศรษฐกิจโลกอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ และล่าสุดทาง  IMF มีการส่งสัญญาณปรับลดคาดการณ์ GDP เศรษฐกิจโลกปีนี้ หลังนานาประเทศได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจจากสงครามระหว่างรัสเซียและยูเครนต่อเนื่อง 

ขณะเดียวกันทางองค์การอนามัยโลก (WHO) แนะนำให้กระทรวงสาธารณสุขและทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในยูเครนเร่งทำลายเชื้อโรคหรือสารพิษอันตรายในห้องปฏิบัติการของยูเครนเพื่อป้องกันเชื้อโรคแพร่กระจาย  ประกอบกับยูเครนมีอัตราการฉีดวัคซีนระดับต่ำอาจทำให้มีโควิดแพร่ระบาดเกิดการติดเชื้อและมีอาการหนัก รวมถึงเสียชีวิตมากขึ้น  ส่วนฮ่องกงมีการแพร่ระบาดสายพันธุ์ใหม่ที่ชื่อ BA.2.2 ทำให้มียอดผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 ในฮ่องกงพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็ว 

นอกจากนี้การที่รัฐบาลจีนประกาศล็อกดาวน์เมืองเซินเจิ้นเป็นเวลาอย่างน้อย 1 สัปดาห์เพื่อสกัดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 อีกครั้ง ทำให้นักวิเคราะห์ประเมินว่าอาจซ้ำเติมเศรษฐกิจโลกเพิ่มขึ้น  จึงคาดการณ์กรอบการเคลื่อนไหวของดัชนีในกรอบ 1,630-1,670 จุด

ทั้งนี้ยังคงต้องจับตาผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (FED), การประชุมระดับปลัดกระทรวงการคลังและรองผู้ว่าการธนาคารกลางเอเปค, การประชุมศบค.ชุดใหญ่พิจารณามาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในช่วงเทศกาลสงกรานต์, การประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ครั้งที่ 2/2565, ธปท.รายงานภาวะเศรษฐกิจไทย

รวมถึงอียูรายงานการผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนม.ค. ความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจเดือนมี.ค. สหรัฐรายงานดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนก.พ. ดัชนีภาคการผลิตเดือนมี.ค., สหรัฐรายงานยอดค้าปลีกเดือนก.พ. ดัชนีตลาดที่อยู่อาศัยเดือนมี.ค. สต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจเดือนม.ค. สต็อกน้ำมันรายสัปดาห์   และคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) แถลงมติอัตราดอกเบี้ย (เช้าวันที่ 17 มี.ค.), อียูเปิดเผยอัตราเงินเฟ้อเดือนก.พ. 

ธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ประชุมนโยบายการเงินและแถลงมติอัตราดอกเบี้ย และสหรัฐเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ การเริ่มสร้างบ้านและการอนุญาตก่อสร้างเดือนก.พ. ดัชนีการผลิตเดือนมี.ค. การผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนก.พ. 

ด้านกลยุทธ์ลงทุนแนะนำหุ้น Value Play ได้แก่ KBANK, BBL, SCB, EA, GULF,  ADVANC, TRUE และ DTAC เนื่องจากมีการเติบโตที่แข็งแกร่งเมื่อเทียบช่วงตลาดผันผวนในช่วงนี้ 

 นายณัฐวุฒิ วงศ์เยาวรักษ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล. โกลเบล็ก กล่าวว่า ทั้งสงครามส่อเค้ายืดเยื้อและเงินเฟ้อสหรัฐยังหนุนราคาทองคำอย่างต่อเนื่อง และเมื่อตลาดคาดการณ์ว่าสงครามอาจมีความรุนแรงน้อยลง สินทรัพย์ปลอดภัยอย่างทองคำจึงเผชิญแรงเทขาย กรอบการซื้อขาย 1,940-2020 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์  ย่อตัวลงมาไม่หลุดแนวรับบริเวณ 1,960 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์  ทยอยเข้าซื้อสะสม

ที่มา  บล. โกลเบล็ก 

ภาพประกอบ  บล. โกลเบล็ก