TNN บี.กริมเพาเวอร์ ลุยซื้อกิจการขยายกำลังการผลิตไฟฟ้า 1,000 เมกะวัตต์

TNN

Wealth

บี.กริมเพาเวอร์ ลุยซื้อกิจการขยายกำลังการผลิตไฟฟ้า 1,000 เมกะวัตต์

บี.กริมเพาเวอร์ ลุยซื้อกิจการขยายกำลังการผลิตไฟฟ้า 1,000 เมกะวัตต์

บี.กริมเพาเวอร์กางแผนปี 65 จับมือพันธมิตรลุยขยายกำลังการผลิตไม่ต่ำกว่า 1,000 เมกะวัตต์ บอร์ดไฟเขียวออกหุ้นกู้เพิ่มสู่ระดับ 100,000 ล้านบาท ในระหว่างปี 65- 69 จ่ายปันผลหุ้นละ 0.27 บาท

ดร.ฮาราลด์ ลิงค์ ประธาน บี.กริม และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บี.กริม เพาเวอร์ จำกัด   (มหาชน)  หรือ BGRIM เปิดเผยว่า แผนธุรกิจในปี 65  ตั้งเป้าหาพันธมิตรเซ็นสัญญาซื้อขายไฟฟ้าเพิ่มขึ้นอีกไม่ต่ำกว่า 1,000 เมกะวัตต์ในปีนี้และจะ COD โรงไฟฟ้า SPP 5 โครงการทดแทน รวม 700 เมกะวัตต์ ซึ่งจะลดอัตราการใช้ก๊าซลงได้  15% 


นอกจากนี้เน้น มุ่งสู่เป้าหมายการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เป็นศูนย์ ภายในปี 2593 บี.กริม เพาเวอร์ มุ่งปรับปรุงประสิทธิภาพโรงไฟฟ้าเพื่อลดอัตราการใช้ก๊าซ ขยายการลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนอย่างต่อเนื่อง ควบคู่กับการศึกษากระบวนการดักจับคาร์บอน และการลงทุนในเชื้อเพลิงทางเลือก


รวมถึง ดิจิทัล ทรานฟอร์เมชั่น การนำดิจิทัล ทวิน มาใช้เพิ่มประสิทธิภาพโรงไฟฟ้าและลดการหยุดซ่อมฉุกเฉิน รวมถึงนำมาใช้วิเคราะห์ความเสี่ยงเชิงปริมาณและเพิ่มประสิทธิภาพสูงสุด พร้อมการปรับปรุงกระบวนการทำงานและแผนการควบคุมค่าใช้จ่าย ซึ่งเริ่มจาก 4 กระบวนการหลักของธุรกิจ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานและลดกระบวนการที่ไม่เกิดมูลค่า ขณะที่แผนการควบคุมค่าใช้จ่ายสามารถลดค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร ได้ 19.4% หรือ 368 ล้านบาท ในปี 2564 


ขณะเดียวกันเตรียมนำเข้า LNG  เพื่อช่วยในการบริหารต้นทุนค่าก๊าซธรรมชาติ และถือเป็นเชื้อเพลิงสำคัญที่ช่วยในการเปลี่ยนผ่านจากถ่านหินไปสู่พลังงานสะอาด รวมถึงจัดทำโครงการนำร่อง Energy Trading ที่อาคารสำนักงานของ บี.กริม เพื่อเตรียมความพร้อมรองรับการซื้อขายแลกเปลี่ยนพลังงานไฟฟ้าและเสริมบริการโซลูชั่นแก่ลูกค้า ในอนาคต


นอกจากนี้จะ จับมือพันธมิตรชั้นนำเพิ่มความแข็งแกร่งในการขยายธุรกิจ อันเป็นกลยุทธ์หลักของ บี.กริม ที่ยึดถือต่อเนื่องมายาวนาน ทั้งกับ AMATA, SCG, PTT Global LNG, UV, นิคมอุตสาหกรรมเอเชีย, ReNIKOLA, Truong Thanh Energy, Renewable Energy Korea และ VisaVento 


อย่างไรก็ตาม ในปีนี้ บี.กริม ได้ดำเนิน “โครงการนวัตกรรม” โดยร่วมกับพันธมิตรทางธุรกิจ Global Innovation Catalyst (ซึ่งเป็นที่ปรึกษาที่มีเครือข่ายทั่วโลก มีประสบการณ์การทำงานกว่าทศวรรษใน Silicon Valley) เพื่อสร้างวัฒนธรรมนวัตกรรมและความพร้อมสำหรับ บี.กริม ในอนาคต และได้ร่วมมือกับมหาวิทยา ลัยกับพันธมิตรทางธุรกิจ หลายแห่ง เพื่อเสริมสร้างและสนับสนุนนวัตกรรมในประเทศไทย


สำหรับผลประกอบการในปี 64 มีรายได้จากการขายและการให้บริการ  46,628 ล้านบาท  เติบโต 5.8%    ปริมาณไฟฟ้าที่จำหน่ายเพิ่มขึ้น 2.4% อยู่ที่ 14,794 กิกะวัตต์-ชั่วโมง จากการขยายธุรกิจต่อเนื่องทั้งด้านฐานลูกค้าอุตสาหกรรมที่มีลูกค้าใหม่ 43.1 เมกะวัตต์ การเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ (COD) โรงไฟฟ้าพลังงานลมขนาด 16 เมกะวัตต์ในประเทศไทยเมื่อเดือนสิงหาคม


 อย่างไรก็ดี ด้วยราคาก๊าซธรรมชาติซึ่งเป็นต้นทุนการผลิตหลักปรับตัวสูงขึ้น 8.8% เป็น 266 บาทต่อล้าน BTU ในปี 2564 และอยู่ที่ 335 บาทต่อล้าน BTU ในไตรมาส 4/2564 กำไรสุทธิ 2,440 ล้านบาท   ลดลง 6.8% ถึงแม้ว่าในปี 2565 ถือเป็นปีที่แนวโน้มราคาก๊าซธรรมชาติปรับตัวสูงขึ้น ทาง BGRIM ได้มีการเตรียมความพร้อมโดยเร่งลดต้นทุนและค่าใช้จ่าย  ซึ่งคาดว่าจะประหยัดได้ไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาทในปีนี้


ด้วยการนำเข้าก๊าซ LNG  จะประหยัดต้นทุนส่วนนี้ได้ราว 7-10% ควบคู่ไปกับแผนการปรับปรุงประสิทธิภาพโรงไฟฟ้าอย่างต่อเนื่องโดยในปี 2565 จะปรับปรุงโครงการ BPWHA และ ABP4 คาดว่าจะช่วยลดต้นทุนค่าก๊าซธรรมชาติลง 20-25 ล้านบาทต่อปี  


นอกจากนี้มติที่ประชุมคณะกรรมการเมื่อวันที่ 24  ก.พ. ที่ผ่านมา บี.กริม เพาเวอร์ ได้อนุมัติกรอบการออกหุ้นกู้เพิ่มสู่ระดับ 100,000 ล้านบาท ในระหว่างปี 2565-2569 เพื่อเตรียมความพร้อมด้านโครงสร้างการเงินที่แข็งแรง รองรับการเติบโตมุ่งสู่เป้าหมาย 10,000 เมกะวัตต์ และประกาศจ่ายปันผลงวดครึ่งปีหลังในอัตราหุ้นละ 0.27 บาท คงอัตราการจ่ายปันผลที่ 45% ของกำไรสุทธิจากการดำเนินงาน โดยกำหนดวันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล (XD)  11 มี.ค. และวันที่จ่ายปันผล คือ 12 พ.ค.โดยจะนำเสนอขออนุมัติที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 65 ต่อไป


ที่มา บริษัท บี.กริม เพาเวอร์ จำกัด 

ภาพประกอบ  บริษัท บี.กริม เพาเวอร์ จำกัด 

ข่าวแนะนำ