"คลัง"คาดลดภาษีน้ำมันดีเซล ส่งผลดีต่อศก. ยันไม่กระทบจีดีพีปี65 โต4%ได้
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง คาดลดภาษีน้ำมันดีเซลส่งผลดีต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ยืนยันไม่กระทบต่อเป้าหมายจีดีพีปี65 ที่คาดว่าจะโตได้ 4%
วันนี้ (19 ก.พ.65) นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า การที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติอนุมัติการลดภาษีน้ำมันดีเซล จะส่งผลต่อการจัดเก็บรายได้ในปีนี้หรือไม่นั้น จะต้องมีการพิจารณาก่อนว่าการลดภาษีส่งผลให้รายได้ภาคธุรกิจเพิ่มขึ้นมากน้อยเพียงใด ซึ่งมีผลต่อเศรษฐกิจ และเมื่อเศรษฐกิจเริ่มขยายตัวได้ดีขึ้นแล้ว ธุรกิจกลับมาดำเนินการได้ ยอดการจัดเก็บรายได้ของกระทรวงการคลังก็จะเพิ่มขึ้นตามมา ส่วนจะสามารถชดเชยส่วนที่หายไปได้หรือไม่นั้น จะมีการติดตามสถานการณ์เดือนต่อเดือน รวมทั้งการลดภาษีรถยนต์อีวีด้วย ก็ต้องคอยติดตามดูเช่นเดียวกัน ซึ่งก็เป็นมาตรการส่งเสริมที่กระทรวงการคลังต้องมีมาตรการภาษีเข้าไปช่วย
ขณะที่รายได้จากการจัดเก็บภาษีในปีงบประมาณ 2565 นั้น ก็ต้องมีการประเมินทั้งปีว่าเมื่อเศรษฐกิจขยายตัวได้แล้ว ทำให้การบริโภคเพิ่มขึ้น รายได้การจัดเก็บภาษีก็จะเพิ่มตาม แต่จะเพิ่มมากน้อยเพียงใด ก็ขึ้นอยู่กับการเติบโตของเศรษฐกิจ โดยจากที่คาดการณ์ที่ว่าเศรษฐกิจปีนี้จะเติบโตได้ 4% ต่อปีนั้น การจัดเก็บภาษีก็คาดว่าน่าจะเป็นไปตามเป้าหมาย ขณะนี้ยังประเมินว่ายังอยู่ในวิสัย อย่างไรก็ตาม ก็จะมีการติดตามอย่างใกล้ชิดในทุกเดือน ทั้งรายได้ในส่วนของภาครัฐ และรายได้ของรัฐวิสาหกิจที่นำส่งด้วย
สำหรับปีงบประมาณ 2565 เป้าหมายการจัดเก็บรายได้ของกรมสรรพสามิตตามเอกสารงบประมาณ อยู่ที่ 5.97 แสนล้านบาท โดยในการจัดเก็บรายได้จำนวนดังกล่าว ได้รวมการปฏิรูปโครงสร้างภาษี ประมาณ 3 หมื่นล้านบาทไว้แล้ว แต่เมื่อสถานการณ์เศรษฐกิจยังไม่เอื้ออำนวย กรมจึงชะลอการปฏิรูปโครงสร้างภาษีออกไปก่อน และปรับเป้าหมายการจัดเก็บรายได้ในปีงบประมาณนี้ เหลือ 5.6 แสนล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะสามารถทำได้ตามเป้าหมาย แม้ว่ากรมจะสูญเสียรายได้จากการลดภาษีน้ำมันดีเซล 1.7 หมื่นล้านบาทก็ตาม
โดยการลดภาษีน้ำมันดีเซล 3 บาทต่อลิตร นาน 3 เดือน ส่งผลให้กรมสูญเสียรายได้ 1.7 หมื่นล้านบาท แต่เศรษฐกิจไทยขณะนี้มีความจำเป็นที่ต้องใช้ภาษีสรรพสามิตตรึงราคาในระบบให้เหมาะสม โดยเมื่อเศรษฐกิจขยายตัวขึ้นได้ รายได้จากภาษีก็จะกลับมา โดยกรมสรรพสามิต ยืนยันว่าในปีงบประมาณ 2565 นี้ จะไม่มีการออกภาษีตัวใหม่เข้ามาทดแทนการจัดเก็บภาษีน้ำมันที่หายไป และไม่มีการขึ้นอัตราภาษีส่วนอื่นๆ ที่กรมจัดเก็บด้วย เพราะจะกระทบการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ
ที่มา :กระทรวงการคลัง
ภาพประกอบ: AFP ,TNN Online