นักลงทุนรุ่นใหม่สนใจลงทุนคริปโตฯมากกว่าหุ้น พร้อมรับความเสี่ยง-ผันผวนเป็นเรื่องปกติ

วันนี้( 18 ม.ค.65) ผศ. ดร. ธานี ชัยวัฒน์ ผู้อำนวยการศูนย์เศรษฐศาสตร์พฤติกรรมและการทดลอง คณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เปิดเผยผลการสำรวจ “พฤติกรรมเชิงลึกและไลฟ์ สไตล์ทางการเงินของคนรุ่นใหม่” โดยเป็นความร่วมมือของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และ คณะเศรษฐศาสตร์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เพื่อศึกษาพฤติกรรมของนักลงทุน (Investor) และผู้มีศักยภาพเป็นนักลงทุน (Potential Investor) ในช่วงอายุ 18-39 ปี พบว่า ทัศนคติของนักลงทุนมีความแตกต่างกันตามช่วงอายุ แต่จะตัดสินใจจากสถานการณ์ปัจจุบันมากกว่าประสบการณ์ในอดีต  โดยการตัดสินใจเข้าลงทุนในตลาดทุนนั้นขึ้นอยู่กับทัศนคติ  ระดับเงินออม และความรู้ บุคคลต้นแบบของกลุ่มประชากรและกลุ่มตลาดฯที่ไม่เหมือนกัน ซึ่งส่งผลต่อความต้องการของการลงทุนที่แตกต่างกัน  รวมทั้งมีการกระจายพอร์ตการลงทุนในแบบของตัวเอง จำเป็นต้องพิจารณาสินทรัพย์ลงทุนทั้งทางการและไม่เป็นทางการ เส้นทางการลงทุนมีความสำคัญในการคาดการณ์การลงทุน การกำหนดนโยบายหรือการประชาสัมพันธ์ให้มีประสิทธิผลต้องมีข้อมูลเส้นทางการลงทุน นอกจากนี้คนรุ่นใหม่เชื่อมโยงการเมือง เศรษฐกิจและสังคมเข้าด้วยกันโดยเฉพาะประเด็นเรื่องความเป็นธรรม   โดยในภาพรวมพบว่านักลงทุนทุกกลุ่มมีความสนใจหุ้นสามัญลดลง แต่ให้ความสนใจ Cryptocurrency และสินทรัพย์สมัยใหม่มากขึ้น

สำหรับผลวิจัยได้สำรวจความคิดเห็นจากนักลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ จำนวน 30 คน ส่วนใหญ่ที่เคย หรือลงทุนอยู่ใน Cryptocurrency อายุไม่เกิน 24 ปี (มี 10 คน) รองลงมาอายุมากกว่า 30 ปี (มี 8 คน) และมีผู้ที่ไม่เคยลงทุนใน Cryptocurrency   (มี 12 คน) โดยคนที่เคยหรือลงทุนอยู่ใน Cryptocurrency อายุไม่เกิน 24 ปี สนใจใน Cryptocurrency  เพราะขับเคลื่อนจากตลาด ปลอดจากการกำกับดูแลและทันสมัย 

  

นอกจากนี้นักลงทุนกลุ่มตัวอย่าง ยังมองว่าการลงทุนใน Cryptocurrency  ถือเป็นการลงทุนทดแทนตลาดหุ้น และมักลงทุนเฉพาะสินทรัพย์สมัยใหม่อื่น ซึ่งเชื่อว่าความเสี่ยงคือ ความผันผวนเป็นเรื่องปกติ  ขณะเดียวกันนักลงทุนรุ่นใหม่ยังมีความกล้าเสี่ยง และมีเป้าหมายหารายได้ แทนการออม และมองว่าการลงทุนในหุ้นยังเข้าถึงได้ยากด้วยเงินทุนที่สูง ส่วนใหญ่เป็นบริษัทขนาดใหญ่  ส่วนผู้ที่ลงทุนรายย่อย อายุมากกว่า 30 ปี สนใจใน Cryptocurrency   เพราะเป็นการลงทุนแบบใหม่ผลตอบแทนสูง ความเสี่ยงสูง โดยนักลงทุนกลุ่มนี้มักจะลงทุนเพื่อกระจายพอร์ต    ขณะที่คนที่ไม่เคยลงทุน ในอายุไม่เกิน 24 ปี ไม่สนใจลงทุน crypto ให้เหตุผลว่า ไม่รู้ปัจจัยกำหนด และต้องตามข่าวต่างประเทศ ,คิดจะลอง แต่ยังไม่กล้า เพราะผันผวนมาก และรอฟังแนวทางจากภาครัฐ

ด้านนายสันติธาร เสถียรไทย ประธานทีมเศรษฐกิจและหรรมการผู้จัดการใหญ่  บริษัท Sea Group เปิดเผยว่า  การลงทุนในยุคปัจจุบันคือมีการเปิดกว้างมากขึ้น ทำให้พฤติกรรมการลงทุนและคนรุ่นใหม่สนใจการลงทุนมากขึ้น  โดยมีการเชื่อมโยงในรูปแบบทั่วโลก  สะท้อนจากการที่นักลงทุนรุ่นใหม่มองหาสินทรัพย์หรือลงทุนในต่างประเทศมากขึ้น   รวมทั้ง Influencer ที่มีผลต่อการตัดสินใจลงทุนด้วยตัวเองมากขึ้น  เมื่อเทียบกับสมัยก่อนที่จะอาศัยศึกษาจากผู้เชี่ยวชาญเฉพาะ  รวมทั้ง มีการยอมรับความเสี่ยงจากการลงทุนได้มากกว่านักลงทุนกลุ่มอื่น  โดยมองเห็นถึงกำไรแม้จะมีความเสี่ยงแต่ก็คุ้มค่า และเป็นการสร้างรายได้มากกว่าการออม  และยังเป็นการแสดงถึงทัศนะคติของตนเองได้ด้วย 

อย่างไรก็ตาม การลงทุนยังต้องมีความรู้ความเข้าใจ และลงทุนในสิ่งที่ชอบและตอบโจทย์ ขณะที่ความเสี่ยงในตลาด Cryptocurrency  ยังเป็นเรื่องของการใช้สื่อ เนื่องจากปัจจุบันนักลงทุนเลือกที่จะศึกษาข้อมูลจากอินฟลูเอนเซอร์ และเชื่อในการตัดสินใจด้วยตัวเองมากกว่าอาสัยผู้เชี่ยวชาญ เพราะอาจจะเกิดกรณี เช่น การสร้างข่าวลือให้กับสินทรัพย์นั้นๆเพื่อหวังผลกำไร รวมทั้งปัจจุบันนักลงทุนรุ่นใหม่มักมองการลงทุนเพื่อหวังผลตอบแทนสูงหรือผลกำไรมากกว่าการวางแผนการออมด้วย ซึ่งเกรงว่าจะเกิดปัญหาในด้านการเงินในอนาคตหรือไม่ เป็นต้น 

ข้อมูลจาก ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย , สันติธาร เสถียรไทย ประธานทีมเศรษฐกิจและหรรมการผู้จัดการใหญ่  บริษัท Sea Group

ภาพประกอบ : AFP