TNN ตัดเกรด 16 ชาติหลังจบรอบแรกวอลเลย์บอลหญิงเนชันส์ ลีก 2023

TNN

วอลเลย์บอล

ตัดเกรด 16 ชาติหลังจบรอบแรกวอลเลย์บอลหญิงเนชันส์ ลีก 2023

ตัดเกรด 16 ชาติหลังจบรอบแรกวอลเลย์บอลหญิงเนชันส์ ลีก 2023

ตัดเกรด 16 ชาติในวอลเลย์บอลหญิง เนชันส์ ลีก 2023 หลังทุกทีมแข่งจบรอบแรกเป็นที่เรียบร้อย ใครได้ A , B , C , D และ F บ้าง ไปติดตามได้เลย

จบลงไปเป็นที่เรียบร้อยสำหรับ วอลเลย์บอลหญิง เนชันส์ ลีก 2023 รอบแรก หลังทุกทีมผ่านการลงเล่น 12 เกม ได้ 8 ทีมผ่านเข้าไปเล่นในรอบ Finals ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา ระหว่างวันที่ 12-16 ก.ค. 66 เพื่อหาทีมแชมป์ประจำปีนี้เป็นที่เรียบร้อย โดย 8 ชาติที่ผ่านเข้ารอบ ประกอบไปด้วย โปแลนด์ , สหรัฐอเมริกา , ตุรกี , บราซิล , จีน , อิตาลี , ญี่ปุ่น และ เยอรมัน 


โดยตลอด 12 นัดที่ผ่านมา 16 ชาติมีผลงานอย่างไรบ้าง ทีมข่าว TNNSPORTS ขอตัดเกรดให้คะแนนทุดชาติดังต่อไปนี้

1.โปแลนด์ : เกรด A

ชัยชนะ 10 จาก 12 นัด ถือเป็นฟอร์มที่ยอดเยี่ยมอยากมากในรอบแรกของสาวโปแลนด์ในเนชันส์ลีกหนนี้ โดยพวกเธอแพ้เพียงแค่ เนเธอร์แลนด์ (0-3) และ สหรัฐอเมริกา (2-3) เท่านั้น ส่วนยักษ์ใหญ่ที่เหลือพวกเธอสามารถเอาชนะได้ทั้งหมด จากความยอดเยี่ยมของทีมเวิร์ค รวมทั้ง แม็กดาลีนา สตีเซียก ก็ขึ้นมาเป็นผู้นำทีมได้อย่างไม่ธรรมดาจริงๆ นอกจากนี้การต้องไปชนกับเยอรมัน ในรอบก่อนรองชนะเลิศ ทำให้พวกเธอมีโอกาสไปได้ไกลแน่นอนในฤดูกาลนี้


2.สหรัฐอเมริกา : เกรด A

เจ้าภาพในรอบสุดท้ายก็เป็นอีกทีมที่มีผลงานเยี่ยมในการเล่นรอบแรก แม้ว่าพวกเขาจบอันดับเท่าไหร่ ก็ได้สิทธิ์เข้าไปเล่นในรอบก่อนรองชนะเลิศอยู่แล้วก็ตาม แต่พวกเธอเน้นทุกนัด ไม่มีอ่อนข้อให้ใคร แม้จะมีการโรเตชั่นผู้เล่นแต่ละสนามบ้างก็ตาม แต่พวกเธอก็ยังรักษามาตรฐานได้ดี ถือว่าเป็นอีกหนึ่งทีมเต็งในฤดูกาลนี้แน่นอน


3.ตุรกี : เกรด A

ผลงานก้าวกระโดดขึ้นมาจากปี 2022 เป็นอย่างมาก เนื่องจากตอนปี 2022 พวกเธอจบรอบแรกในอันดับที่ 7 แพ้ไปถึง 5 นัด แต่ปีนีแพ้เพียง 3 นัดเท่านั้น โดยแพ้ให้กับ สหรัฐฯ , โปแลนด์ และ ญี่ปุ่น ซึ่งก็ถือว่าเป็นชาติแถวหน้าทั้งสิ้น ในซีซั่นนี้สาวตุรกี ถือว่ามีผลงานการเล่นที่โดดเด่นมาก นักกีฬาแต่ละคนถือว่าอยู่ในสภาพที่แข็งแกร่งสุดๆ อีกทั้งยังได้ เมเลซ่า วาร์กัส ที่โอนสัญชาติจากคิวบาเข้ามาด้วย ทำให้ยิ่งดุดันขึ้นไปอีก การเปลี่ยนโค้ชก็น่าจะเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้นักกีฬาเล่นกันคึกคักและสนุกสนานขึ้น


4.บราซิล : เกรด B

สาวบราซิลมีแกว่งบ้างเล็กน้อยในการแข่งขันเนชันส์ ลีก 2023 รอบแรก ด้วยการเปิดหัวพ่าย จีน และ สหรัฐฯ ในช่วงสองสนามแรก กระทั่งในสนามที่สาม พวกเธอมาเล่นที่ประเทศไทย บรรยากาศเหมือนเล่นที่บ้านตัวเอง ด้วยแรงเชียร์จากแฟนๆชาวไทยที่ถาโถมให้หนักมาก แต่ก็มีเกมหลุดพ่ายให้กับ แคนาดา และแพ้ขาดลอยให้กับตุรกี แต่โดยรวมก็ยังไม่ได้ถือว่าเสียหายมากนัก สามารถเข้ารอบได้ด้วยการจบอันดับที่ 4 และในสนามสุดท้ายมีการเปลี่ยนผู้เล่นหลายคนเข้ามาด้วย จึงทำให้ความเสถียรออกตกลงไปเล็กน้ย


5.จีน : เกรด B

สาวจีน ก็ถือว่าผลงานไม่ได้เสียหายกับการจบอันดับ 5 เนื่องด้วยพวกเธอ ไม่มีแม่ทัพอย่าง จู ถิง เข้ามาร่วมทีม แต่พวกเธอก็มี หลี่ หยิงหยิง มือซ้ายพิฆาตเป็นแม่ทัพคนใหม่ ที่ต้องขึ้นมาตลอดในกรณีที่ จู ถิง ไม่อยู่ จริงๆแล้วด้วยมาตรฐานของพวกเธอ เกมที่แพ้ 4 นัด ก็ไม่ได้ดูแย่อะไร แต่อาจจะมีการแพ้ โปแลนด์ กับ โดมินิกัน ที่พวกเธอน่าจะทำได้ดีกว่านี้ ส่วนการแพ้ อิตาลี กับ เซอร์เบีย เป็นอะไรที่พอเข้าใจได้ แต่ถึงอย่างไร ในรอบ Finals จีน ก็ยังเป็นอีกทีมที่มีลุ้นในระยะยาวแน่นอน


6.อิตาลี : เกรด A

เอาตัวรอดเข้ารอบไปได้ แม้ไม่มีผู้เล่นสำคัญอย่าง เปาล่า เอโกนู , คริสติน่า ชิริเคลล่า และ อินเดร โซโลไกไต้ สามกำลังสำคัญ แต่ก็ยังเก็บชัยได้รัวๆ จนจบอันดับ 6 ด้วยสถิติชนะ 8 แพ้ 4 นัด จากการนำทีมของ ซิลเวีย เอ็นมากาลอร์ , อลิซ เดกราดี้ และ อนา ดาเนซี่ ซึ่งต้องชมโค้ช ดาวิเด้ มาซซานติ ที่ทำให้ทีมยังเก็บทรงอยู่ การเข้าไปชนกับตุรกี ในรอบก่อนรองชนะเลิศ พวกเธอก็มีลุ้นที่จะฝ่าไปได้ไกลเช่นกัน


7.ญี่ปุ่น : เกรด B

ทำผลงานได้เยี่ยมยามเจอกับทีมที่อยู่ในมาตรฐานเดียวกัน หลุดยาก แต่สาวนิปปอนจะมีปัญหาเวลาเจอกับทีมจากยุโรปที่มีสรีระสูงใหญ่ สังเกตจากการแพ้ เซอร์เบีย , เยอรมัน , เนเธอร์แลนด์ และ อิตาลี แต่โดยรวมก็ถือว่าทำหน้าที่ได้ดี กลายเป็นทีมชั้นนำของเอเชีย และสู้กับระดับโลกได้อย่างยอดเยี่ยม มีเกมสำคัญที่เอาชนะ สหรัฐอเมริกา ได้อีกด้วย การเข้าไปเล่นในรอบ 8 ทีมสุดท้าย เป็นสิ่งที่พวกเธอทำได้เป็นประจำอยู่แล้ว แต่การจะไปได้ไกลแค่ไหน คงต้องลุ้นกันในระยะยาวต่อไป


8.เยอรมัน : เกรด A

ถือว่าเป็นทีมที่เข้ารอบได้อย่างเซอร์ไพรส์จริงๆสำหรับ เยอรมัน ทำผลงานยอดเยี่ยมมาก เพราะนับตั้งแต่หมดยุคของ หลุยซ่า ลิปป์มันน์ ที่ลาทีมชาติไป แต่ต้องยอมรับว่า ฮันน่า ออร์ทมันน์ สาววัย 24 ปี ก็ขึ้นมาเป็นผู้นำของทีมได้อย่างดีเยี่ยม โดยการแข่งขันในปีนี้พวกเธอสามารถเอาชนะทีมที่อยู่ในระดับมาตรฐานเดียวกันได้เกือบทั้งหมด ยามเจอกับทีมที่เหนือกว่า ก็สามารถสู้ได้สนุก ตีเซตแตกได้หลายต่อหลายครั้ง ส่วนผลงานโบว์แดง น่าจะเป็นการชนะ ไทยและญี่ปุ่น ได้นั่นเอง


9.เซอร์เบีย : ติด F

สอบตกอย่างไม่ต้องสงสัยในฐานะรองแชมป์เก่า ไม่สามารถเอาตัวรอดผ่านเข้าไปเล่นในรอบ 8 ทีมสุดท้ายได้ แม้สองสนามแรกจะเป็นผู้เล่นชุดที่ไม่เต็มทีมเท่าไหร่นักก็ตาม หรือจะมองว่าโค้ช โจวานนี่ กุยเด็ตติ ไม่ซีเรียสกับรายการนี้ก็ไม่ว่ากัน แต่น่าจะเป็นบทเรียนให้เซอร์เบียเห็นชัดว่าความประมาทเป็นหนทางแห่งหายนะอย่างแท้จริง เพราะพวกเธอมาเร่งในสนามสุดท้าย นำผู้เล่นตัวท็อปมาครบ แต่ก็ไม่ทัน ซึ่งเกมสำคัญคือการแพ้ โดมินิกัน ในนัดที่ 11 ทำให้หมดสิทธิ์เข้ารอบตั้งแต่วันนั้นเลย นับว่าเป็นเรื่องน่าเสียดายที่เราจะไม่ได้เห็นสาวเซิร์บในรอบสุดท้าย


10.แคนาดา : เกรด A

ไม่ธรรมดาสุดๆสำหรับลูกทีมของ แชนนอน วินเซอร์ ที่เข้าแข่งขันเป็นปีที่สาม เรียกได้ว่าสร้างซีนได้ทุกปีจริงๆ ดีขึ้นเรื่อยๆอย่างไม่ต้องสงสัย เป็นทีมที่พัฒนาการดีที่สุดในบรรดาทุกทีม แพสชั่นของโค้ชและนักกีฬาสูงมาก ชัยชนะ 6 เกมที่ทำได้มีชนะ เซอร์เบีย , บราซิล และ เนเธอร์แลนด์ อีกทั้งยังมีเกมที่สู้สูสีกับหลายๆทีมยักษ์ใหญ่ ชนิดที่ชนะใจแฟนๆ แม้จะไม่ได้ผ่านเข้ารอบสุดท้ายไปได้ แต่พวกเธอสอบผ่านได้คะแนนเต็มแบบไม่ต้องสงสัยกับพัฒนาการที่ทำได้ขนาดนี้ เชื่อว่าปีต่อๆไปพวกเธอจะดีกว่านี้แน่นอน


11.โดมินิกัน : เกรด C

ก็ถือว่าตกไปพอสมควรสำหรับมาตรฐานของโดมินิกันที่ปกติถือว่าสู้ได้ดีกว่านี้ มีเกมหลุดหลายเกม โดยรวมก็ถือว่าพอรับได้ แต่เสียดายที่ไม่ได้ผ่านเข้ารอบสุดท้าย เพราะสาวโดมิฯ ถือว่าเป็นทีมมากประสบการณ์และเป็นขาประจำของรายการนี้ พวกเธอเล่นสนุกทุกวัน บ่อยครั้งที่ต้องเล่น 4 เซตขึ้นไป อาจจะมีสองนัดสุดท้ายที่สามารถฝ่าด่านเอาชนะ จีน และ เซอร์เบีย ได้ แต่ไม่ทันจริงๆ ซึ่งตรงนี้น่าเสียดาย


12.เนเธอร์แลนด์ : เกรด C

คืนฟอร์มเก่งช้าไปสักเล็กน้อยสำหรับสาวดัชต์ ฟอร์มค่อนข้างทีเด็ดในสนามสุดท้าย ที่เก็บชัยไปถึง 3 นัด แต่ก็ไม่ทันที่จะเข้ารอบ น่าเสียดายที่ช่วงสองสนามแรกพลาดเยอะไปหน่อย อาจจะเป็นเพราะมีการลองทีม ลองผู้เล่นใหม่ๆ พอสนามสามตัวเต็ม ได้ บริทท์ บองเกต มาเซต อีกทั้ง เซเลสเท พลั๊ค ฟอร์มขึ้นสุดขีด ทำให้ฮอลแลนด์ เป็นอีกหนึ่งทีมที่ฟอร์มร้อนแรง ซึ่งในรายการต่อๆไปน่าจะทำผลงานได้ดีกว่านี้แน่นอน


13.บัลแกเรีย : เกรด C

เอาจริงๆแม้จะมาแข่งรายการนี้หลายทีแล้ว แต่ก็ถือว่าเป็นรองเกือบทุกชาติอยู่แล้ว จากการที่สาวบัลแกเรีย ไม่ได้ขึ้นชื่อเรื่องวอลเลย์บอลอยู่แล้ว ชัยชนะสองนัดต่อ โครเอเชีย และ เกาหลีใต้ ที่ทำได้ ก็ถือว่าทำได้ตามมาตรฐาน ไม่สอบตกในการแข่งขันครั้งนี้


14.ไทย : ติด F

ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอันใด หากเราวิเคราะห์โดยที่เราไม่ได้เป็นคนไทย ก็คงจะเอกฉันท์ว่าเราสอบตกอย่างแน่นอน เพราะฤดูกาลที่แล้วเราเข้ารอบสุดท้าย พอมีซีซั่นนี้เราแพ้ถึง 10 จาก 12 นัด อีกทั้งยังเป็นการแพ้ 8 นัดรวดในสนาม 2-3 ทั้งที่เล่นในบ้านตัวเองสนามสุดท้าย ก็ขอให้สาวไทยสู้ต่อไป ปีหน้าเราต้องดีกว่าเดิมแน่นอน


15.โครเอเชีย : เกรด D

สาวหมากรุก มีอันต้องตกชั้นไปในการแข่งขันเนชันส์ ลีก หนนี้ อันที่จริงหากพวกเธอชนะบัลแกเรียได้ จะสอบผ่านเลย แต่ก็ดันไปพลาด โดยการชนะ เกาหลีใต้ และ ไทย ได้ ก็นับเป็นผลงานที่ดีในระดับหนึ่ง แต่ยังดีไม่พอที่จะทำให้พวกเธอไม่ต้องลงไปคัดในระดับชาเลนเจอร์ ทว่าเท่าที่ดู ก็ถือว่าใจสู้ขึ้นเยอะกว่าปีที่ผ่านๆมา หากได้กลับมาอีก ก็น่าจะดีขึ้นอย่างแน่นอน


16.เกาหลีใต้ : ติด F

สอบตกอย่างไม่มีข้อโต้แย้ง แม้จะเริ่มมีสัญญาณที่ดีขึ้น ฟอร์มการเล่นเริ่มดีขึ้นบ้าง แต่ผลการแข่งขันก็ยังถือว่าน่าเป็นห่วงอยู่ดี จากการแพ้ 12 นัดรวด ยิ่งหากนับเอาผลการแข่งขันเมื่อปี 2022 มารวมด้วย สาวกิมจิ แพ้ 24 นัดรวดเข้าไปแล้ว ถือว่าน่าเป็นห่วงสภาพจิตใจของพวกเธอพอสมควรเลยทีเดียว


ตารางคะแนนหลังจบรอบแรก

ตัดเกรด 16 ชาติหลังจบรอบแรกวอลเลย์บอลหญิงเนชันส์ ลีก 2023