ไม่พลิกโผ ‘โจ ไบเดน’ ชนะเลือกตั้ง ปิดประตูโอกาส ‘ทรัมป์’ หรือไม่
‘โจ ไบเดน’ ชนะเลือกตั้งปธน.สหรัฐฯอย่างเป็นทางการ ประตูชัยชนะของ ทรัมป์ ปิดตายแล้วหรือไม่?
วันนี้ ( 15 ธ.ค. 63 )คณะผู้เลือกตั้งสหรัฐฯ คณะผู้เลือกตั้งสหรัฐ หรือ electoral college ลงคะแนนให้ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โจ ไบเดน 306 เสียง เป็นการยืนยันว่า “โจ ไบเดน” มีชัยเหนือประธานาธิบดี "ทรัมป์" และเป็นผู้ชนะเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐอย่างเป็นทางการแล้ว
แต่ก็ยังมีคำถามว่าประตูชัยชนะของ ทรัมป์ ปิดตายแล้วหรือไม่?
ถ้าถามผู้สนับสนุนประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ อย่างเหนียวแน่น ก็คงจะตอบว่า ยังมีหนทาง แต่ถ้าถามนักวิเคราะห์การเมืองบางคน บอกว่า โอกาสของ ทรัมป์ หมดลงแล้ว
ทรัมป์และทีมงานจะทำอย่างไรต่อไป?
คณะผู้เลือกตั้ง หรือ electoral college ทั้ง 50 รัฐ และ 1 เขตปกครองพิเศษกรุงวอชิงตันดีซี ได้ลงคะแนนเลือก “โจ ไบเดน” ในวันที่ 14 ธันวาคมตามเวลาในสหรัฐฯ จนครบ 306 คะแนน เป็นการยืนยันว่า "โจ ไบเดน" ผู้สมัครประธานาธิบดีพรรคเดโมแครตส์ คือผู้ชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐเมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายนที่ผ่านมา อย่างเป็นทางการ ผลคะแนนที่ออกมาเท่ากับคะแนนที่สื่อต่างๆ ในสหรัฐ ได้รายงานมาตลอด
ว่าที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน กล่าวว่าว่า เขาและกมลา แฮร์ริส ว่าที่รองประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้รับคะแนนเสียงจากคณะผู้เลือกตั้ง หรือ electoral college จำนวน 306 คะแนน มากกว่า 270 คะแนน ที่เป็นคะแนนครึ่งหนึ่งของคณะผู้เลือกตั้งทั้งหมด ที่ผู้ชนะจะต้องได้เป็นอย่างน้อย ซึ่ง 306 คะแนนเป็นตัวเลขเดียวกับคะแนนจากคณะผู้เลือกตั้งที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ทรัมป์ และรองประธานาธิบดีไมค์ เพนซ์ ได้รับ ในการเลือกตั้งเมื่อปี 2016 ซึ่งในครั้งนั้นทรัมป์เรียกมันว่าเป็นการชนะแบบถล่มทลายจากคณะผู้เลือกตั้ง ตามสแตนดาร์ดของ ทรัมป์
คะแนนที่ลงให้ไบเดนแสดงให้เห็นถึงชัยชนะอย่างชัดเจน และขอแนะนำให้พวกเขา ซึ่งน่าหมายถึงทรัมป์และผู้สนับสนุนของเขา เคารพในผลที่ออกมาด้วย
ไบเดน กล่าวว่าในอเมริกานักการเมืองไม่ใช่ผู้มีอำนาจ แต่ประชาชนเป็นคนหยิบยื่นอำนาจให้พวกเขา เปลวไฟแห่งประธาชาธิปไตยถูกจุดขึ้นประเทศนี้มาเป็นเวลานาน และไม่ว่าจะเป็นโรคระบาดหรือการใช้อำนาจในทางที่ผิดก็ไม่สามารถดับได้
ทั้งประชาชน เจ้าหน้าที่ระดับรัฐ และเจ้าหน้าที่ที่ดูแลการเลือกตั้ง ต่างก็สนับสนุนให้เปลวไฟแห่งประชาธิปไตยลุกโชน ประชาธิปไตยของชาวอเมริกันมาจากการทำงานในระดับท้องถิ่น
นอกจากนี้นายไบเดน ได้กล่าวถึงการที่ประธานาธิบดีทรัมป์ไม่ยอมรับผลการเลือกตั้งด้วยว่า เป็นเรื่องสุดโต่งที่ไม่เคยพบเห็นมาก่อน ที่ไม่เคารพเจตจำนงของประชาชน ไม่เคารพหลักนิติธรรมและไม่ให้เกียรติรัฐธรรมนูญ
โชคดีที่ศาลสูงไม่รับฟ้องและส่งสัญญาณถึง ทรัมป์ อย่างชัดเจนว่าจะไม่เป็นส่วนหนึ่งในการโจมตีประชาธิปไตยอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
พร้อมบอกว่า นี่เป็นชัยชนะในการต่อสู้เพื่อจิตวิญญาณของประชาธิปไตยของชาวอเมริกัน และความศรัทธาในการเลือกตั้งก็ยังคงมีเหมือนเดิม และย้ำว่าเขาจะเป็นประธานาธิบดีสำหรับชาวอเมริกันทุกคน และจะทำงานหนักเพื่อทุกคน ไม่ว่าจะลงคะแนนเลือกเขาหรือไม่ก็ตาม
นี่เป็นท่าทีของว่าที่ ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ส่วนความเคลื่อนไหวของด้านประธานาธิบดีทรัมป์ แม้คณะผู้เลือกตั้งลงคะแนนรับรองให้ไบเดนเป็นผู้ชนะแล้วก็ตาม ทรัมป์ ก็ยังคงอ้างว่าถูกปล้นชัยชนะ เขาโพสต์ลงทวิตเตอร์ว่า มีรายงานการลงคะแนนเลือกตั้งในเขตหนึ่งในรัฐมิชิแกน ที่ไม่มีการเปิดเผยออกมา และรายงานดังกล่าว อาจส่งผลเปลี่ยนแปลงผลการเลือกตั้งได้ แต่ทวีตดังกล่าวของทรัมป์ ถูกทางทวิตเตอร์ติดธงเตือนทันทีว่า เป็นข้อความที่ยังมีข้อโต้แย้ง
คณะผู้เลือกตั้งคือตัวแทนของแต่ละรัฐที่ลงคะแนนเลือกประธานาธิบดีอย่างเป็นทางการ จำนวนคณะผู้เลือกตั้งก็ขึ้นอยู่กับประชากรของแต่ละรัฐ
รัฐธรรมนูญสหรัฐฯระบุเพียงว่า ผู้มีสิทธิเป็นคณะผู้เลือกตั้งไม่สามารถเป็นสมาชิกสภาคองเกรส หรือมีตำแหน่งในรัฐบาลกลาง
ในปีนี้ผู้มีชื่อเสียงที่สุด คือดีตประธานาธิบดีบิล คลินตันและนางฮิลลารี คลินตัน ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีในปี 2016 เป็นคณะผู้เลือกตั้งของรัฐนิวยอร์ก
คณะผู้เลือกตั้ง มักจะลงคะแนนเสียงให้สอดคล้องกับคะแนนโหวตในแต่ละรัฐ แต่ก็มีบางกรณีที่ลงให้อีกฝ่ายแทน ในปี 2016 ก็เกิดกรณีนี้เช่นกัน ทำให้บางรัฐเปลี่ยนแปลงกฎหมาย ไม่ให้มีการลงคะแนนแบบหักหลังประชาชนเกิดขึ้น
โดยปกติแล้วคณะผู้เลือกไม่ได้รับความสนใจมากขนาดนี้ แต่ปีนี้เนื่องจากประธานาธิบดีทรัมป์ กล่าวหาว่ามีการโกงเลือกตั้งและพยายามจะพลิกผลการเลือกตั้งด้วยการยื่นฟ้องต่อศาลทั่วประเทศ ทำให้การลงคะแนนจากคณะผู้เลือกตั้งครั้งนี้ถูกจับตามากเป็นพิเศษ มีการดูแลความปลอดภัยอย่างเข้มงวดในหลายรัฐ เช่นที่มิชิแกน และจอร์เจีย
ที่รัฐมิชิแกน สวิงสเตทสำคัญซึ่ง ไบเดน ชนะในรัฐนี้ มีรายงานว่าผู้สนับสนุนรีพับลิกันพยายามจะบุกเข้าไปในอาคารรัฐสภาของรัฐ แต่ก็ถูกเจ้าหน้าที่กันเอาไว้ได้ Gretchen Whitmer ผู้ว่าการรัฐมิชิแกน ซึ่งเป็นคนของพรรคเดโมแครตระบุว่า หลังจากวันนี้ไป ผลคะแนนทุกอย่างถือเป็นที่สิ้นสุด
เมื่อมาถึงขั้นตอนนี้ ทรัมป์ยังมีโอกาสชนะอีกหรือไม่?
นักวิเคราะห์ของบีบีซีมองว่า ผลลงคะแนนของคณะผู้เลือกตั้งไม่พลิกโผ ไม่แตกแถว และโอกาสของทรัมป์ปิดลงแล้ว แต่ทรัมป์ไม่ยอมรับความพ่ายแพ้
ดังนั้นฝ่ายรีพับลิกันที่เห็นด้วยกับทรัมป์ว่าการเลือกตั้งมีการทุจริตเกิดขึ้น ก็จะตั้งคณะผู้เลือกตั้งของตัวเองขึ้นมา เพื่อลงคะแนนให้ทรัมป์ชนะการเลือกตั้ง ส่วนทีมกฎหมายของทรัมป์ก็จะเดินหน้าฟ้องศาลต่อไป แต่ ไม่ว่าจะทำวิถีไหน แต่สุดท้ายแล้วก็จะไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ศาลก็จะไม่รับฟ้องและสภาคองเกรสก็จะไม่ยอมรับผลการเลือกตั้งจากคณะผู้เลือกตั้งที่รีพับลิกันตั้งขึ้นด้วย
ก่อนหน้านี้ทรัมป์เคยประกาศถ้าคณะผู้เลือกตั้งลงคะแนนให้ไบเดนเป็นผู้ชนะอย่างเป็นทางการ เขาก็จะยอมย้ายออกจากทำเนียบขาว แต่จะไม่ยอมรับความพ่ายแพ้ ก็มาดูว่า ทรัมป์จะย้ายออกไปเมื่อไหร่
หลังจากวันนี้ขั้นตอนต่อไป คือการส่งผลคะแนนของคณะผู้เลือกตั้งเข้าสู่สภาคองเกรส เพื่อนับคะแนนและประกาศผู้ชนะอย่างเป็นทางการอีกครั้ง จากนั้นพิธีสาบานตนในวันที่ 20 มกราคม และหลังจากนั้นเราจึงจะเรียก โจ ไบเดน ว่าเป็นประธานาธิบดีคนใหม่อย่างเป็นทางการ
เกาะติดข่าวที่นี่
website: www.TNNThailand.com
facebook : TNNThailand
facebook live : TNN Live
twitter : @TNNThailand
Line : @TNNONLINE
Youtube Official : TNNThailand
Instagram : @tnn_online
TIKTOK : @tnnonline