"ปูติน" ชี้ยูเครนเริ่ม "ยั่วยุครั้งใหญ่"
"ปูติน" ระบุ ยูเครนเริ่มการ "ยั่วยุครั้งใหญ่" หลังยูเครนบุกข้ามพรมแดน เข้าไปโจมตีในดินแดนรัสเซีย เป็นวันที่ 2 เข้าควบคุมศูนย์ส่งก๊าซธรรมชาติจากรัสเซียไปอียู แต่รัสเซียระบุว่า สกัดการรุกคืบหน้าของทหารยูเครนได้แล้ว
กระทรวงกลาโหมรัสเซียเปิดภาพวานนี้ (7 ส.ค.) เฮลิคอปเตอร์ทหารรัสเซียชนิด "Ka-52" กำลังยิงขีปนาวุธ 2 ชนิด คือ "S-8" และ "วิคร์" (Vikhr)โจมตีกองทหารและอาวุธของยูเครน บริเวณใกล้กับภูมิภาคชายแดนคูร์สก์ของรัสเซียที่ติดกับยูเครน
ส่วนภูมิภาคคูร์สก์ ชายแดนทางใต้ของรัสเซีย ประกาศภาวะฉุกเฉิน หลังทหารยูเครนบุกข้ามพรมแดน ซึ่งแทบไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน เข้าไปโจมตีในภูมิภาคคูร์สก์ของรัสเซีย หลังทหารยูเครนบุกเข้าไปเป็นวันที่ 2 แล้ววานนี้ (7 ส.ค.)
ด้าน อเล็กเซ สเมอร์นอฟ รักษาการผู้ว่าการคูร์สก์ เปิดเผยว่า มีชาวรัสเซียหลายพันคนอพยพออกจากพื้นที่ชายแดนรัสเซียแล้วในช่วง 2 วันที่ยูเครนบุก แต่ยืนยันว่า สถานการณ์อยู่ในการควบคุมของรัสเซียแล้ว
ด้านประธานาธิบดี วลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย เรียกประชุมคณะรัฐมนตรีรัสเซียและเจ้าหน้าที่ระดับสูงด้านความมั่นคง ทั้งแบบพบหน้าและทางไกล ระบุ การที่ยูเครนเริ่มบุกภูมิภาคคูร์สก์ ชายแดนรัสเซียครั้งนี้ เป็นการเริ่มการ "ยั่วยุครั้งใหญ่"
ด้านวาเลอรี เจอราสิมอฟ ประธานคณะเสนาธิการกองทัพรัสเซีย รายงานต่อปูตินในการประชุมดังกล่าวว่า กองกำลังรัสเซียสามารถหยุดการรุกคืบของกองทหารยูเครนราว 1,000 นายได้แล้ว และจะผลักดันกลับไปยังชายแดน ทั้งนี้ จำนวนทหารยูเครนดังกล่าว มากกว่าที่รัสเซียได้ระบุเบื้องต้นเมื่อวันอังคาร (6) กว่า 3 เท่าตัว
เจอราสิมอฟยังได้ประกาศผ่านทางโทรทัศน์ ยืนยันว่า การรุกคืบของฝ่ายศัตรูลึกเข้าไปในดินแดนคูร์สก์ของรัสเซียนั้น ถูกหยุดยั้งไว้ได้แล้ว โดยหน่วยงานที่ดูแลชายแดนของรัสเซีย ร่วมกับตำรวจตระเวนชายแดนและหน่วยกำลังเสริมต่าง ๆ โดยใช้การโจมตีทางอากาศ การยิงขีปนาวุธและการยิงปืนใหญ่ และสามารถหยุดยั้งทหารยูเครนไว้ได้
ปฏิกิริยาจากสหรัฐฯ ทำเนียบขาวระบุว่า สหรัฐฯ ไม่รู้มาก่อนว่ายูเครนจะโจมตีในดินแดนรัสเซีย และกำลังคิดจะถามกองทัพยูเครน เพื่อขอทราบจุดประสงค์ในการกระทำนี้
สถานการณ์ล่าสุดเมื่อค่ำวานนี้ (7 ส.ค.) ตามเวลาท้องถิ่น ทางกระทรวงกลาโหมรัสเซียยืนยัน
กองกำลังรัสเซียสามารถสกัดการรุกคืบหน้าของกองกำลังยูเครน เข้าไปในพื้นที่ชายแดนระหว่างรัสเซียกับยูเครนได้แล้ว ด้านอเล็กเซ สเมอร์นอฟ รักษาการผู้ว่าการคูร์สก์ ก็ยืนยันว่า สถานการณ์ในคูร์สก์ อยู่ในการควบคุมของรัสเซียแล้ว
แต่รัสเซียยอมรับว่า ได้สู้รบดุเดือดกับกองทหารยูเครน ที่เจาะเข้าไปในชายแดนทางใต้ของรัสเซีย ใกล้กับศูนย์ส่งก๊าซธรรมชาติหลัก และยอมรับว่า การบุกของยูเครนครั้งนี้ เป็นหนึ่งในการบุกดินแดนรัสเซียครั้งใหญ่ที่สุด นับตั้งแต่รัสเซียเริ่มปฏิบัติการในยูเครนเป็นต้นมา
โดยก่อนหน้านี้ ฝ่ายยูเครนโดย “โอเลคซี ฮอนคาเรนโก” สมาชิกรัฐสภายูเครน ระบุว่า กองทัพยูเครนได้เข้าควบคุม “ศูนย์กลางส่งก๊าซซุดซา” ได้แล้ว ซึ่งซุดซา เป็นศูนย์ใหญ่การส่งก๊าซธรรมชาติ จากรัสเซียไปยังสหภาพยุโรป หรืออียู โดยผ่านยูเครน ศูนย์ส่งก๊าซซุดซาแห่งนี้ ไม่เคยหยุดส่งก๊าซไปอียูเลย ตลอดเวลาที่เกิดปฏิบัติการรัสเซียในยูเครนมานานกว่า 2 ปีครึ่ง และเป็นจุดส่งก๊าซเพียงจุดเดียวจากรัสเซียไปถึงอียู
การเปิดเผยของสมาชิกรัฐสภายูเครนดังกล่าว นับเป็นการยืนยันเป็นครั้งแรกจากคนที่นับเป็นเจ้าหน้าที่รัฐของยูเครนว่า ยูเครนได้บุกเข้าไปในดินแดนรัสเซียจริง
เมื่อวันอังคาร (6 ส.ค.) ที่ผ่านมา ยูเครนได้เริ่มส่งทหารหลายร้อยนาย บุกข้ามพรมแดนรัสเซีย เข้าไปในเมืองชายแดน "ซุดซา" (Sudzha) ของรัสเซียเป็นครั้งแรก เมืองนี้อยู่ห่างจากชายแดนรัสเซียเพียง 10 กิโลเมตร รัสเซียระบุว่า ทหารยูเครนเหล่านั้น ได้รับการสนับสนุนด้วยรถถัง 11 คัน และยานรบหุ้มเกราะอีกกว่า 20 คัน
การที่ยูเครนบุกข้ามพรมแดน เข้าไปในดินแดนรัสเซียนั้น แทบไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ตลอด 2 ปีครึ่งนับตั้งแต่รัสเซียเริ่มปฏิบัติการในยูเครนเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ปี 2022 เป็นต้นมา.
ที่มา TNN
ภาพ reuters, TNN
ข่าวแนะนำ