อินเดียลดภาษีนำเข้าทองคำ ช่วยหนุนความต้องการทองคำ

Gold Bullish

• -  การผ่อนคลายนโยบายการเงินของธนาคารกลางต่างๆ
• -  ความต้องการทองคำจากจีนและอินเดียในปีนี้คาดเพิ่มขึ้น
• -  ประเทศในยุโรปยังประกาศใช้มาตรการล็อกดาวน์

Gold Bearish

• -แนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐฟื้นตัว
• -อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐผันผวน

-การกระจายวัคซีนโควิด-19

อินเดียประเทศที่มีการใช้ทองคำอันดับ 2 ของโลก

ทองคำกับคนอินเดียเป็นของคู่กันมาอย่างยาวนาน ซึ่งเป็นผลจากคนอินเดียส่วนใหญ่จะยึดมั่นในหลักความเชื่อทางศาสนา การนับถือเทพเจ้า คนอินเดียมีความเชื่อว่าการบูชาเทพเจ้าองค์หนึ่งคือพระแม่ลักษมี ซึ่งเป็นเทพเจ้าแห่งความร่ำรวย ความสำเร็จและโชคลาภ จะต้องนำทองคำมาเป็นส่วนหนึ่งในการแสดงความศรัทธา ในงานแต่งงานของหญิงสาวอินเดียต้องสรรหาทองคำมาประดับและใช้ทองคำในงานพิธีแต่งงาน เพื่อแสดงถึงฐานะและสื่อถึงความศรัทธาที่มีต่อพระแม่ลักษมีที่มีกายสีทอง

ดังนั้นในช่วงที่คนอินเดียแต่งงานก็จะมีความต้องการทองคำเพิ่มขึ้นมาก อีกเทศกาลสำคัญของอินเดียคือเทศกาลดิวาลี ถือเป็นช่วงเทศกาลปีใหม่ของอินเดียนั้นก็จะมีความต้องการทองคำเพิ่มมากขึ้นด้วยเช่นกัน เมื่อย้อนกลับไปเมื่อกว่า 10 ปีที่แล้ว อินเดียเป็นประเทศที่มีการใช้ทองคำมากที่สุดในโลก จนทำให้อินเดียต้องประสบปัญหาขาดดุลบัญชีเดินสะพัดจากการนำเข้าทองคำ 

รัฐบาลอินเดียต้องประกาศขึ้นภาษีนำเข้าทองคำตั้งแต่ปี 2012 จาก 2% เป็น 4% ตามมาด้วยในปี 2013 ที่ขึ้นภาษีนำเข้าทองคำถึง 3 ครั้ง ทำให้ภาษีนำเข้าทองคำเป็น 10% ผลจากการขึ้นภาษีทำให้ราคาทองในอินเดียแพงขึ้นและการนำเข้าทองคำลดลงตามไปด้วย ในปี 2013 จีนสามารถแซงหน้าอินเดียขึ้นเป็นประเทศที่มีการใช้ทองคำมากที่สุดในโลก ล่าสุดในปี 2019 รัฐบาลอินเดียยังเดินหน้าประกาศขึ้นภาษีนำเข้าทองคำเป็น 12.5% 

                                                                                                        ภาษีนำเข้าทองคำของอินเดีย 

อินเดียเริ่มลดภาษีนำเข้าทองคำ 

ในปีนี้ช่วงเดือนกุมภาพันธ์รัฐบาลอินเดียมีนโยบายลดภาษีนำเข้าทองคำเหลือ 7.5% จากระดับ 12.5% เพื่อลดการลักลอบนำเข้าทองคำที่หนีภาษี ตรงนี้ผมประเมินว่านโยบายของรัฐบาลอินเดียที่มีผลต่อทองคำที่กลับลำและเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้นเช่นนี้ ย่อมส่งกระตุ้นตลาดทองคำในอินเดียให้คึกคักอย่างแน่นอน ราคาหุ้นของบริษัทจิลเวลรี่ที่จดทะเบียนในตลาดหุ้นปรับขึ้นตอบรับข่าวดังกล่าวไปเรียบร้อยก่อนเริ่มมีผลบังคับใช้ และความต้องการทองคำในเดือนกุมภาพันธ์เพิ่มสูงขึ้น นอกจากนี้รัฐบาลอินเดียมีนโยบายกระตุ้นรายได้ของเศรษฐกิจชนบทซึ่งมีสัดส่วนถึง 2 ใน 3 ของเศรษฐกิจอินเดีย ทาง World Gold Council ได้ประมาณการว่ารายได้ของเศรษฐกิจชนบทเพิ่มขึ้น 1% จะส่งผลให้ความต้องการทองคำของอินเดียเพิ่มขึ้น 1% ทำให้อินเดียน่าจะมีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนความต้องการทองคำของโลกในปีนี้

 สัปดาห์นี้แนวโน้มราคาทองคำ Spot คาดว่าจะสดใสและกลับมาเป็นขาขึ้น ถึงแม้ว่าอาจมีแรงเทขายทำกำไรออกมาบ้าง แต่มองว่าเป็นการปรับฐานเพื่อขึ้นได้ต่อ ประเด็นสำคัญสัปดาห์นี้ต้องติดตามการแถลงของประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งคาดจะส่งสัญญาณว่าเฟดจะตรึงอัตราดอกเบี้ยต่ำต่อไป การเปิดเผยรายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจของเฟด 12 เขต  (Beige Book) และจีดีพีไตรมาส 1 ของจีน

ซึ่งมองว่าน่าสนใจเพราะตลาดประเมินว่าจีดีพีไตรมาส 1 จะขยายตัวสูงถึง 18.3% ตรงนี้จะส่งผลให้ความต้องการทองคำปีนี้เพิ่มขึ้น สำหรับตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐที่จะประกาศสัปดาห์นี้ ได้แก่ ดัชนีราคาผู้บริโภคเดือนมี.ค. ดัชนีกิจกรรมการผลิตของเฟดสาขาฟิลาเดลเฟียเดือนเม.ย. จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ การผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนมี.ค. การอนุญาตก่อสร้างและการเริ่มก่อสร้างบ้านเดือนมี.ค.

สัปดาห์นี้ทองคำ Spot มีแนวรับ 1,730 ดอลลาร์ และ 1,720 ดอลลาร์ แนวต้านอยู่ที่ 1,760 ดอลลาร์ และ 1,775 ดอลลาร์ ส่วนราคาทองแท่งในประเทศมีแนวรับ 25,800 บาท และ 25,650 บาท ขณะที่มีแนวต้านที่ 26,200 บาท และ 26,400 บาท