บิตคอยน์ ดิ่งแรงหลุด 5 หมื่นดอลลาร์เกิดจากอะไร??
เปิด 2 สาเหตุทำให้ บิตคอยน์ ราคาร่วงแรงจนหลุด 50,000 ดอลลาร์ ขณะที่นักลงทุนคาดถึงเวลาปรับฐาน อาจปรับลงมากกว่า 20%
ต้องยอมรับว่าในช่วงปีที่ผ่านมากระแส บิตคอยน์ ได้รับความสนใจจากนักลงทุนอย่างมาก โดยเฉพาะเมื่อช่วงปลายปีที่ผ่านมาที่ราคา บิตคอยน์ พุ่งขึ้นไปแตะ 1 ล้านบาท ยิ่งทำให้ นักลงทุนในบ้านเราทั้งรายใหญ่และรายย่อยค่อนข้างตื่นเต้นกับราคา บิตคอยน์ และหันมาศึกษาการลงทุนในตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลกันมากขึ้น
แน่นอนว่าราคา บิตคอยน์ ที่ปรับพุ่งขึ้นมาสูงมากด้วยหลายปัจจัย โดยเฉพาะการมาของนักลงทุนซุปตาร์อย่าง อีลอน มัสก์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของบริษัทเทสลา อิงค์ ผู้ผลิตรถยนต์พลังงานไฟฟ้ารายใหญ่ของโลก ที่ประกาศซื้อเงินบิตคอยน์ มูลค่า 1.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ ราว 4.5 หมื่นล้านบาท และเตรียมเริ่มรับสกุลเงินเข้ารหัส (cryptocurrency) เพื่อการชำระเงินในการซื้อผลิตภัณฑ์ของบริษัทของเขาด้วย เมื่อช่วงต้นเดือนก.พ.ที่ผ่านมา หรือก่อนหน้านี้ก็มี PayPal ที่เปิดให้นำสกุลเงินดิจิทัลชำระซื้อสินค้าที่ เป็นพันธมิตรได้ หนึ่งในนั้นก็คือ บิตคอยน์
แต่ล่าสุดเมื่อคืนที่ผ่านมาหรือประมาณ 21.17 น.ตามเวลาไทยราคา บิตคอยน์ ร่วงลง 9,807 ดอลลาร์ หรือ 17.25% สู่ระดับ 47,023 ดอลลาร์ ในการซื้อขายบนแพลตฟอร์ม Coinbase ทำเอานักลงทุนตกใจกันอยู่ไม่น้อย
ซึ่งคุณเอกราช ศรีศุภวิชากิจ Head of Risk Management & Research Specialist Zipmex Trader เปิดเผยกับ TNN ONLINE ว่าสาเหตุหลักๆก็มาจาก 2 ปัจจัย ได้แก่
1. อีลอน มัสก์ เจ้าพ่อเทคโนโลยีนี่แหละ ที่ออกมาทวิตข้อความผ่าน ทวิตเตอร์ เตือนราคาของบิตคอยน์อยู่ในระดับที่สูงเกินไปในขณะนี้ ซึ่งข้อความดังกล่าวนี้มีผลในแง่จิตวิทยาของบรรดานักลงทุนที่ซื้อ บิตคอยน์ ตามเขาทั้งที่เป็นรายใหญ่และรายย่อยก็เกิดความกังวล พากันเทขาย บิตคอยน์ ไปตามๆกัน
และ 2.กรณีที่ เจเน็ต เยลเลน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังของสหรัฐอเมริกา ออกมาระบุว่า ไม่เชื่อว่า บิตคอยน์ จะถูกใช้อย่างกว้างขวาง เท่ากับทองคำ และ บิตคอยน์ ยังมีความผันผวนสูง ซึ่งคำพูดของเยลเลนในทุกครั้งก็มีอิทธิพลต่อตลาดสินทรัพย์เช่นกัน
2 ปัจจัยดังกล่าวมีผลต่อความเชื่อมั่นนักลงทุนอยู่พอสมควร ขณะเดียวกันราคา บิตคอยน์ ตอนนี้ก็ยังเป็นระดับที่นักลงทุนพร้อมที่จะปิดรับความเสี่ยง และพากันเท(ขาย) บิตคอยน์ ไปตามๆกัน ซึ่งก็เป็นเหตุผลว่า กระแส บิตคอยน์ มาดีขนาดนี้แล้วทำไมราคาถึงร่วงได้รุนแรงเหลือเกิน
ถ้านับมาจากช่วงที่ราคาค่อยปรับลงจนมาถึงตอนนี้เรียกได้แล้วว่า บิตคอยน์ เข้าสู่ช่วงของการปรับฐานหรือพักฐาน หลังจากผ่านช่วงนาทีทองมาแล้ว แต่บรรยากาศการลงทุนในตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลบ้านเรา กลับตรงกันข้ามจากทางฝั่งต่างชาติ ที่ยังชอบความท้าทายถึงแม้ราคา บิตคอยน์ จะผันผวนจะมีแค่บางส่วนที่เริ่มกังวลบ้าง ซึ่งนักลงทุนคาดกันว่าราคาอาจจะพักฐานลึกมากกว่า 20% ก็เป็นไปได้ แถมยังรอจังหวะช้อนซื้อแล้วก็มี บางส่วนก็ให้แนวรับที่ 40,000 ดอลลาร์ หรือลดลงประมาณ 33% จากราคาสูงสุดที่เคยทำได้ที่ 60,000 ดอลลาร์ เลยทีเดียว
ถึงอย่างไรแล้ว สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์หรือ ก.ล.ต. ได้ให้ความสำคัญเรื่องการลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัล ตลอดจนมีกฎหมายเข้ามากำกับดูแล ตักเตือน และดูแลนักลงทุนอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในส่วนของนักลงทุนเองก็จะต้องป้องกันความเสี่ยง ศึกษาข้อมูลให้ครบถ้วนก่อนตัดสินใจลงทุนไม่ว่าจะเป็นการลงทุนใน บิตคอยน์ หรือสินทรัพย์ประเภทอื่นๆก็ตาม
ภาพประกอบ โดย Miloslav Hamřík , Pete Linforth ,WorldSpectrum จาก Pixabay