TNN ไขปริศนา "หวังชิง" หายตัว! จากสุวรรณภูมิ สู่เมียนมา เกิดอะไรขึ้น?

TNN

TNN Exclusive

ไขปริศนา "หวังชิง" หายตัว! จากสุวรรณภูมิ สู่เมียนมา เกิดอะไรขึ้น?

ไขปริศนา หวังชิง หายตัว! จากสุวรรณภูมิ สู่เมียนมา เกิดอะไรขึ้น?

ดาราจีน "หวังชิง" หายตัวปริศนา! หลังเดินทางถึงไทย ถูกพบตัวในเมียนมา อ้างเยี่ยมญาติ แต่เบื้องหลังซ่อนเงื่อนงำค้ามนุษย์? ไขปริศนาเส้นทางข้ามแดนสุดอันตราย!

คดี "“ซิงซิง” " บนเส้นแบ่งแดนไทย-เมียนมา


ต้นเดือนมกราคม 2568 เรื่องราวการหายตัวไปของ "หวังชิง" หรือ "ซิงซิง" นักแสดงหนุ่มชาวจีนที่มีผลงานเป็นที่รู้จักจากซีรีส์ "นักจิตวิทยาหญิง" และ "สื่อรักปีศาจจิ้งจอก" กลายเป็นกระแสที่จุดประกายคำถามถึงความปลอดภัยและการค้ามนุษย์บริเวณชายแดนไทย-เมียนมา


จุดเริ่มต้น: การเดินทางที่กลายเป็นปริศนา


ไทม์ไลน์การเดินทางของหวังชิง จากสุวรรณภูมิสู่ชายแดน


วันที่ 2 มกราคม 2568

- หวังชิง ออกเดินทางจากสนามบินผู่ตง ประเทศจีน


วันที่ 3 มกราคม 2568

- 03.00 น. - หวังชิงถึงประเทศไทย ที่สนามบินสุวรรณภูมิ จากนั้นมีชายขับรถเก๋งมารับตัว

- 07.00 น. - กล้องของตำรวจทางหลวงสามารถจับภาพรถเก๋งที่ขับพาหวังชิงเดินทางถึงจังหวัดชัยนาท

- 10.00 น. - รถเก๋งคันดังกล่าวพาหวังชิงผ่านด่านห้วยยะอุ ตำบลด่านแม่ละเมา อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก

- 11.00 น. - หวังชิงขาดการติดต่อกับเจียเจีย หลังก่อนหน้านี้ยังสามารถติดต่อกับเจียเจียได้ตั้งแต่ช่วงเช้า จนกระทั่งหวังชิงส่งพิกัดสุดท้ายมาให้ระบุว่าอยู่บริเวณชายแดนแม่สอด จังหวัดตาก ก่อนขาดการติดต่อไป


หมายเหตุ: โฆษก ตร.พบข้อมูลทางชุดสืบสวนว่า หวังชิงเข้าพักในพื้นที่อำเภอแม่สอด เป็นระยะเวลา 1 วัน ก่อนที่จะหายตัวไป และพล.ต.ต.สัมฤทธิ์ เอมกมล ผบก.จว.ตาก ยืนยันว่าหวังชิงว่าจ้างรถเพื่อเดินทางไปอำเภอแม่สอดด้วยเงิน 5,000 บาท


การค้นหาและการสืบสวน


วันที่ 5 มกราคม "เจียเจีย" แฟนสาวของหวังชิง โพสต์ขอความช่วยเหลือผ่านเว่ยป๋อ (Weibo) เปิดเผยว่ามีคนอ้างเป็นตัวแทนค่ายบันเทิงใหญ่ของไทยติดต่อหวังชิงมาแคสบท เธอกังวลว่าแฟนหนุ่มอาจตกเป็นเหยื่อการหลอกลวง จึงได้ติดต่อสำนักงานความมั่นคงเซี่ยงไฮ้ สถานทูตจีนในไทย และสถานกงสุลใหญ่จีนในเชียงใหม่


วันที่ 6 มกราคม เจียเจียเดินทางมาถึงประเทศไทยและเข้าแจ้งความที่ สภ.สุวรรณภูมิ สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) ตรวจสอบและยืนยันการเข้าประเทศของหวังชิงผ่านระบบไบโอเมตริกซ์ พร้อมทั้งพบว่าเขาได้เข้าพักในพื้นที่แม่สอดหนึ่งวันก่อนหายตัวไป


พบตัวในพม่า ความจริงที่รอการเปิดเผย


วันที่ 7 มกราคม 2568 พ.ต.หม่องวิน รองผู้บัญชาการกองกำลังพิทักษ์ชายแดน (BGF) รายงานว่าพบตัวหวังชิงที่เมืองชเวโก๊กโก่ ฝั่งเมียนมา โดยเขาให้การว่ามาเยี่ยมญาติ ทางการเมียนมาส่งตัวกลับฝั่งไทยผ่านสะพานมิตรภาพไทย-พม่า แห่งที่ 1


หลังทางการเมียนมาส่งตัวเขากลับมาฝั่งไทยผ่านสะพานมิตรภาพไทย-พม่า แห่งที่ 1 โดยพล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จเรตำรวจแห่งชาติ ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ  เปิดเผยว่า แม้จากการสอบปากคำคนขับรถและพยานแวดล้อมจะไม่พบว่าหวังชิงถูกบังคับ เนื่องจากเป็นผู้ว่าจ้างรถด้วยตนเองและผ่านด่านตรวจถึง 3 ด่าน แต่ทางเจ้าหน้าที่ยังต้องสอบคัดแยกอย่างละเอียดว่าเป็นการเดินทางสมัครใจหรือตกเป็นเหยื่อการค้ามนุษย์


ประเด็นที่น่าสนใจคือ น้องชายของหวังชิงได้แจ้งความกับตำรวจเซี่ยงไฮ้ว่าพี่ชายถูกหลอกให้มาทำงานบริเวณชายแดนไทย-เมียนมา และการที่เขาข้ามไปยังเมืองเมียวดีซึ่งเป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษ มีทั้งกาสิโนและคอมเพล็กซ์ของกลุ่มจีนเทา ภายใต้การดูแลของกลุ่มกะเหรี่ยง ยิ่งเพิ่มความน่าสงสัยให้กับคดีนี้ ขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังเร่งสอบสวนเพื่อหาจุดประสงค์ที่แท้จริงของการเดินทางครั้งนี้ ก่อนส่งตัวให้สถานทูตจีนและญาติดำเนินการต่อไป   


  • รัฐบาลไทยไม่ปล่อยผ่าน! จัดการไว คดี "หวังชิง"  ปกป้องภาพลักษณ์ท่องเที่ยว


รัฐบาลไทยแสดงจุดยืนชัดเจนในการจัดการกรณี "หวังชิง" โดย น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เน้นย้ำถึงการทำงานอย่างรวดเร็วและเป็นระบบ ผ่านการประสานงานระหว่างหน่วยงานความมั่นคง สถานทูตจีน และตำรวจในพื้นที่ จนสามารถค้นพบตัวนักแสดงชาวจีนได้ในเวลาอันรวดเร็ว พร้อมย้ำชัดว่าจะต้องจัดการเรื่องนี้ให้ดีที่สุด เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์การท่องเที่ยวของประเทศ


นอกจากนี้ รัฐบาลยังแสดงวิสัยทัศน์ในการแก้ปัญหาระยะยาว โดยบูรณาการการทำงานร่วมกันระหว่างกระทรวงต่างๆ ทั้งการดูแลด้านความปลอดภัยทางเทคโนโลยี การควบคุมการใช้สื่อโซเชียลมีเดีย และการป้องกันอาชญากรรมข้ามชาติ พร้อมเปิดรับฟังข้อเสนอแนะจากทุกภาคส่วน เพื่อพัฒนามาตรการที่เหมาะสมในการรักษาสมดุลระหว่างการส่งเสริมการท่องเที่ยวและการรักษาความมั่นคงของประเทศ


-----


การหายตัวไปของหวังชิงไม่ได้เพียงแค่สร้างความสนใจในเรื่องส่วนตัวของคนดัง แต่ยังสะท้อนถึงปัญหาในพื้นที่ชายแดนไทย-เมียนมาที่เต็มไปด้วยเงื่อนไขของความท้าทาย ทั้งเรื่องความปลอดภัย ความเปราะบางของพื้นที่ และกิจกรรมผิดกฎหมาย การข้ามพรมแดนอย่างลับๆ อาจเป็นเพียงยอดภูเขาน้ำแข็งของปรากฏการณ์ที่กว้างกว่า


—คำถามสำคัญคือ เราจะป้องกันไม่ให้เหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นอีกได้อย่างไร?


ภาพ 


ข่าวแนะนำ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง