ถอดรหัสปราศรัย "ทักษิณ" จากเวทีเชียงราย สู่แผนงานรัฐบาลปี 68

นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ปรากฏตัวครั้งแรกในปี 2568 ที่จังหวัดเชียงราย เพื่อช่วยหาเสียงให้นางสลักจฤฎดิ์ ติยะไพรัช ผู้สมัครนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) เชียงราย ในนามพรรคเพื่อไทย โดยเดินสายปราศรัยต่อเนื่อง 3 เวที เริ่มจากโรงเรียนปล้องวิทยาคม อำเภอเทิง ต่อด้วยโรงเรียนบ้านห้วยซ้อวิทยาคม อำเภอเชียงของ และปิดท้ายที่โรงเรียนแม่จันวิทยาคม อำเภอแม่จัน ท่ามกลางประชาชนที่มาร่วมรับฟังอย่างคับคั่ง

อดีตนายกรัฐมนตรีเปิดใจว่าห่างหายจากพี่น้องชาวเชียงรายมากว่า 17 ปี พร้อมเผยถึงเหตุผล 3 ประการที่มาปราศรัยครั้งนี้ ประกอบด้วย ความคิดถึงประชาชนชาวเชียงราย การสนับสนุนนางสลักจฤฎดิ์ซึ่งเป็นบุตรสาวของนายยงยุทธ ติยะไพรัช อดีตประธานสภาผู้แทนราษฎรที่เคยร่วมงานกันมายาวนาน และการช่วยสนับสนุนพรรคเพื่อไทยที่มีลูกสาวของตน น.ส.แพทองธาร ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี

ในด้านนโยบายเร่งด่วน นายทักษิณประกาศชัดเจนถึงการจ่ายเงิน 10,000 บาทให้ผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไปทั่วประเทศ ประมาณ 3 ล้านคน ในวันที่ 29 มกราคม นี้ ใช้งบประมาณราว 30,000 ล้านบาท เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ พร้อมย้ำว่าจะลดค่าไฟฟ้าให้เหลือ 3.70 บาทต่อหน่วยภายในปีนี้ นอกจากนี้ยังอยู่ระหว่างการปรับโครงสร้างการผ่อนบ้านและรถเพื่อช่วยเหลือประชาชน

อดีตนายกรัฐมนตรียังได้เปิดเผยถึงแผนการพัฒนาเศรษฐกิจท้องถิ่น โดยจะเชื่อมโยงมหาวิทยาลัยกับ อบจ. เพื่อสร้างงานและรายได้ มีการค้นหาผู้มีความสามารถพิเศษทั่วประเทศ ทั้งด้านอาหาร ศิลปะ และหัตถกรรม รวมถึงการผลักดันโครงการ "หนึ่งอำเภอหนึ่งติ๊กต็อกเกอร์" เพื่อส่งเสริมการขายสินค้าท้องถิ่นสู่ตลาดโลก

ในด้านการแก้ปัญหาสังคม นายทักษิณประกาศว่าจะจัดการปัญหายาเสพติดและแก๊งคอลเซ็นเตอร์ให้หมดสิ้นภายในปีนี้ พร้อมทั้งแก้ไขปัญหาการผูกขาดทางเศรษฐกิจทุกรูปแบบ นอกจากนี้ยังมีแผนยกระดับโฉนดที่ดิน ส.ป.ก. ให้เป็นโฉนดที่ดินจริง เพื่อให้ประชาชนสามารถทำมาหากินได้อย่างเต็มที่

ส่วนประเด็นการปรับคณะรัฐมนตรีที่มีกระแสข่าวออกมา นายทักษิณยืนยันว่ายังไม่มีการพูดคุยในเรื่องนี้ และชี้แจงว่านายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เป็นคนตั้งใจทำงาน พร้อมย้ำว่ายังไม่มีเหตุปัจจัยที่จะต้องปรับเปลี่ยนคณะรัฐมนตรีแต่อย่างใด

นายทักษิณยังได้เล่าถึงที่มาของการที่ น.ส.แพทองธาร ขึ้นดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี โดยเปิดเผยว่าได้สอบถามคนในครอบครัวว่าใครจะอาสาเสียสละทำงานให้บ้านเมือง ซึ่งลูกสาวคนเล็กได้อาสาเข้ามาทำหน้าที่นี้ พร้อมตั้งเป้าว่าปี 2568 จะเป็นปีแห่งการทำงานหนักของทุกฝ่าย ปี 2569 จะเริ่มเห็นผลและเก็บเกี่ยว และภายใน 2 ปี จะสามารถลดหนี้ประเทศลงได้

ระหว่างการปราศรัย มีประชาชนเรียกร้องให้นายทักษิณกลับมาเป็นนายกรัฐมนตรี แต่เจ้าตัวปฏิเสธด้วยเหตุผลเรื่องอายุ พร้อมหยอกล้อว่าตนเพิ่งเสียแชมป์นายกรัฐมนตรีที่รวยที่สุดของไทยให้กับลูกสาว แต่ก็ยินดีที่จะสนับสนุนและส่งเสริมการทำงานของลูกสาวอย่างเต็มที่

ภาพ พรรคเพื่อไทย