ประเทศไทยได้อะไร? จากกองถ่ายภาพยนตร์ต่างประเทศ

 

ทุกครั้งที่ได้ดูภาพยนตร์หลายคนคงรู้สึกประทับใจเมื่อเราได้เห็นฉากหลังของภาพยนตร์ หรือ ซีรีย์ต่างประเทศที่เราชื่นชอบ เป็นสถานที่ที่เราคุ้นเคย หรือ รู้จัก โดยเฉพาะสถานที่แห่งนั้น อยู่ในละแวกบ้านเรา หรือ ในจังหวัด ในประเทศของเรา  โดยเฉพาะหากสถานที่ที่เราอาศัยอยู่ หรือ เคยไปเยือนไปปรากฏเป็นฉากหลังของภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์  เช่น มาหยา ในthe beach  หรือ the Fast & Furious 9 ที่ใช้ภาคใต้ของไทยถ่ายทำ  และ ล่าสุดคือ จูราสสิค เวิล์ด 4 ที่ใช้พื้นที่ใน จ.ตรัง กระบี่ และ พังงา 

แต่การใช้สถานที่ถ่ายทำไม่เพียงสร้างความประทับใจ และ ความรู้สึกร่วมของคนท้องถิ่นเ รวมถึงช่วยเพิ่มเม็ดเงินด้านการท่องเที่ยวจากการตามรอยของนักท่องเที่ยวเท่านั้น  เพราะการยกกองมาถ่ายทำในเมืองไทย ย่อมนำมาซึ่งการจ้างงาน และ สร้างรายได้ให้กับคนไทยอีกด้วย

  

เม็ดเงินจากกองถ่ายหนังต่างชาติ เป็นที่มาของมาตรการส่งเสริมถ่ายทำภาพยนต์  โดยประเทศไทยใช้มาตรการจูงใจ หรือ  Incentive ในรูปแบบ Cash Rebate หรือ เครดิต คืนเงิน ที่เริ่มใช้อย่างเป็นทางการเมื่อปี พ.ศ. 2560 โดยนอกจากการจูงใจ กองถ่ายทำภาพยนตร์แล้ว มาตรการดังกล่าวยังมีเงื่อนไขให้มีการจ้างงานคนไทย และ บริษัทไทยมากขึ้นด้วย 

โดยในปีงบประมาณ 2567 กองกิจการภาพยนตร์และวิดีทัศน์ต่างประเทศ กรมการท่องเที่ยว เปิดเผยว่ากองถ่ายต่างประเทศ ปีงบประมาณ 2567 สร้างรายได้มากกว่า 2,876 ล้านบาท โดยกองถ่ายต่างประเทศ จำนวน 15 เรื่อง มียอดเงินคืน Incentive กว่า 509 ล้านบาท เกิดการจ้างงานบุคลากรในธุรกิจภาพยนตร์ และธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง มากกว่า 43,000 ราย

ทั้งนี้ในปี 2567 มีกองถ่ายต่างประเทศ ชอถ่ายทำภาพยนตร์ในประเทศไทยกว่า 372 เรื่อง งบประมาณการถ่ายทำกว่า 5,000 ล้านบาท โดยมีการถ่ายทำใน 63 จังหวัด ใช้ทีมงานชาวไทยกว่า 22,000 คน โดยประเทศที่ใช้งบประมาณการถ่ายทำสูงสุด 3 อันดับแรกได้แก่ เป็นกองถ่ายจากประเทศ จีน สหราชอาณาจักร และ สหรัฐอเมริกา  ตามลำดับ

ด้วยเม็ดเงินมหาศาล และ การจ้างงานคนไทย ที่ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ ทำให้กระทรวงท่องเที่ยว และ กีฬา เสนอการปรับมาตรการ คืนเงิน ให้จูงใจกองถ่ายภาพยนตร์ ต่างประเทศมากขึ้น โดยการปรับรูปแบบการคืนเงินแบบขั้นบันได คือ ลงทุนไม่เกิน 50 ล้านบาท คืนเงินร้อยละ 15 / ลงทุนไม่เกิน 100 ล้านบาท คืนเงินร้อยละ 20 และลงทุนไม่เกิน 150 ล้านบาท คืนเงินร้อยละ 25 รวมทั้งได้พิจารณาเงื่อนไข อื่น ๆ ซึ่งมีการปรับเพิ่มสิทธิประโยชน์เช่นกัน เช่น การจ้างงานคนไทยร้อยละ 5 จากเดิมร้อยละ 3  การจ้างโพสต์โปรดักชันในประเทศร้อยละ 3 จากเดิมร้อยละ 2

จากสถิติทั้งหมดน่าจะตอบคำถามได้ว่าประเทศไทย ได้อะไรจากกองถ่ายต่างประเทศ แม้จะมีเงินสะพัดเข้ามาหลายพันล้านแต่สิ่งที่ไม่ควรมองข้าม คือ มาตรการในการกำกับดูแลการใช้ทรัพยากร ธรรมชาติของประเทศ  ไม่เช่นนั้นได้เข้ามาเท่าไหร่ก็ไม่คุ้มค่ากับการสูญเสียทรัพยากรธรรมชาติที่ประเมินค่าไม่ได้ แล้วคุณล่ะอยากให้กองถ่ายต่างประเทศมาถ่ายทำหรือไม่

อ้างอิงข้อมูลจาก กองกิจการภาพยนตร์และวีดิทัศน์ต่างประเทศ (TFO Thailand Film Office) กรมการท่องเที่ยว

เรียบเรียงโดย วุฒิพันธุ์ เปรมาสวัสดิ์ รองบรรณาธิการ TNNOnline