สรุปปม ทำไมดูเป็นคนดีจัง เปิดโปงมหากาพย์หมอดูขโมยดวง
เจาะลึกกรณี #ทำไมดูเป็นคนดีจัง นักเขียนดังแฉประสบการณ์สยองกับหมอดูชื่อดัง สูญเงิน 2 ล้าน พิธีกรรมสุดพิสดาร และการขโมยดวง คนดังร่วมแชร์ประสบการณ์
สรุปมหากาพย์ #ทำไมดูเป็นคนดีจัง
โลกโซเชียลมีเดียกำลังสั่นสะเทือนด้วยเรื่องราวสุดหลอนของ "ปอย พรรธน์ชญมน" นักเขียนนิยายชื่อดัง เจ้าของผลงาน "คินพอร์ช" ที่ออกมาเปิดใจถึงประสบการณ์อันน่าสยดสยองกับหมอดูชื่อดังรายหนึ่ง ผ่านรายการ THE GHOST RADIO จนกลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก พร้อมติดแฮชแท็ก #ทำไมดูเป็นคนดีจัง พุ่งติดเทรนด์ทวิตเตอร์
จุดเริ่มต้นของเรื่องราว
เรื่องราวเริ่มต้นเมื่อปอยได้รู้จักกับหมอดูคนดังกล่าวผ่านการแนะนำของอินฟลูเอนเซอร์ชื่อดัง "โปแปง" ด้วยความรู้สึกถูกชะตาและต้องการเสริมดวง ปอยจึงตัดสินใจติดต่อไปดูดวง โดยเริ่มจากการดูผ่านเฟซไทม์ ราคา 3,000 บาท ใช้เวลาเพียงครึ่งชั่วโมง
ความแม่นยำที่น่าตกใจ
หมอดูทำนายทายทักได้อย่างแม่นยำ ทั้งเรื่องญาติที่เสียชีวิตและเหตุการณ์ในอนาคต เช่น การได้คุยงานกับคนชื่อนุช ซึ่งเกิดขึ้นจริงตามคำทำนาย สร้างความประทับใจและความเชื่อมั่นให้กับปอยเป็นอย่างมาก
พิธีกรรมสุดพิสดาร
ปอยถูกเชิญให้ไปพบหมอดูที่บ้าน และได้รับหุ่นพยนต์มูลค่า 50,000 บาท โดยหมอดูอ้างว่าเป็นเทพเทวดาที่จะช่วยเสริมดวง พร้อมคำแนะนำให้พกติดตัวตลอดเวลา นอกจากนี้ ยังมีค่าปลุกเสกหุ่นพยนต์เพิ่มอีก 10,000 บาท
ต่อมา หมอดูชักชวนปอยเข้าร่วมพิธีกรรมต่างๆ มากมาย เช่น:
1. การบูชาเขี้ยวหนุมาน
2. แจกันโถดูดวิญญาณ
3. สร้อยเขี้ยวจามรี
ทุกพิธีกรรมล้วนอ้างว่าเพื่อเสริมดวง แต่กลับส่งผลให้ชีวิตของปอยตกต่ำลง ทั้งเรื่องงานและความสัมพันธ์กับลูกค้า
พิธีกรรมสุดสยอง
เมื่อชีวิตไม่ดีขึ้น หมอดูแนะนำให้ปอยทำพิธีกรรมที่สุดแสนจะประหลาด:
- กินของดิบตอนกลางคืน เริ่มจากปลาแซลมอนดิบ
- ต่อมาเปลี่ยนเป็นเนื้อวัวดิบ ต้องกินเวลาตี 3
- ต้องจุดธูป 1 ดอก และปิดไฟในห้อง
แม้จะทำตามคำแนะนำทุกอย่าง แต่สถานการณ์ก็ไม่ได้ดีขึ้น
ความสูญเสียทางการเงิน
หมอดูยังคงเสนอพิธีกรรมเพิ่มเติม แต่ละพิธีมีค่าใช้จ่ายสูงถึง 200,000 บาท ปอยหลงเชื่อและยอมจ่ายเงินไปกว่า 10 ครั้ง รวมเป็นเงินมากกว่า 2 ล้านบาท
การค้นพบความจริงอันน่าสะพรึงกลัว
ปอยเริ่มสังเกตเห็นความผิดปกติในชีวิต ทั้งเรื่องงาน การเงิน สุขภาพ และพฤติกรรมส่วนตัว เช่น:
- ชอบกินของดิบ
- มีอารมณ์ฉุนเฉียว ก้าวร้าว
- ชอบเก็บตัว
เพื่อนๆ จึงพาปอยไปพบพระเกจิอาจารย์ ซึ่งวินิจฉัยว่าปอยถูก "ขโมยดวง" โดยหมอดูใช้ หุ่นพยนต์เป็นสื่อกลางในการดึงพลังชีวิต พิธีกรรมต่างๆ เป็นการส่งกระแสจิตเพื่อควบคุม
คำยืนยันจากผู้เชี่ยวชาญ
อาจารย์บุญเทียม วัดหนัง จอมขมังเวทย์ ได้ยืนยันว่าการขโมยดวงเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้จริง โดยเฉพาะเมื่อผู้กระทำรู้ข้อมูลส่วนตัวของเหยื่อ แม้แต่เพียงวันเกิดก็สามารถทำได้ โดยอาศัยช่วงเวลาที่ดวงของเหยื่อตกหรือเปราะบาง
คนดังร่วมแชร์ประสบการณ์
หลังจากเรื่องราวของปอยถูกเผยแพร่ มีคนดังในวงการบันเทิงหลายคนออกมาแสดงความคิดเห็นและแชร์ประสบการณ์ เช่น:
- "นาฟ ฉัฐนันท์" หลานสาวของ "แพท ณปภา"
- "มดดำ คชาภา" พิธีกรชื่อดัง
ทั้งสองต่างก็เคยดูดวงกับหมอดูคนนี้เช่นกัน
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในช่วงปลายปี 2565 ถึงต้นปี 2566 ก่อนที่หมอดูจะมีชื่อเสียง ปอยเปิดเผยว่าเธอรู้สึกผิดที่มีส่วนทำให้หมอดูมีชื่อเสียง และต้องใช้เวลาถึง 2 ปีกว่าจะกล้าเปิดเผยเรื่องราวนี้
เรื่องราวนี้ไม่เพียงแต่สร้างความสนใจในสังคมออนไลน์เท่านั้น แต่ยังเป็นบทเรียนสำคัญเกี่ยวกับการระมัดระวังในการเชื่อถือคำทำนายและการให้ข้อมูลส่วนตัวแก่บุคคลอื่น โดยเฉพาะในยุคที่ข้อมูลส่วนบุคคลมีความสำคัญมากขึ้นเรื่อยๆ
อย่างไรก็ตาม เรื่องราวดังกล่าวเป็นความเชื่อส่วนบุคคล ผู้อ่านควรใช้วิจารณญาณในการรับฟัง และระมัดระวังในการเลือกใช้บริการดูดวง เพื่อป้องกันการตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพ
ข่าวแนะนำ