TNN 10 จังหวัดภาคกลางเฝ้าระวัง! น้ำเจ้าพระยาสูงขึ้น 28 ก.ย. นี้

TNN

TNN Exclusive

10 จังหวัดภาคกลางเฝ้าระวัง! น้ำเจ้าพระยาสูงขึ้น 28 ก.ย. นี้

10 จังหวัดภาคกลางเฝ้าระวัง! น้ำเจ้าพระยาสูงขึ้น 28 ก.ย. นี้

สถานการณ์น้ำท่วมในไทยทวีความรุนแรง ทั้งภาคเหนือ กลาง และอีสาน เชียงใหม่-อยุธยา-อุบลฯ เผชิญภาวะน้ำสูง หน่วยงานเร่งเฝ้าระวัง-ช่วยเหลือ ประชาชนพร้อมรับมือภัยธรรมชาติ

สถานการณ์น้ำท่วมในประเทศไทย: ความท้าทายและการเฝ้าระวัง


ประเทศไทยกำลังเผชิญกับสถานการณ์น้ำท่วมในหลายพื้นที่ อันเนื่องมาจากปริมาณน้ำฝนที่มากผิดปกติและการระบายน้ำจากเขื่อนต่างๆ บทความนี้จะวิเคราะห์สถานการณ์น้ำในภูมิภาคต่างๆ ของประเทศ โดยเฉพาะในภาคเหนือและภาคกลาง รวมถึงมาตรการการเฝ้าระวังและการรับมือของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง


สถานการณ์น้ำท่วมในภาคเหนือ


น้ำท่วมเชียงใหม่: ผลกระทบต่อเศรษฐกิจและชุมชน


จังหวัดเชียงใหม่กำลังเผชิญกับสถานการณ์น้ำท่วมที่รุนแรง โดยเฉพาะในพื้นที่เศรษฐกิจของตัวเมือง ข้อมูลจากกรมชลประทานระบุว่า ณ เวลา 18.00 น. ของวันที่ 26 กันยายน ระดับน้ำที่สถานี P.1 สะพานนวรัฐ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ สูงถึง 4.54 เมตร โดยมีปริมาณน้ำไหลผ่าน 544 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ในขณะที่สถานี P.67 อำเภอสันทราย มีระดับน้ำสูง 3.10 เมตร และปริมาณน้ำไหลผ่าน 4.9.10 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที


สถานการณ์นี้ส่งผลกระทบอย่างมากต่อเศรษฐกิจและการดำเนินชีวิตของประชาชนในพื้นที่ โดยเฉพาะในเขตเศรษฐกิจสำคัญของจังหวัด ซึ่งอาจส่งผลต่อการท่องเที่ยวและธุรกิจในพื้นที่ในระยะยาว


สถานการณ์น้ำในภาคกลาง


การเฝ้าระวังในลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา: มาตรการป้องกันและการเตรียมพร้อม


สถานการณ์น้ำในพื้นที่ลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยายังคงต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ได้ประสาน 10 จังหวัดในภาคกลาง รวมถึงกรุงเทพมหานคร ให้เฝ้าระวังระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาที่คาดว่าจะเพิ่มสูงขึ้นตั้งแต่วันที่ 28 กันยายน 2567 เป็นต้นไป


สาเหตุสำคัญมาจากการที่เขื่อนเจ้าพระยา จังหวัดชัยนาท จำเป็นต้องเพิ่มการระบายน้ำผ่านท้ายเขื่อนในอัตราไม่เกิน 2,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เนื่องจากมีปริมาณน้ำไหลเข้าเขื่อนเพิ่มมากขึ้น การตัดสินใจนี้เป็นการป้องกันไม่ให้เกิดภาวะน้ำล้นเขื่อน แต่ก็อาจส่งผลกระทบต่อพื้นที่ท้ายน้ำ


ล่าสุด ณ เวลา 18.00 น. ของวันที่ 26 กันยายน ระดับน้ำที่สถานี C.13 อำเภอสรรพยา จังหวัดชัยนาท สูงถึง 13.18 เมตร โดยมีปริมาณน้ำไหลผ่าน 1,600 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ในขณะที่สถานี C.35 จังหวัดพระนครศรีอยุธยา มีระดับน้ำสูง 3.28 เมตร และปริมาณน้ำไหลผ่าน 872 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที


สถานการณ์น้ำในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ


น้ำท่วมอุบลราชธานี: การเตรียมรับมือและผลกระทบต่อชุมชน


จังหวัดอุบลราชธานีกำลังเผชิญกับภาวะน้ำท่วมจากแม่น้ำมูล ซึ่งมีระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง อันเนื่องมาจากมวลน้ำที่ไหลมาจากทางเหนือของจังหวัด และผลกระทบจากพายุซูลิก กรมชลประทานได้ปักธงเหลืองเพื่อเตือนภัยในพื้นที่เสี่ยง


ขณะนี้มีชุมชนที่ถูกน้ำท่วมแล้ว 3 ชุมชน ได้แก่ ชุมชนวังแดง ชุมชนบูรพา และชุมชนเยาวเรศ โดยมีประชาชน 12 ครอบครัวที่ต้องอพยพไปยังศูนย์อพยพ สะท้อนให้เห็นถึงความรุนแรงของสถานการณ์และผลกระทบโดยตรงต่อชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน


ณ เวลา 18.00 น. ของวันที่ 26 กันยายน ระดับน้ำมูลที่สถานี M.182 อำเภอกันทรารมย์ จังหวัดศรีสะเกษ สูงถึง 6.59 เมตร โดยมีปริมาณน้ำไหลผ่าน 598 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ในขณะที่สถานี M.7 อำเภอเมือง จังหวัดอุบลราชธานี มีระดับน้ำสูง 6.12 เมตร และปริมาณน้ำไหลผ่าน 1,860 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที


บทสรุป


สถานการณ์น้ำท่วมในประเทศไทยยังคงเป็นปัญหาที่ต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ การบริหารจัดการน้ำจากเขื่อนและแม่น้ำสายหลักมีความสำคัญอย่างยิ่งในการป้องกันและบรรเทาผลกระทบจากน้ำท่วม


หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ดำเนินมาตรการต่างๆ เพื่อรับมือกับสถานการณ์ ทั้งการเฝ้าระวัง การแจ้งเตือน และการให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบ อย่างไรก็ตาม ความร่วมมือจากทุกภาคส่วน รวมถึงการเตรียมพร้อมของประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัย ยังคงเป็นปัจจัยสำคัญในการลดความเสียหายและรับมือกับสถานการณ์น้ำท่วมที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต

ข่าวแนะนำ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง