TNN “เงินดิจิทัล” มาตามสัญญา รัฐบาล “เศรษฐา” เข็นนโยบายเรือธง

TNN

TNN Exclusive

“เงินดิจิทัล” มาตามสัญญา รัฐบาล “เศรษฐา” เข็นนโยบายเรือธง

“เงินดิจิทัล” มาตามสัญญา รัฐบาล “เศรษฐา” เข็นนโยบายเรือธง

“แม้จะเลื่อนมาหลายครั้ง แต่ในที่สุดโครงการแจกเงิน 10,000 บาท ผ่าน ดิจิทัลวอลเล็ต ซึ่งเป็นนโยบายเรือธงของรัฐบาล เศรษฐา ทวีสิน ก็มีความชัดเจน หลังรัฐบาลประกาศเงื่อนไข พร้อมไทม์ไลน ซึ่งจะเปิดให้ลงทะเบียนรับสิทธิ ได้ในช่วงไตมาส 3 ของปีนี้ ก่อนที่จะดำเนินการแจกเงินให้กับประชาชนได้ในช่วงไตรมาส 4 พร้อมกับตั้งเป้าว่า การอัดฉีดงบฯ กว่า 500,000 ล้านบาทเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจจะเป็นปัจจัยหนุนให้ GDP ขยายตัวมากขึ้น”

ถือเป็นข่าวดีรับปีใหม่ไทย เมื่อ นายกรัฐมนตรี “เศรษฐา ทวีสิน” นำทีมแถลงความชัดเจน โครงการแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท ให้ประชาชนกว่า 50 ล้านคน วงเงินกว่า 500,000 ล้านบาท  และแม้ว่าโครงการนี้จะลากยาวไปถึงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ แต่ก็ถือว่า “มาตามนัด”  และถือเป็นการทำตามสัญญาของพรรคเพื่อไทย ซึ่งเคยประกาศ นโยบาย "เงินดิจิทัล" เอาไว้ในช่วงของการหาเสียงเลือกตั้ง และถือเป็นตัวอย่างที่ดีของความเป็นพรรคการเมือง ที่จะสามารถพูดได้ว่า เป็นพรรคการเมืองของประชาชน ซึ่งหากมองในมุมกลับ หากพรรคเพื่อไทย ไม่สามารถเข็น “นโยบายเรือธง” ของตัวเอง ให้นำไปสู่การปฏิบัติได้ พรรคเพื่อไทยก็คงหนีไม่พ้น ข้อครหาร้ายแรง โกหก หลอกลวงประชาชน 


“เงินดิจิทัล” มาตามสัญญา รัฐบาล “เศรษฐา” เข็นนโยบายเรือธง


“เงินดิจิทัล” มาตามสัญญา รัฐบาล “เศรษฐา” เข็นนโยบายเรือธง


“เงินดิจิทัล” มาตามสัญญา รัฐบาล “เศรษฐา” เข็นนโยบายเรือธง


ย้อนไปดูคำแถลงของ นายกฯ เศรษฐา เมื่อวันที่ 10 เม.ย.2567 ย้ำชัดว่า โครงการนี้เป็นนโยบายเรือธงของรัฐบาลในการยกระดับเศรษฐกิจของประเทศและประชาชน ได้เกิดขึ้นอย่างเป็นทางการแล้ว และที่ผ่านมารัฐบาลได้ใช้ความพยายามสูงสุดในการฝ่าฟันข้อจำกัดต่างๆ โดยจะให้สิทธิแก่ประชาชน 50 ล้านคน วงเงิน 5 แสนล้านบาท กำหนดใช้จ่ายในร้านค้าที่กำหนด ถือเป็นการเติมเงินลงสู่ฐานราก คาดว่า จะทำให้เกิดการขยายตัวทางเศรษฐกิจ 1.2-1.6%



สำหรับ วงเงิน 500,000  ล้านบาท จะบริหารจัดการผ่านงบประมาณได้ทั้งหมด โดยแบ่งเป็น 3 ส่วน คือ 

1.เงินงบประมาณรายจ่ายปีงบประมาณ พ.ศ.2568 จำนวน 152,700 ล้านบาท

2.การดำเนินโครงการผ่านหน่วยงานของรัฐ จำนวน 172,300 ล้านบาท โดยใช้มาตรา 28

 ให้ ธ.ก.ส.ดูแลกลุ่มที่เป็นเกษตรกรกว่า 17 ล้านคน ผ่านงบประมาณ 2568

3.การบริหารจัดการเงินงบประมาณรายจ่ายปีงบประมาณ พ.ศ.2567 จำนวน 175,000 ล้านบาท รัฐบาลจะพิจารณาว่ารายการไหนสามารถปรับเปลี่ยนได้ หรือใช้งบกลาง รายการสำรองจ่ายเผื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น มาใช้เพิ่มเติมในส่วนนี้ได้ ถ้าวงเงินไม่เพียงพอ 5 แสนล้านบาททั้งก้อน 


“เงินดิจิทัล” มาตามสัญญา รัฐบาล “เศรษฐา” เข็นนโยบายเรือธง


“เงินดิจิทัล” มาตามสัญญา รัฐบาล “เศรษฐา” เข็นนโยบายเรือธง


“เงินดิจิทัล” มาตามสัญญา รัฐบาล “เศรษฐา” เข็นนโยบายเรือธง



ในภาพรวมถึงแม้ว่า “เงินดิจิทัล 10,000 บาท” จะเป็นโครงการที่ประชาชนเฝ้ารอมานาน แต่ก็ยังมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากหลายฝ่าย ซึ่งพรรคเพื่อไทย ได้ออกมาโพสต์ตอบ 17 คำถามของโครงการนี้ โดยระบุว่า จากข้อสงสัยที่ประชาชนประชาชนตั้งคำถาม และมีการเผยแพร่ข้อมูลของเงื่อนไขโครงการ เงินดิจิทัล 10,000 บาท ที่ทำให้เกิดความเข้าใจผิดเกี่ยวกับโครงการฯ ไล่เรียงดังนี้


1. เฉพาะคนที่เลือกพรรคเพื่อไทยเท่านั้นที่จะได้รับเงินดิจิทัล 10,000

ตอบ ประชาชนสัญชาติไทยจำนวน 50 ล้านคน เกณฑ์ คือ อายุเกิน 16 ปี ณ เดือนที่มีการลงทะเบียน ไม่เป็นผู้ที่มีเงินได้พึงประเมินเกิน 840,000 บาทต่อปีภาษี มีเงินฝากกับธนาคารพาณิชย์และสถาบันการเงินเฉพาะกิจรวมกันไม่เกิน 500,000 บาท


2. คนถือบัตรคนจน ใช้ได้ไหม

ตอบ ลงทะเบียนได้ทุกคน แต่ผู้มีสิทธิ์เข้าร่วมโครงการจะต้องผ่านการตรวจสอบคุณสมบัติตามเกณฑ์ที่กำหนด


3.ผู้สูงอายุ ใช้ได้ไหม

ตอบ สามารถเข้าร่วมโครงการได้ หากมีคุณสมบัติตรงตามเกณฑ์ที่โครงการกำหนด


4.เงื่อนไขเยอะขนาดนี้ จะมีใครได้ใช้ แล้วจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้จริงไหม เอาอะไรมาวัด

ตอบ ปัจจุบันคณะกรรมการฯ ได้มีมติแต่งตั้งคณะอนุกรรมการกำกับการดำเนินโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่าน Digital Wallet ซึ่งคณะอนุกรรมการจะได้กำหนดรายละเอียดหลักเกณฑ์และเงื่อนไขทั้งหมดของโครงการ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะได้มีการประเมินผลกระทบต่อเศรษฐกิจต่อไป


5. จำกัดแค่ร้านเล็กในชุมชนเท่านั้น

ตอบ สามารถซื้อสินค้าในร้านค้าขนาดเล็ก รวมถึงร้านสะดวกซื้อ แต่ไม่รวมห้างค้าปลีก-ค้าส่งขนาดใหญ่ อย่างซุปเปอร์มาร์เก็ต และห้างสรรพสินค้า ตามนิยามและเงื่อนไขที่กระทรวงพาณิชย์กำหนด


6. ร้านค้าขนาดเล็ก (ร้านชุมชน) ขึ้นเงินทันทีไม่ได้ ต้องเอาไปซื้อของต่อ (เค้าสายป่านสั้น) สร้างภาระให้ร้านเล็กมากกว่าหรือเปล่า

ตอบ เงื่อนไขดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อให้มีการหมุนเวียนเงินในระบบเศรษฐกิจได้หลายรอบมากขึ้น แม้ร้านค้าขนาดเล็กไม่สามารถถอนเงินสดได้ แต่นำยอดเงินที่มีในแอปพลิเคชันไปใช้จ่ายต่อได้ทันทีกับร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการ


7. ทำแบบนี้ ร้านสะดวกซื้อรายใหญ่ๆ ของเจ้าสัว ก็รวยอยู่ดี แล้วจะช่วยรายย่อยได้จริงหรือ

ตอบ โครงการออกแบบให้ประชาชนซื้อสินค้าจากร้านค้าขนาดเล็กภายในอำเภอในการใช้จ่ายรอบแรก และร้านค้าขนาดเล็กดังกล่าวสามารถใช้จ่ายต่อกับร้านค้าทุกประเภทได้ จึงเกิดประโยชน์กับร้านค้าขนาดเล็กในชุมชนเป็นหลัก


8. รายย่อยที่ไม่ได้อยู่ในระบบภาษี จะทำยังไง จะได้ประโยชน์อะไรจากโครงการนี้

ตอบ ร้านค้าขนาดเล็กตามที่กระทรวงพาณิชย์กำหนดสามารถเข้าร่วมโครงการฯ ได้ แต่หากไม่อยู่ในระบบภาษี จะไม่สามารถถอนเงินสดจากโครงการได้


9. ยังมีรัศมีบังคับใช้อยู่มั้ย หรือใช้ที่ไหนก็ได้

ตอบ (1)การใช้จ่ายของประชาชนกับร้านค้าจะต้องใช้จ่ายภายในอำเภอ (2)การใช้จ่ายของร้านค้ากับร้านค้าไม่จำกัดพื้นที่


10. ทำไมต้องทำ Super App ใหม่ ไม่ใช้แอปพลิเคชัน "เป๋าตัง"

ตอบ คณะกรรมการฯ มีเป้าหมายพัฒนาระบบของโครงการฯ ให้เป็น Super App ของรัฐบาล โดยพัฒนาให้สามารถใช้จ่ายได้กับธนาคารอื่นๆ ในลักษณะ Open Loop ด้วย


11. งบทำ Super App เป็นช่องโหว่ ให้เกิดการทุจริตได้

ตอบ นายกรัฐมนตรีให้ความสำคัญกับการดำเนินโครงการต้องโปร่งใส ตรวจสอบได้ และเป็นไปตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด


12. ไหนบอกไม่กู้เงินไง?

ตอบ เป็นการบริหารจัดการงบประมาณจาก 3 แหล่ง ได้แก่

การบริหารจัดการงบประมาณปี 2567 : 175,000 ล้านบาท

การดำเนินโครงการผ่านหน่วยงานของรัฐ : 172,300 ล้านบาท

งบประมาณปี 2568 : 152,700 ล้านบาท


13 ธ.ก.ส.มีเงินจำกัด มีสภาพคล่องจากเงินฝาก 100% ที่ 1.8 ล้านล้านบาท ตอนนี้มีสินเชื่อแล้ว 1.2 ล้านล้าน สภาพคล่องไม่ได้เยอะขนาดนั้น

ตอบ ปัจจุบัน ธ.ก.ส. มีสภาพคล่องเพียงพอสำหรับการดำเนินโครงการฯ และสามารถระดมเงินฝากเพิ่มเติมได้เมื่อมีความจำเป็น


14. ธ.ก.ส. เป็น ATM ของรัฐบาลทุกสมัย

ตอบ ธ.ก.ส. เป็นสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐที่จัดตั้งขึ้นตามกฎหมายเฉพาะเพื่อสนับสนุนการดำเนินนโยบายของรัฐ ดังนั้น หากรัฐบาลมีนโยบายที่จำเป็นต้องดำเนินการผ่าน ธ.ก.ส. และอยู่ภายใต้ขอบเขตอำนาจหน้าที่ของ ธ.ก.ส. ก็สามารถดำเนินการได้


15. ใช้งบประมาณเยอะขนาดนี้ สร้างหนี้สาธารณะในอนาคต เป็นภาระประชาชน

ตอบ โครงการฯ สามารถกระตุ้นเศรษฐกิจ บรรเทาภาระค่าครองชีพ ยกระดับและพัฒนาคุณภาพชีวิตให้แก่ประชาชน ส่งเสริมให้ประชาชนและชุมชนมีความเข้มแข็งในด้านเศรษฐกิจสามารถพึ่งพาตนเองได้ สร้างและเพิ่มโอกาสในการประกอบอาชีพของประชาชน ซึ่งเป็นปัจจัยที่ช่วยส่งเสริมการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างยั่งยืนของประเทศ


16. คนที่ไม่ได้เงินจากโครงการนี้จะได้ประโยชน์อะไรบ้าง

ตอบ แม้จะไม่ได้รับเงินจากโครงการฯ แต่เมื่อโครงการฯ เริ่มดำเนินการแล้ว จะทำให้มีเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจกว่า 5 แสนล้านบาท จะช่วยให้เกิดการใช้จ่าย การลงทุน การผลิต การจ้างงานในระบบเศรษฐกิจ ซึ่งจะส่งผลดีต่อเศรษฐกิจในภาพรวม


17 มีระยะเวลาในการใช้จ่ายไหม

ตอบ โครงการฯ จะเริ่มให้ประชาชนใช้จ่ายประมาณไตรมาสที่ 4 ปี 2567 สำหรับระยะเวลาและเงื่อนไขต่าง ๆ เกี่ยวกับการใช้จ่ายในโครงการ คณะอนุกรรมการกำกับการดำเนินโครงการฯ จะได้มีการกำหนดรายละเอียดและประชาสัมพันธ์ให้ทราบต่อไป

นโยบายเงินดิจิทัล ถือเป็นนโยบายสร้างกระแสฮือฮามาตั้งแต่ช่วงการเลือกตั้ง จนเมื่อรัฐบาลเพื่อไทยเข้าบริหารประเทศ การขับเคลื่อนก็ยังติดขัดหลายประการ ทั้ง นิยามทางกฎหมาย วิธีการใช้จ่าย และแหล่งที่มาของงบประมาณ แต่หลังจากผลักดันและถกเถียงกันมานาน 8 เดือนในที่สุด รัฐบาลเศรษฐา ก็ทำตามสัญญาที่เคยประกาศได้สำเร็จเป็นก้าวแรก ส่วนก้าวต่อไป ประเทศไทยจะได้หรือเสียอะไรจากโครงการนี้คงต้องติดตามกันต่อ



เรียบเรียงโดย ปุลญดา  บัวคณิศร

ข่าวแนะนำ