"สัญญาทาส" ด้านมืดวงการบันเทิง K-POP สู่จุดเริ่มต้นการมี "กฎหมายคุ้มครองศิลปิน"

"สัญญาทาส" ด้านมืดวงการบันเทิง K-POP สู่จุดเริ่มต้นการมี "กฎหมายคุ้มครองศิลปิน" ป้องกันค่ายเอาเปรียบ

ต้อนรับเดือนมิถุนายน 2566 วงการบันเทิง K-POP ก็เจอกับกระแสข่าวที่ร้อนแรงอย่างมากสำหรับกรณี "สัญญาทาส" เมื่อล่าสุด 1 มิถุนายน 2566 ตัวแทนทางกฎหมายของศิลปินชื่อดังของเกาหลีใต้ "แบคฮยอน" (Baekhyun) "ซิ่วหมิน" (Xiumin) และ "เฉิน" (Chen) สมาชิกบอยแบนด์แห่งวง (EXO) ได้ยื่นเอกสารแจ้งขอยุติสัญญาจากค่ายเพลงชื่อดังอย่าง เอสเอ็ม เอนเตอร์เทนเมนต์ (SM Entertainment)

ก่อนหน้านี้ ศิลปินได้ส่งหนังสือถึง SM Entertainment 7 ครั้งผ่านตัวแทนทางกฎหมายพวกเขาขอให้ทางค่ายชี้แจงเกี่ยวกับรายละเอียดที่เกี่ยวข้องกับการคำนวณรายรับรายจ่ายตั้งแต่ช่วงเดือนมีนาคมถึงเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา แต่ทาง SM Entertainment กลับปฏิเสธพร้อมระบุว่าไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลในเรื่องนี้ได้

นอกจากนี้ หลังจากที่ SM Entertainment เซ็นสัญญาระยะยาวกับศิลปินที่มีระยะเวลามากกว่า 12 -13 ปีที่ผ่านมา พวกเขาผลักดันให้ศิลปินเซ็นสัญญาพิเศษอีกครั้งในภายหลัง ส่งผลให้สัญญาระยะยาวครอบคลุมอย่างน้อย 17-18 ปีขึ้นไป 

เกี่ยวกับเรื่องนี้ ศิลปินรู้สึกว่า SM Entertainment กำลังใช้ตำแหน่งที่เหนือกว่าในการบังคับให้ศิลปินลงนามในสัญญาทาสที่มีระยะเวลาเกือบ 20 ปี รวมถึงระยะเวลาการฝึกของพวกเขา ซึ่งศิลปินต้องการถ่ายทอดความอยุติธรรมต่างๆ ที่พวกเขาไม่สามารถพูดได้

จาก "สัญญาทาส" สู่ร่างกฎหมายฉบับใหม่ "ร่างกฎหมายอีซึงกิ" คุ้มครองศิลปินป้องกันค่ายเอาเปรียบ

ทั้งนี้ หากใครยังจำอีกหนึ่งประเด็นร้อนจากกรณีที่นักแสดงหนุ่มชื่อดัง "อีซึงกิ" (Lee Seung Gi) ที่ตลอด 18 ปีในวงการบันเทิง เขาไม่เคยได้รับค่าตอบแทนในการทำเพลง จากต้นสังกัด Hook Entertainment จนกลายเป็นคดีฟ้องร้องในเวลาต่อมา

จนในที่สุด เมื่อวันที่ 21 เมษายน 2566 กระทรวงวัฒนธรรม กีฬา และการท่องเที่ยวของเกาหลีใต้ ได้มีการผ่านร่างกฎหมายฉบับใหม่ "พระราชบัญญัติการพัฒนาอุตสาหกรรมศิลปะและวัฒนธรรมประชาชน" (Popular Culture and Arts Industry Development Act) หรือ "ร่างกฎหมายอีซึงกิ" ที่ป้องกันศิลปินในค่ายถูกเอาเปรียบ

ร่างกฎหมายใหม่นี้มุ่งไปที่หลายประเด็นในอุตสาหกรรม K-POP รวมถึงกฎใหม่เกี่ยวกับสิทธิของศิลปินที่อายุน้อย เช่นเดียวกับข้อผูกมัดตามสัญญาใหม่สำหรับบริษัทบันเทิง

เปิดเผยงบรายได้ต่อศิลปินอย่างน้อยปีละครั้ง

หนึ่งในข้อกำหนดใหม่ที่ใหญ่ที่สุดที่ร่างกฎหมายบังคับใช้กับบริษัทบันเทิง K-POP คือต้องมีการเปิดเผยงบรายได้ต่อศิลปินอย่างน้อยปีละครั้ง นอกเหนือจากทุกครั้งที่ศิลปินร้องขอ กฎใหม่เป็นไปตามข้อกล่าวหาอื้อฉาวที่เกิดขึ้นกับบริษัท HOOK Entertainment ของกรณีต่อ "อีซึงกิ" 

เมื่อ Dispatch สื่อของเกาหลีใต้ เปิดเผยว่านักร้อง "อีซึงกิ" เกี่ยวกับ "สัญญาทาส" ในช่วง 18 ปีที่ผ่านมาไม่เคยได้รับค่าจ้างสำหรับผลงานเพลงของเขาเลย แม้จะปล่อยเพลงฮิตออกมานับไม่ถ้วนก็ตาม

กฎหมายที่แก้ไขเพิ่มเติมกำหนดให้สัญญาบริการด้านวัฒนธรรมและศิลปะสมัยนิยมมีรายละเอียดเฉพาะเกี่ยวกับวิธีการชำระเงินและการหักค่าใช้จ่าย 

นอกเหนือจากความโปร่งใสทางการเงินแล้ว ร่างกฎหมายใหม่ยังกำหนดกฎใหม่หลายข้อสำหรับบริษัทที่จ้างศิลปินที่มีอายุน้อยกว่า โดยมีเป้าหมายเพื่อเสริมการคุ้มครองพวกเขา 

 

ลดขีดจำกัดชั่วโมงการทำงานสูงสุด

สิ่งสำคัญที่สุดคือ ร่างกฎหมายจะลดขีดจำกัดชั่วโมงการทำงานสูงสุดสำหรับศิลปิน/นักแสดงรุ่นเยาว์ กฎระเบียบก่อนหน้านี้อนุญาตให้ศิลปินอายุต่ำกว่า 15 ปีทำงานได้ถึง 35 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ และ 40 ชั่วโมงต่อสัปดาห์สำหรับผู้ที่มีอายุ 15 ปีขึ้นไป 

สำหรับกฎใหม่ มีรายละเอียด ดังนี้ คือ 

- อายุต่ำกว่า 12 ปี ทำงานไม่เกิน 25 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ หรือ 6 ชั่วโมงต่อวัน

- อายุ 12-15 ปี ทำงานไม่เกิน 30 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ หรือ 7 ชั่วโมงต่อวัน

- อายุ 15 ปีขึ้นไป ทำงานไม่เกิน 35 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ หรือไม่เกิน 7 ชั่วโมงต่อวัน

ห้ามกิจกรรมละเมิดสิทธิในการศึกษา/ความเสี่ยงต่อสุขภาพ

นอกจากนี้ ร่างกฎหมายยังห้ามกิจกรรมที่ละเมิดสิทธิในการศึกษาของศิลปิน เช่น การขาดเรียนหรือการออกกลางคัน รวมทั้งยังห้ามการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อสุขภาพ (บังคับให้ดูดีขึ้น และ/หรือลดน้ำหนัก ฯลฯ การเหยียดหยามทางร่างกายและ/หรือทางวาจา ไม่ว่าทางใดทางหนึ่ง)

อย่างไรก็ตาม เพื่อช่วยให้มั่นใจว่าสิทธิของศิลปินรุ่นเยาว์ได้รับการคุ้มครอง การแก้ไขกำหนดให้ธุรกิจบันเทิงแต่งตั้ง "เจ้าหน้าที่คุ้มครองเยาวชน" ที่รับผิดชอบในการปกป้องความเป็นอยู่ที่ดีของพวกเขา

ข้อมูลอ้างอิงจาก soompi / Koreaboo

ภาพจาก EXO / byhumanmade