BETA ส่งเครื่องบินไฟฟ้าในสายผลิตลำแรกทะยานสู่น่านฟ้า
สตาร์ตอัปด้านอากาศยาน เบตา เทคโนโลยี (Beta Technologies) จากรัฐเวอร์มอนต์ ประเทศสหรัฐอเมริกา ประสบความสำเร็จในการส่งเครื่องบินไฟฟ้าขนาดเต็มลำแรกจากสายการผลิตของบริษัท ทะยานขึ้นสู่น่านฟ้า พร้อมประกาศเตรียมเดินเครื่องโรงงาน หลังผ่านการรับรองเป็นที่เรียบร้อย
สตาร์ตอัปด้านอากาศยาน เบตา เทคโนโลยี (Beta Technologies) จากรัฐเวอร์มอนต์ ประเทศสหรัฐอเมริกา ประสบความสำเร็จในการส่งเครื่องบินไฟฟ้าลำแรกจากสายการผลิตของบริษัท ทะยานขึ้นสู่น่านฟ้าพร้อมประกาศเตรียมเดินเครื่องโรงงานหลังผ่านการรับรองการผลิตเป็นที่เรียบร้อย
โดยบริษัทระบุว่าโรงงานผลิตขนาด 18,580 ตารางเมตร ซึ่งตั้งอยู่ในรัฐเวอร์มอนต์แห่งนี้ ถือเป็น "โรงงานผลิตเครื่องบินไฟฟ้าขนาดใหญ่แห่งแรกในสหรัฐอเมริกา" และให้กำลังการผลิตเครื่องบินได้มากถึง 300 ลำต่อปี
ส่วนเครื่องบินที่ใช้ทดสอบขึ้นบินในครั้งนี้ คือ แอเลีย-ซีเอ็กซ์สามร้อย ซีทีโอแอล (Alia-CX300 CTOL) ซึ่งเป็นเครื่องบินพลังงานไฟฟ้าแบบปีกตรึง หรือปีกคงที่ (Fixed-Wing) ขนาดปีกอยู่ที่ 15 เมตร ภายในรองรับผู้โดยสารพร้อมคนขับได้ 5 ที่นั่ง ใช้รันเวย์สำหรับบินขึ้นและลงแบบเครื่องบินทั่วไป โดยสามารถทำความเร็วขณะบินล่องได้สูงสุดที่ประมาณ 250 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และทำระยะทางการบินต่อรอบชาร์จได้ไกลสุดที่ราว 620 กิโลเมตร
โดยในการทดสอบเที่ยวบินดังกล่าวซึ่งกินเวลาเกือบหนึ่งชั่วโมง ประกอบด้วยการบินขึ้นเพื่อไต่ระดับการบินไปที่ความสูงราว 2,100 เมตร เพื่อประเมินความเสถียร การทำความเร็วเบื้องต้น ก่อนที่จะลดระดับเพื่อลงจอดตามปกติ
นอกจากเครื่องบินพลังงานไฟฟ้าแล้ว ก่อนหน้านี้บริษัทยังพัฒนาแท็กซี่ไร้คนขับพลังงานไฟฟ้า ซึ่งเป็นอากาศยานแบบบินขึ้นและลงในแนวดิ่ง หรือ eVTOL ในชื่อรุ่น แอเลีย-สองห้าศูนย์ (Alia-250) เป็นอากาศยานที่ได้รับแรงบันดาลใจในการออกแบบ มาจากปีกของนกนางนวลอาร์กติก
ตัวเครื่องมีปีกกว้าง 15 เมตร ใช้ระบบขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า ซึ่งใช้พลังงานจากแบตเตอรี่ลิเธียมความหนาแน่นสูง ทำระยะทางการบินได้ถึง 402 กิโลเมตร และทำความเร็วสูงสุดถึง 222 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
ทั้งนี้บริษัทชูจุดเด่นของอากาศยานที่พัฒนาขึ้น คือการใช้พลังงานไฟฟ้า ช่วยประหยัดค่าพลังงานเชื้อเพลิง ปล่อยมลพิษน้อยกว่าอากาศยานพลังงานดีเซลทั่วไป โดยมีเป้าหมายที่จะให้บริการทั้งแบบรับส่งผู้โดยสาร และการขนส่งสินค้าทางอากาศ เพื่อการใช้งานที่หลากหลายขึ้นในอนาคต
ที่มาข้อมูล NewAtlas, SunCommunitynews,
ที่มารูปภาพ Beta Technologies
ข่าวแนะนำ