สรุปข่าว
ทีมนักวิจัยใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ ในการสร้างใบหน้าของหญิงสาวที่มีอายุกว่า 400 ปีขึ้นมาใหม่ โดยเป็นใบหน้าของหญิงสาวคนหนึ่ง ที่ชาวบ้านในยุคนั้นเชื่อกันว่าเธอเป็น “แวมไพร์” จากทางตอนเหนือของโปแลนด์
ภาพจากรอยเตอร์
หญิงคนนี้มีชื่อว่า “โซเซีย” (Zosia) เธอถูกฝังโดยมีแม่กุญแจล็อกไว้ที่นิ้วเท้า และมีเคียวเหล็กวางอยู่ที่คอ ซึ่งเป็นความเชื่อของชาวบ้านว่าจะช่วยป้องกันไม่ให้ "วิญญาณชั่ว" หลบหนี เพราะชาวบ้านเชื่อว่าเธอคือ “แวมไพร์” (Vampire) หรือผีชนิดหนึ่งตามความเชื่อชาวยุโรปยุคกลาง ที่มีหน้าตาเหมือนมนุษย์ทั่วไป แต่มีฟันแหลมคม ดื่มเลือดของมนุษย์ด้วยกันเป็นอาหาร
และเพื่อหาคำตอบว่าหญิงสาวคนนี้ มีหน้าตาเป็นอย่างไรกันแน่ ออสการ์ นิลส์สัน (Oscar Nilsson) นักโบราณคดีชาวสวีเดน จึงร่วมกับทีมวิจัยจากมหาวิทยาลัยในโปแลนด์ สร้างใบหน้าของเธอขึ้นมาใหม่ โดยใช้ข้อมูลจากดีเอ็นเอ เทคโนโลยีการพิมพ์ 3 มิติ และการปั้นดินจำลอง
กระบวนการเริ่มต้นด้วยการสร้างแบบจำลองกะโหลกศีรษะ ที่พิมพ์ด้วยเครื่องพิมพ์ 3 มิติ ก่อนจะค่อย ๆ สร้างชั้นดินจำลองชั้นกล้ามเนื้อ “ทีละมัด” เพื่อสร้างใบหน้าที่เหมือนมีชีวิต โดยใช้ข้อมูลโครงสร้างกระดูกที่ขุดพบ รวมกับข้อมูลเกี่ยวกับเพศ อายุ ชาติพันธุ์ และน้ำหนักโดยประมาณ เพื่อประเมินความลึกของลักษณะใบหน้า
โซเซียถูกค้นพบในปี 2022 โดยทีมนักโบราณคดีจากมหาวิทยาลัยนิโคเลาส์ โคเปอร์นิคัส (Nicolaus Copernicus) ในประเทศโปแลนด์ โดยพบว่าหญิงสาวคนนี้ เสียชีวิตด้วยวัยเพียง 18-20 ปี และจากการวิเคราะห์กะโหลกศีรษะของเธอ พบว่าเธอสุขภาพไม่ค่อยดีนัก ซึ่งอาจทำให้เธอมีอาการปวดหัวอย่างรุนแรง เป็นลม เกิดอาการชักบ่อย ๆ รวมถึงอาจมีปัญหาสุขภาพจิตด้วย
ถึงแม้ข้อมูลเกี่ยวกับชีวิตของโซเซีย จะไม่ได้มีมากนัก แต่จากส่ิงของต่าง ๆ ที่ถูกฝัง ชี้ให้เห็นว่าเธอมาจากครอบครัวที่ร่ำรวย หรืออาจเป็นชนชั้นสูง แต่ในช่วงชีวิตที่เธออาศัยอยู่ หรือยุโรปในศตวรรษที่ 17 เป็นยุคที่ความเชื่อเรื่องสัตว์ประหลาดเหนือธรรมชาติ พบได้เป็นปกติ ดังนั้นปัญหาสุขภาพต่าง ๆ ของเธอ จึงอาจทำให้ชาวบ้านกลัว และมองว่าเธอเป็นแวมไพร์ในที่สุด
ข้อมูลจาก reutersconnect, interestingengineering
ที่มาข้อมูล : -